การมาเยือนของกลุ่มเสื้อคลุมโลหิตดูเหมือนจะไม่ส่งผลใด ๆ ต่อเรือนหลิงเลย
แต่สำหรับโลกภายนอกมันทำให้เกิดเสียงฮือฮามากมาย
แม้แต่คนธรรมดาก็รู้จักชื่อเสียงของกลุ่มเสื้อคลุมโลหิต พวกเขารู้ว่าหากคนกลุ่มนี้ตั้งเป้าไว้ที่ผู้ใดแล้วคนผู้นั้นไม่มีวันรอดแน่นอน
เหตุการณ์ในวันนี้ มีผู้คนเป็นจำนวนไม่น้อยที่เห็นกลุ่มเสื้อคลุมโลหิตเดินหายเข้าไปในเรือนหลิง
ชาวบ้านที่อยู่ในระแวกนั้นต่างก็คิดว่าวันนี้หลิงตู้ฉิงแห่งเมืองฟินิกซ์คงเหลือแต่ร่างไร้วิญญาณ
แต่แทนที่จะเกิดเหตุการณ์วุ่นวายภายในเรือนหลิง ทุกสิ่งทุกอย่างกลับเงียบเชียบ กลุ่มเสื้อคลุมโลหิตที่หายเข้าไปในเรือนนั้น เปรียบเหมือนก้อนหินที่จมลงสู่มหาสมุทรโดยไร้ซึ่งสุ้มเสียงใด ๆ
สำหรับผู้คนทั่วไป เหตุการณ์แบบนี้พวกเขาแค่มีความรู้สึกสงสัยและแปลกใจ แต่สำหรับตระกูลที่เป็นคู่อริกับหลิงตู้ฉิงพวกเขากลับออกอาการร้อนรุ่ม
ซึ่งตระกูลนั้นจะเป็นตระกูลอื่นใดไม่ได้นอกซะจากตระกูลเจิ้น ในตอนนี้ความเกลียดชังระหว่างตระกูลเจิ้นกับหลิงตู้ฉิงเริ่มหยั่งลึกขึ้นเรื่อย ๆ สายตาของพวกเขาจึงมุ่งความสนใจไปที่หลิงตู้ฉิงอย่างจดจ่อ เมื่อเห็นกลุ่มเสื้อคลุมโลหิตที่แข็งแกร่งบุกเข้าในเรือนหลิงแต่กลับเงียบหายไปเฉย ๆ เจิ้นป่าเจ่าจึงอดไม่ได้ที่จะเริ่มรู้สึกกังวลในความแข็งแกร่งของหลิงตู้ฉิง
“ไอ้หลิงตู้ฉิงมันมีใครหนุนหลังอย่างลับ ๆ อยู่หรือเปล่า? หรือว่าจะเป็นญาติมันที่เมืองหลวง?” เจิ้นป่าเจ่านั้นครุ่นคิดอย่างหนักหน่วงแต่ก็ยังหาคำอธิบายตัวตนของหลิงตู้ฉิงไม่ได้สักที เขาไม่เชื่อว่าความแข็งแกร่งของหลิงตู้ฉิงจะมีอะไรมากมายนัก
“หรือว่าเป็นไปได้ไหมที่ตระกูลมี่ส่งผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดในตระกูลไปคุ้มกันตระกูลหลิง? แต่พวกตระกูลมี่มันไม่กลัวที่จะแหย่หนวดเสืออย่างกลุ่มผู้เชี่ยวชาญเสื้อคลุมโลหิตหรืออย่างไร?”
