บทที่ 59 เอาชนะใจสาวงาม[รีไรท์]
บทที่ 59 เอาชนะใจสาวงาม[รีไรท์]
เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงตู้ฉิง ร่างสีแดงโลหิตได้ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าที่ว่างเปล่า
ร่างที่ปรากฎขึ้นเป็นผู้หญิงที่แต่งกายด้วยชุดสีแดงโลหิต นางแสดงสีหน้าเคร่งขรึมขณะที่มองลงมายังกลุ่มของหลิงตู้ฉิงที่อยู่ในลานกลางเรือน
เมื่อหญิงสาวคนนี้ปรากฏตัวขึ้น ซ่งเหวินเถาก็พูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว “นะ นะ..นายท่าน นางเป็นประมุขของกลุ่มเสื้อคลุมโลหิต นางคือผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขอบเขตรวมแสงดารา! นางบรรลุขอบเขตรวมแสงดารามาได้หลายปีแล้ว ตอนนี้ข้าไม่แน่ใจว่านางบรรลุไปถึงระดับไหนแล้ว”
อันที่จริง ต่อให้ซ่งเหวินเถาไม่ได้บอกว่าสตรีผู้นี้อยู่ในขอบเขตรวมแสงดารา ทุกคนก็สามารถเดาออกได้ว่านางอยู่ขอบเขตไหน
เนื่องจากขอบเขตที่ต่ำที่สุดที่จะสามารถทำให้ผู้เชี่ยวชาญบินได้ก็คือขอบเขตรวมแสงดาราเท่านั้น
เมื่อเทียบกับความกลัวของซ่งเหวินเถากับคนอื่น ๆ ของเรือนหลิง บรรดาคนของเรือนหลิงทุกคนทำราวกับว่าพวกเขาไม่เห็นว่าคนในอากาศเป็นผู้เชี่ยวชาญที่อันตรายใด ๆ เลย พวกเขาต่างมองไปที่หลิงตู้ฉิงและพบว่าหลิงตู้ฉิงยังคงดูสงบ
“เจ้าลอยตัวอยู่บนอากาศเพื่อจะอวดว่าเจ้าบินได้งั้นเหรอ?” หลิงตู้ฉิงถามต่อ “ถ้ามีอะไรที่เจ้าอยากจะคุย ก็ลงมาคุยกันตรงนี้ อย่ามัวแต่ลอยอยู่บนอากาศค้ำหัวข้า มันไม่สุภาพเจ้ารู้บ้างไหม?”
ผู้หญิงในชุดสีแดงเลือดส่ายหัวแล้วยิ้มเยาะ “ข้าไม่โง่เข้าไปในเรือนเจ้าหรอก แต่เจ้าก็คงไม่กล้าออกมาจากเรือนของเจ้าเช่นกัน”
หลิงตู้ฉิงหัวเราะเยาะ “ฮ่า ฮ่า ฮ่า ทำไมข้าจะไม่กล้าออกไป ข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ!”
หลังจากพูดจบหลิงตู้ฉิงหันกลับมาและสั่งคนอื่น ๆ “อยู่แต่ในเรือนและอย่าออกไปเด็ดขาด”
จากนั้นเขาก็พุ่งออกไปที่นอกเรือน ยืนอยู่ตรงหน้าประตูด้านนอกพร้อมด้วยกระบี่ไม้ไผ่ในมือ
“ข้าออกมาแล้วเจ้าลงมาได้เลย” หลิงตู้ฉิงพูดกับผู้หญิงชุดสีแดงโลหิต
ผู้หญิงคนนั้นร่อนมาจากท้องฟ้าและหยุดยืนห่างออกไปไม่ไกลจากหลิงตู้ฉิง นางมองหลิงตู้ฉิงอย่างระแวดระวังและพูดว่า “ข้าเป็นประมุขของกลุ่มเสื้อคลุมโลหิต เสี่ยวเย่วเฟิง เจ้าจะให้ข้าเรียกเจ้าว่าอย่างไรดี?”
“หลิงตู้ฉิง! เจ้าไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมากมาย เจ้าว่ามาว่าเจ้ามาที่นี่ต้องการอะไร?”หลิงตู้ฉิงถาม
“ดูเหมือนว่าลูกน้องหลายคนของข้าจะตายด้วยน้ำมือของเจ้าใช่ไหม? และข้าเห็นคนของข้าคนหนึ่งอยู่ในเรือนของเจ้า เจ้าจะส่งตัวเขาให้ข้าพาเขากลับไปได้ไหม?” เสี่ยวเย่วเฟิงถาม
หลิงตู้ฉิงตอบอย่างเมินเฉยสั้น ๆ ว่า “ไม่!”
