พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) นิยาย บท 633

สรุปบท บทที่ 633 การเดินทางเพื่อเนรเทศภูเขาเอ้อหลง: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

อ่านสรุป บทที่ 633 การเดินทางเพื่อเนรเทศภูเขาเอ้อหลง จาก พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) โดย Internet

บทที่ บทที่ 633 การเดินทางเพื่อเนรเทศภูเขาเอ้อหลง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายAction พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

มี่ตั้วตั้วที่ได้ยินบทสนทนาทุกอย่างที่หลิงตู้ฉิงได้คุยกับบรรพบุรุษอสูรทมิฬสงคราม ซึ่งมันทำให้ในใจของเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยคำถามมากมาย

แต่ก่อนที่เขาจะได้เอ่ยถามอะไรออกไป หลังจากที่บรรพบุรุษอสูรทมิฬสงครามจากไปแล้ว หลิงตู้ฉิงกลับพูดขึ้นมาก่อนว่า “เมื่อชีวิตที่แล้วของข้า เพื่อการสร้างอาวุธของข้า ข้าหลอกเอาสมบัติประจำเผ่าและโอกาสในการสร้างวิถีเต๋าของเขามา ตอนนี้เขาจึงหมดโอกาสที่จะสร้างวิถีเต๋าของเขาเอง และเผ่าของเขาก็ไม่มีโอกาสส่งต่อมรดกให้กับชนรุ่นหลัง”

“และเป็นเพราะเหตุนั้นตาเฒ่านั่นจึงจำเป็นที่ต้องสละร่างกายที่แท้จริงของตนเองหลอมรวมเข้ากับเผ่าของเขาเพื่อค้ำจุนไม่ให้เผ่าของเขาสูญสลายไป ซึ่งมันส่งผลให้เขาไม่สามารถออกมาจากเผ่าของเขาเองได้อีกตลอดกาล”

“แต่มันก็ยังมีทางแก้ไขอยู่อีกหนึ่งทางก็คือเผ่าของเขาจะต้องฝ่าออกไปจากโลกนี้ให้ได้เพื่อหนีกฎที่พันธนาการพวกเขาไว้โดยใช้เจดีย์เชื่อมเก้าสวรรค์ของท่าน ดังนั้นนับจากนี้ไปท่านก็แค่ตั้งใจบ่มเพาะ ส่วนพวกเขาจะคอยจับตาดูท่านอย่างใกล้ชิดกว่าที่เคย ซึ่งมันจะทำให้ท่านปลอดภัยมากขึ้นด้วย”

มี่ตัวตั้วมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสายตาตกตะลึง ในตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมบรรพบุรุษอสูรทมิฬสงครามถึงต้องการที่จะฆ่าหลิงตู้ฉิงมากขนาดนั้น และทำไมหลิงตู้ฉิงถึงไม่ตอบโต้อะไรเลย

หลิงตู้ฉิงหยิบอาวุธศักดิ์สิทธิ์หนึ่งในสองอันที่เหลืออยู่ส่งให้กับมี่ตั้วตั้ว และพูดว่า “ข้าจะฝากอาวุธศักดิ์สิทธิ์อันนี้เอาไว้กับท่านก่อน เมื่อตาเฒ่านั่นส่งอสูรเผ่าของเขามา ท่านก็จงมอบอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชิ้นนี้ไปให้กับอสูรของตาเฒ่านั่น”

“และอย่าได้คิดอิจฉาอะไรทั้งนั้น สิ่งนี้มันก็แค่อาวุธศักดิ์สิทธิ์ ท่านยังไม่สามารถใช้งานมันได้ ดังนั้นสิ่งนี้มันจะมีประโยชน์กว่าหากอยู่ในมือของผู้ที่คู่ควร อ๋อ และอีกอย่างฝากรบกวนท่านบอกกับตาเฒ่านั่นด้วยว่าข้าต้องการหยดเลือดของเขาสักหน่อย ข้าจำเป็นต้องใช้มัน”

แน่นอนว่าหยดเลือดของบรรพบุรุษอสูรทมิฬสงครามนี้ หลิงตู้ฉิงจะนำมันไปให้กับหลิงยู่ชานเพื่อให้หลิงยู่ชานแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม

มี่ตั้วตั้วรับอาวุธศักดิ์สิทธิ์มาและเก็บมันลงไปด้วยอาการตื่นเต้น จากนั้นเขามองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าซาบซึ้งและไม่รู้ว่าจะตอบแทนอย่างไร

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ท่านไม่จำเป็นต้องเกรงใจอะไรข้าหรอก แค่ตั้งใจบ่มเพาะก็พอ”

มี่ตั้วตั้วพยักหน้า จากนั้นเขาก็ไม่พูดอะไรต่อและ พาโม่จู่ออกจากคฤหาสน์สราญรมย์ไป

ส่วนทางด้านของหวงอี้เฟย แน่นอนว่าในตอนนี้เขายังคงต้องรั้งอยู่ในคฤหาสน์สราญรมย์ต่อก่อนเพื่อศึกษาข้อมูลของเต๋าแห่งโอสถที่ได้รับการถ่ายทอดมา