เหล่าตระกูลใหญ่ส่วนมากมักหลีกเลี่ยงที่จะปะทะโดยตรงกับองค์กรลอบสังหารที่ทรงพลัง เพราะองค์กรเหล่านี้หากเป็นศัตรูด้วยแล้วค่อนข้างยากที่จะรับมือ
ส่วนทางด้านตระกูลมี่ มี่ตั้วตั้วนั้นแตกต่างจากเจิ้นป่าเจ่า มี่ตั้วตั้วเข้าใจในความแกร่งของหลิงตู้ฉิงมากกว่าตระกูลเจิ้น เขาจึงไม่ค่อยห่วงเรื่องความปลอดภัยของคนในเรือนหลิงสักท่าไหร่
แต่ไม่ว่าเขาจะวางใจอย่างไร เขาก็ยังส่งคนไปลอบดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรือนหลิง ถึงยังไงซะลูกสาวของเขาก็อยู่ที่นั่น หากมีอะไรเกิดผิดพลาดขึ้นมา เขาก็สามารถส่งคนไปสนับสนุนที่เรือนหลิงได้ในทันที
หลังจากได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ในเรือนหลิง มี่ตั้วตั้วก็ถอนหายใจ “ตามที่คาดไว้ ผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์นั้นทรงพลังจริง ๆ ปรมาจารย์หลิงสามารถจัดการกลุ่มเสื้อคลุมโลหิตได้อย่างง่ายดาย”
ที่ผ่านมาเขาแน่ใจว่าหลิงตู้ฉิงเป็นผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่มี่ไลได้เล่าเรื่องที่นางแอบได้ยินบทสนทนาของหลิงตู้ฉิงกับถังชี่หยุนแล้ว มี่ตั้วตั้วก็ยิ่งประเมินค่าหลิงตู้ฉิงสูงขึ้น
เมื่อเทียบกับผู้เชี่ยวชาญอักขระเวทย์ในตำนาน พวกกลุ่มเสื้อคลุมโลหิตจะนับเป็นตัวอะไรได้เมื่ออยู่ต่อหน้าหลิงตู้ฉิง
“เจ้าได้รวบรวมวัตถุดิบที่ปรมาจารย์หลิงร้องขอแล้วหรือยัง?” มี่ตั้วตั้วพูดกับที่ปรึกษาที่เชื่อถือได้ของเขา “ถ้าเจ้ารวบรวมเสร็จแล้วก็ส่งไปให้ปรมาจารย์หลิงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
เมื่อเผชิญความกดดันจากการร่วมมือของหอการค้าหมอกเมฆาและหอการค้าอื่น ๆ มี่ตั้วตั้วก็ได้แต่ส่งคนไปซื้อวัตถุดิบสำหรับโอสถกำเนิดรากฐานอย่างลับ ๆ
เขามั่นใจว่าเมื่อหอการค้าของเขาเปิดตัวโอสถกำเนิดรากฐานเมื่อไหร่ สถานการณ์จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
สิ่งที่เขาต้องทำตอนนี้คือการวิเคราะห์กับผลกระทบของโอสถกำเนิดรากฐาน ที่ปรึกษาของเขาตอบว่า “นายท่าน ขณะนี้ทางเรายังคงแอบซื้อวัตถุดิบสำหรับโอสถกำเนิดรากฐานอยู่ แต่การกระทำของเราทำให้ราคาวัตถุดิบของทั้งทวีปกำลังพุ่งสูงขึ้น ส่วนวัตถุดิบที่ปรมาจารย์หลิงร้องขอเราเตรียมได้แค่เพียงส่วนเล็ก ๆ เท่านั้นนอกจากนี้ยังมีวัตถุดิบบางอย่างที่ไม่สามารถหาได้ในทวีปของเรา ข้าได้สั่งให้คนของเราเดินทางไปยังทวีปอื่น ๆ เพื่อหาซื้อเรียบร้อยแล้ว”
เมื่อได้ยินคำพูดของที่ปรึกษา มี่ตั้วตั้วอดไม่ได้ที่จะเริ่มหัวเราะอย่างขมขื่น
ในตอนที่พวกเขาได้รับสูตรสำหรับโอสถกำเนิดรากฐานพวกเขาล้วนตื่นเต้นดีใจเป็นการใหญ่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)