เสี่ยวเย่วเฟิงเงียบไปชั่วครู่ หลังจากนั้นไม่นานนางพูดกับหลิงตู้ฉิงอย่างใจเย็นว่า “กลุ่มของข้าไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของเจ้ามาก่อน คนของข้าจึงยอมรับงานจากผู้จ้างวานที่ต้องการจะเอาชีวิตเจ้า แต่ตอนนี้ข้าคิดว่าเราน่าจะเลิกราต่อกันได้ นับแต่ต่อจากนี้เป็นต้นไปข้าจะโมฆะสัญญาจ้างวานฆ่าเจ้าทันที”
จากนั้นนางก็หันหลังกลับและเตรียมจะบินจากไป
อันที่จริงแล้วนางก็ไม่ได้อยากจะอ่อนข้อให้กับหลิงตู้ฉิงแบบนี้สักเท่าไหร่นัก เพราะในภารกิจนี้นางสูญเสียผู้เชี่ยวชาญที่มีฝีมือเป็นจำนวนมาก แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขอบเขตประสานทะเลปราณก็ถูกสังหารโดยหลิงตู้ฉิง
มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะปลุกปั้นผู้เชี่ยวชาญสักคนให้ขึ้นมาอยู่ในขอบเขตประสานทะเลปราณ ดังนั้นเมื่อนางได้ยินว่าในไม่กี่วันที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงหลายคนของนางได้ล้มหายตายจากลงไปที่เรือนของตระกูลหลิงในเมืองฟินิกซ์ เมื่อมีการตายมากขนาดนี้นางโกรธเป็นอย่างมากถึงขนาดที่นางลงมือตรวจสอบเรื่องราวและมายังเรือนหลิงด้วยตัวเอง
แต่เมื่อนางบินมาถึงเรือนหลิง นางกลับต้องตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นในลานเล็ก ๆ ของเรือนแห่งนี้ สิ่งที่นางตกตะลึงไม่ใช่เป็นเพราะซ่งเหวินเถา ผู้ทรยศกลุ่มของนางที่กำลังเล่นบทเป็นบ่าวอันแสนดีอยู่กับศัตรูของนาง แต่กลับเป็นค่ายกลขนาดใหญ่ที่ถูกวางไว้อย่างรัดกุมทั่วทั้งบริเวณของเรือนแห่งนี้
เมื่อนางเห็นเช่นนี้อย่าว่าแต่จะไปแก้แค้นเลย แค่ปรากฏตัวออกไปให้หลิงตู้ฉิงเห็นนางยังไม่กล้าแม้แต่จะทำ!
ในสายตาคนธรรมดา ลานกลางเรือนของสถานที่แห่งนี้อาจจะเป็นลานธรรมดา ๆ ที่ปูด้วยหินชนวนใหม่เอี่ยม แต่ในสายตาของนางลานแห่งนี้มันคือลานสังหารที่พร้อมจะปล่อยพลังวิญญาณอันมหาศาลบดขยี้ศัตรูทุกคนที่กล้าบุกเข้ามารบกวนเรือนแห่งนี้ แม้นางจะมีความแข็งแกร่งในขอบเขตรวมแสงดารา นางก็ยังไม่กล้าลงไป ได้แต่ซ่อนตัวและมองดูจากบนื้องฟ้าจนกระทั่งหลิงตู้ฉิงพบนาง
หลังจากที่นางถูกเรียกโดยหลิงตู้ฉิง นางจึงไม่กล้าซ่อนตัวอีกต่อไป นางทำได้แค่จำใจยอมเผยกายออกมา เพราะหากนางไม่เผยกาย นางสัมผัสได้ว่าหลิงตู้ฉิงจะต้องใช้อำนาจของค่ายกลที่อยู่ในลาน ผ่านกระบี่ไม้ที่เขาถืออยู่โจมตีมายังนางแน่นอน
หลังจากที่นางเผยกาย เมื่อนางเห็นว่าหลิงตู้ฉิงไม่ได้มีเจตนาที่จะโจมตีนาง นางจึงลองพูดหยั่งเชิงหลิงตู้ฉิงเกี่ยวกับการนำตัวซ่งเหวินเถากลับไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)