เมื่อหลิงตู้ฉิงอธิบายจบ บรรดาผู้คนก็มองไปที่เขาด้วยสายตาสับสนปนไปด้วยความยินดี
หลังจากนั้น หลิงยี่เทียนก็นำเย่จางเฟิงและลั่วหยุน ตามเทียนหลีออกไปยึดครองอาณาจักรเลือดทระนง
ส่วนทางด้านของสำนักเต๋าสวรรค์ พวกเขาเองก็เตรียมพร้อมที่จะจากไปเช่นกัน
“ที่นี่น่าจะปลอดภัยน้อยลงหากไม่มีพวกข้าช่วยคุ้มกันให้” ซวนหยวนพูดกับหลิงตู้ฉิง “แต่เนื่องจากว่านถิงนั้นได้พาส่วนหนึ่งของผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของสำนักข้าติดตามนางมาด้วย ซึ่งมันก็ทำให้ที่สำนักของข้าอยู่ในความเสี่ยงเช่นกัน ดังนั้นข้าคงต้องรีบขอตัวกลับก่อน”
หลิงว่านถิงพูดเสริมขึ้น “ท่านพ่อ ข้าเองคงต้องรีบกลับไปที่สำนักเต๋าสวรรค์เช่นกัน แต่ในเมื่อตอนนี้ผนึกที่คอยปกป้องทะเลชางหมางถูกคลายออกแล้ว ซึ่งมันทำให้ครอบครัวของเราอาจมีปัญหาในอนาคตโดยเฉพาะน้องหกเขาอาจจะมีอันตรายได้ ดังนั้นข้าจะทิ้งคนของข้าเอาไว้ที่นี่ 5 คนไว้คอยคุ้มครองน้องหก ส่วนในอนาคตถ้าหากเกิดปัญหาใหญ่อะไรขึ้นและต้องการความช่วยเหลือของข้า ท่านพ่อสามารถสั่งให้น้องห้าส่งข้อความมาหาข้าได้เลย ข้าแน่ใจว่านางน่าจะมีวิธีการส่งข้อความมาหาข้าแน่นอน”
หลิงว่านถิงรู้เป็นอย่างดีว่าอีกไม่นานพ่อของนางก็คงจะออกเดินทางอีกรอบเช่นกัน ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นอาณาจักรจันทราจะยิ่งอ่อนแอลง ดังนั้นในตอนนี้เมื่อนางมีอำนาจพอที่จะช่วยเหลือน้องชายของนางได้ นางจึงยื่นมือเข้าช่วยเหลือทันที
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “อืม เจ้าไปเถอะ เมื่อมีเวลาพ่อจะไปเยี่ยมเจ้าที่สำนักเต๋าสวรรค์อีกครั้ง อ๋อ และเจ้าจงอย่าลืมอีก 800 ปีข้างหน้า เจ้าต้องเดินทางไปที่สำนักเที่ยงธรรมเพื่อช่วยเหลือครูถังของเจ้า”
หลิงว่านถิงยิ้มและตอบกลับ “ข้าจะไปแน่นอนท่านพ่อ”
หลังจากนั้น หลิงว่านถิงก็โบกมืออำลาและทิ้งคนของนางเอาไว้ 5 คน ซึ่งประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิ 3 คน และขอบเขตราชัน 2 คน
เมื่อหลิงว่านถิงจากไปพร้อมกับบรรดาคนของสำนักเต๋าสวรรค์ หลิงยู่ชานก็เดินเข้ามาหาหลิงตู้ฉิง
หลิงยู่ชานเดินเข้ามาหาพร้อมกับสีหน้าซับซ้อน และพูดกับหลิงตู้ฉิงว่า “ท่านพ่อ ถึงแม้ว่าบางคนในตระกูลเทียน เช่น เทียนเก๋อจะทำผิดต่อข้า แต่เทียนซ่งหยูและเทียนหลีนั้นดีต่อข้ามากบวกกับที่ข้าเคยได้ยินจากท่านว่า ตัวตนของข้าที่เกิดขึ้นมาได้นั้นเป็นเพราะข้าได้ทำการสวมชะตาของคนในตระกูลเทียนมาเกิด ดังนั้นข้าจึงมีความคิดที่จะตอบแทนให้กับพวกเขา”
“ในตอนที่พวกเขามาพบข้า ข้าจึงไม่ได้บอกความจริงกับพวกเขาไปและยังคงปฏิบัติตัวกับพวกเขาเหมือนว่าพวกเขาเป็นญาติร่วมสายเลือดของข้าเหมือนเดิม ดังนั้นในเมื่อความลับนี้มีเพียงท่านแค่คนเดียวเท่านั้นที่รู้เรื่อง ข้าจึงอยากจะขอร้องท่านให้เก็บความลับนี้เอาไว้อย่าไปบอกใครเพื่อข้า ส่วนเรื่องของเทียนเก๋อนั้นแน่นอนว่าข้าต้องคิดบัญชีกับเขาในอนาคตแน่นอน ท่านคิดว่าการตัดสินใจแบบนี้ของข้าเป็นยังไง?”
