ตอนนี้หลิงตู้ฉิงรู้ตัวดีว่าเขาได้ทำอะไรลงไปหลายอย่างซึ่งแต่ละอย่างมันก็ไม่งามสักเท่าไหร่ แต่ปัญหาคือเขาเองก็ควบคุมตัวเองไม่ได้
ในความปราถนาทั้งหกที่เขาถูกกระตุ้น เขาสามารถควบควบคุมความปรารถนาในการฆ่าได้อย่างไม่มีปัญหา ส่วนความปรารถนาในราคะเขาก็ไม่มีปัญหาเช่นกั นเพราะชีวิตนี้เขามีภรรยาอยู่แล้วหลายคนเขาจึงเข้าใจมันดี
แต่ว่าความปรารถนาอีก 4 อย่างที่เขายังควบคุมพวกมันไม่ได้ก็คือ ปรารถนาที่จะลิ้มรส ปรารถนาที่จะโดดเด่น ปรารถนาที่จะรื่นรมย์ และสุดท้ายความละโมบ
เมื่อชีวิตที่แล้ว เขาไม่เคยที่จะใส่ใจในเรื่องของการเป็นจุดเด่นเพราะไม่ว่าเขาจะไปปรากฏกายที่ไหน เขาย่อมกลายเป็นจุดสนใจอยู่แล้ว เพราะความแข็งแกร่งและความโหดเหี้ยมของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่เคยมีประสบการณ์รู้สึกปรารถนาในเรื่องอยากเด่นอยากดังมาก่อน
ส่วนเรื่องความปรารถนาที่จะรื่นรมย์ ชีวิตที่แล้วเขาร่อนเร่พเนจรตัวคนเดียวไปเรื่อย เขาไม่มีทั้งครอบครัวหรือสหายใด ๆ ดังนั้นคนอย่างเขาจะไปรู้จักความรื่นรมย์ได้ยังไง?
แม้แต่ตำหนักไร้หทัยก็เป็นบรรดาลูกศิษย์ของเขาทั้งนั้นที่สร้างขึ้นมาให้กับเขาในภายหลัง ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ได้ทำให้เขารื่นรมย์อะไร
และถ้าจะพูดถึงเรื่องความละโมบ ตลอดทั้งชีวิตไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่ เขาทำตามกฎการแลกเปลี่ยนเท่าเทียมมาโดยตลอด ซึ่งถึงแม้ในบางครั้งคู่ค้าของเขาอาจจะไม่ทันได้แลกเปลี่ยนกับเขาเนื่องจากถูกเขาฆ่าตายไปก่อน เขาก็จะหยิบไปแค่เพียงสิ่งของที่เขาต้องการจะแลกเปลี่ยนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น อย่างอื่นเขาจะไม่แตะต้องเลย
ความปรารถนาเหล่านี้จริง ๆ แล้วมันปะทุขึ้นตั้งแต่ที่เขาเห็นหน้าราชาเทพมารหกปรารถนาแล้ว แต่บังเอิญว่าในตอนนั้นครอบครัวของเขายังคงยืนมองอยู่และด้วยคำสอนของถังชี่หยุนที่เขายังคงจำขึ้นใจ เขาจึงพยายามสะกดกลั้นมันเอาไว้
แต่แล้วเมื่อครอบครัวของเขาจากไป เขาจึงหมดความจำเป็นที่จะอดกลั้นความปรารถนาของเขาที่ถูกกระตุ้น จนตอนนี้การกระทำของเขามันก็เลยกลายเป็นดูเหมือนไม่ใช่ตัวเขา
ทางด้านของเหล่าผู้ติดตามหลิงตู้ฉิงก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน
แต่ด้วยความจงรักภักดี พวกเขาจึงยังคงยอมทำตามถึงแม้ว่าคำสั่งบางอย่างมันจะดูเว่อวังไปหน่อยก็ตามที
โม่หยูถังพุ่งเข้าไปหาผู้พิทักษ์เต๋าของโม่หยุนทันทีด้วยง้าวเทวะพินาศจำลองในมือ ส่วนอุลบาเองก็พุ่งตัวไปหาโม่หยุนเพื่อจัดการฆ่าตามที่หลิงตู้ฉิงสั่งมา
ในตอนแรกที่อุลบาเห็นว่าหลิงตู้ฉิงแสดงท่าทีแปลก ๆ เขาก็ไม่ได้คิดอะไร แต่แล้วเมื่อหลิงตู้ฉิงสั่งให้เขาฆ่าโม่หยุน และตบท้ายประโยคว่าจะลงโทษเขาหากเขาทำไม่ได้ มันก็ทำให้เขากลัวจนหัวลุกเพราะตอนที่หลิงตู้ฉิงเอ่ยว่าจะลงโทษ สีหน้าของเขามันดูไม่โอบอ้อมอารีเหมือนอย่างเคย
ดังนั้นเมื่อรู้ว่าอาจารย์ของตัวเองในตอนนี้ค่อนข้างจะไม่ปกติ อุลบาจึงต้องทุ่มสุดตัวเพื่อที่จะฆ่าโม่หยุนให้ได้เร็วที่สุด
เขารีบพุ่งไปหาโม่หยุนแบบไม่คิดชีวิตและใช้ทักษะพลังจิตก่อกวนโม่หยุนก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นเขาก็เข้าประชิดตัวปล่อยให้โม่หยุนโจมตีร่างของเขา ซึ่งแน่นอนว่าจุดที่โดนโจมตีเขาก็เปลี่ยนให้เป็นร่างวิญญาณ และจากนั้นเขาก็ชกเข้าไปที่หัวของโม่หยุนดับชีวิตโม่หยุนภายในการโจมตีเดียว
เมื่อฆ่าเสร็จ อุลบาก็รีบแบกร่างไร้วิญญาณของโม่หยุนมาหาหลิงตู้ฉิง และพูดว่า “อาจารย์ ข้าฆ่าเขาได้แล้ว!”
“ฆ่าได้ดีมาก!” หลิงตู้ฉิงหัวเราะดังลั่น “เจ้านี่ช่างรู้ใจอาจารย์จริง ๆ ที่เอาศพมันมาด้วย วิชามหาเวทย์สูบโลหิต!”
หลิงตู้ฉิงเรียกเอาจอกโลหิตศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในร่างของหมิงยู่ออกมา จากนั้นเขาก็ใช้มันเก็บเลือดของโม่หยุนไปจนหมด
ทางด้านของอุลบา เมื่อเห็นว่าเลือดในร่างของโม่หยุนถูกสูบไปจนหมดแล้ว เขาก็โยนซากศพที่เหือดแห้งทิ้งไปอย่างไม่ใยดี
ตัดมาที่ด้านของโม่หยูถัง ซึ่งในตอนนี้กำลังเผชิญหน้ากับปีศาจสวรรค์ขอบเขตจักรพรรดิด้วยความลังเล
ส่วนทางด้านของปีศาจสวรรค์ขอบเขตจักรพรรดิก็ไม่ได้ใส่ใจโม่หยูถังสักเท่าไหร่ ในตอนนี้เป้าหมายของเขาคืออยากจะฆ่าหลิงตู้ฉิงมากกว่า เพราะหลิงตู้ฉิงเป็นตัวต้นเหตุทำให้ทั้งบรรพบุรุษและอัจฉริยะเผ่าของเขาตาย แต่ในเมื่อโม่หยูถังมาขวางทางเขาไว้แบบนี้ เขาจึงจำเป็นต้องโจมตีโม่หยูถังก่อนโดยการปล่อยสายฟ้าฟาดเข้าใส่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)