หลิงตู้ฉิง ในเวลานี้จึงเหลืออาวุธศักดิ์สิทธิ์เพียงชิ้นเดียวอยู่กับตัว ซึ่งแน่นอนว่าเขาจะใช้มันเพื่อเป็นแกนกลางของค่ายกลป้องกันให้กับสถาบันจันทรา

จากนั้น 1 ปีถัดมา ในที่สุดหมิงยู่ก็เดินทางมาถึงทะเลชางพร้อมกับหนิงฉิง

ในตอนนี้หลังจากที่หนิงฉิงได้ทำการใช้โอสถและของวิเศษต่าง ๆ ที่ได้มาจากตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียนครบทั้งหมด ระดับการบ่มเพาะของนางจึงพัฒนามาถึงระดับนภาครามขั้นสูงสุด ซึ่งเหลืออีกเพียงก้าวเดียวจะก้าวข้ามมาอยู่ที่ระดับสวรรค์สมบูรณ์

ส่วนทางด้านหมิงยู่ ในตอนนี้ร่างที่แท้จริงของนางได้บ่มเพาะไปถึงระดับสวรรค์สมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว

“นายท่าน ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?” หมิงยู่รีบถามขึ้นทันทีเมื่อมาถึง

หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและตอบกลับ “ข้าสบายดีแล้วในตอนนี้ ว่าแต่พวกเจ้ามาหาข้าที่นี่มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ?”

หมิงยู่หัวเราะ “ก็เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สันเขาทรราชมันน่ากลัวออกขนาดนั้น ข้าก็ต้องเป็นห่วงท่านเป็นธรรมดา หลังจากที่ข้าสร้างร่างโลหิตอมตะได้อีกร่างสำเร็จ ข้าก็รีบพาหนิงฉิงมาดูท่านที่นี่ทันที ข้ารู้สึกโล่งใจจริง ๆ ที่ท่านไม่เป็นอะไร”

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ในตอนที่อยู่ที่สันเขาทรราช ข้าต้องขอโทษเจ้าจริง ๆ ที่ทำให้เจ้าต้องเสียร่างโลหิตอมตะไป”

หลิงฟ่างหัวหัวเราะ “ข้าจะไม่ลืมแน่นอน! หากข้าไม่สามารถสู้ได้ ข้าจะหนีและรอจนกว่าท่านพ่อจะมาช่วยข้าคิดบัญชี และอีก 800 ปี นับจากนี้ข้าจะไปที่สำนักเที่ยงธรรมเพื่อช่วยเหลือครูถัง! เอาล่ะข้าจำได้หมดแล้วข้าไปก่อนนะท่านพ่อ!”

หลิงตู้ฉิงโบกมือวาดตราประทับและแปะมันลงไปบนประตูมิติของหลิงฟ่างหัว จากนั้นเขาพยักหน้าและพูดว่า “เอาล่ะเสร็จแล้ว จงไปเถอะ”

เรื่องการบ่มเพาะของหลิงฟ่างหัวนั้นเป็นเรื่องที่เขาหนักใจมาตลอด เนื่องจากว่าตัวตนระดับสูงที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับพลังมิตินั้นเป็นตัวตนที่ฆ่าได้ยากมาก ๆ ดังนั้นในชีวิตที่แล้วจำนวนที่เขาฆ่าได้สำเร็จมันจึงมันเพียงแค่หยิบมือ ซึ่งมันทำให้เขามีความรู้ในเต๋าแห่งมิติไม่เพียงพอที่จะสอนหลิงฟ่างหัว

และเมื่อรวมกับในมหาพิภพไร้จุดจบนั้นไม่มีขุมกำลังไหนที่มีความเชี่ยวชาญในเต๋าแห่งมิติอยู่เลย มันจึงยิ่งทำให้เขารู้สึกจนปัญญา เขาจึงทำได้แต่เพียงหวังว่าหลิงฟ่างหัวจะสามารถหาวิธีการพัฒนาเส้นทางการบ่มเพาะของตัวนางเองเจอ

ส่วนตัวเขานั้นทำได้เพียงแค่ช่วยเหลือในเรื่องอื่น ๆ เช่น ด้านความปลอดภัยและสนับสนุนโอสถต่าง ๆ ให้นางพื่อให้นางใช้ในการบ่มเพาะอย่างเพียงพอ

แต่สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือ หลังจากที่หลิงฟ่างหัวออกจากทะเลชางหมางไปแล้ว นางกลับเอ่ยขึ้นว่า “เฒ่าหยู ภูเขาเอ้อหลงอยู่ที่ไหน? ก่อนหน้านี้ข้าเคยลั่นวาจาเอาไว้ว่าข้าจะเนรเทศภูเขาเอ้อหลงไปอยู่มิติอื่น ในตอนนี้มันถึงเวลาที่ข้าจะทำตามที่ข้าได้พูดไว้แล้ว”

หยูเจิ้นไห่ตอบกลับด้วยท่าทีเคารพ “คุณหนู ภูเขาเอ้อหลงอยู่ในอาณาเขตเอ้อหลง ข้ารู้จักทางที่จะไปที่นั่น”

“ถ้างั้นพวกเราก็ไปที่อาณาเขตเอ้อหลงกันเลย!” หลิงฟ่างหัวออกคำสั่งทันที

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หยูเจิ้นไห่ ผู้ซื่อสัตย์ก็นำทางคุณหนูของเขาออกผจญภัยไปยังอาณาเขตเอ้อหลง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)