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “ในตอนนี้พ่อไม่ได้รู้สึกโกรธแค้นอะไรกับตระกูลเทียนอีกแล้ว ดังนั้นไม่ว่าเจ้าจะตัดสินใจเรื่องระหว่างพวกเขากับเจ้าแบบไหน เจ้าจงตัดสินใจด้วยตัวเองได้เลย!”
“ถ้างั้นก็ขอบคุณมากท่านพ่อ!” หลิงยู่ชานหัวเราะ “แต่พวกเขาก็ได้พูดกับข้าเอาไว้เช่นกันว่า พวกเขาจะทิ้งผู้เชี่ยวชาญของตระกูลเทียนไว้ให้กับข้า 2 คนเพื่อคุ้มครองข้า ซึ่งหลังจากนี้ข้าคงจะเก็บตัวบ่มเพาะไปสักพักใหญ่ ๆ เพื่อปลุกสายเลือดของข้าอีกครั้ง และจากนั้นคงรั้งอยู่ที่นี่ต่อไปอีกสักหน่อยเพื่อคอยช่วยเหลือน้องหก”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ในใจของเขาคิดว่าเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
หากขุมกำลังอื่น ๆ ที่คิดร้ายต่ออาณาจักรจันทรา นำกองกำลังเข้ามารุกรานแต่กลับได้เห็นว่าที่แห่งนี้ถูก 3 ขุมกำลังมหาอำนาจ เช่น สำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ สันเขาทรราช และสำนักเต๋าสวรรค์ให้การสนับสนุนอยู่ คนเหล่านั้นคงจะตกตะลึงจนแทบลืมหายใจแน่นอน
และนั่นเป็นเพียงแค่เปลือกนอกเพื่อขู่ไปก่อนเบื้องต้น
หากมีปัญหาใหญ่อะไรขึ้นมาจริง ๆ ตราบใดที่ตัวของเขาอยู่ที่นี่ หลิงยี่เทียนก็ไม่มีอันตรายอะไรแน่นอน
และที่สำคัญที่สุดก็คือในตอนนี้ตัวตนของหลิงยี่เทียนยังไม่ถูกเปิดเผย ไม่เช่นนั้นมหาจักรพรรดิสูงสุดแห่งมวลมนุษย์จะต้องส่งผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนออกมาเพื่อปกป้องหลิงยี่เทียน และนั่นยังไม่รวมไปถึงบรรดาผู้คนที่บ่มเพาะเต๋าแห่งการสนับสนุนก็จะมาสมทบอีกด้วยเช่นกัน
เมื่อถึงเวลานั้น หลิงยี่เทียนจะไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรอีกกับเรื่องการขาดแคลนผู้ใต้บังคับบัญชา มันจะมีคนมากมายที่มาถวายตัวรับใช้เขาอย่างเต็มที่
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวอย่างลับ ๆ จากนั้นเขามองไปที่เหลียนปู้ชิง ที่กำลังทำความเข้าทักษะการสร้างสมบัติที่เขาถ่ายทอดให้ไปอย่างบ้าคลั่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)