หลังจากขับไล่ตัวแทนของกองกำลังบุกรุกทั้งสี่ไปแล้ว จักรพรรดินีภูตนางฟ้าก็กลับเข้าไปด้านพระราชวังของนาง และเรียกให้สมาชิกเผ่าทุกตนมารวมกันในทันที
กองกำลังทั้งสี่ได้ล้อมรอบป่าภูตนางฟ้าไว้ทุกทิศทาง จนตอนนี้มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่พวกนางจะหนีไป
หลังจากสมาชิกเผ่าทั้งหมดต่างมารวมตัวกันที่หน้าพระราชวังจนหมดแล้ว จักรพรรดินีภูตนางฟ้าก็กวาดสายตามองเหล่าผู้คนของนางสักพัก จากนั้นนางตะโกนขึ้นว่า “ในตอนที่เผ่าภูตนางฟ้าของพวกเรายังรุ่งเรือง จำนวนของพวกเรามีมากกว่าร้อยล้านตน แต่ตอนนี้พวกเราเหลือกันเพียงแค่ 500,000 ตน และยิ่งไปกว่านั้นวันนี้ที่พวกเราเหลือเพียงจำนวนน้อยนิด ไอ้พวกสารเลวข้างนอกนั่นกลับยังกล้าที่จะเรียกร้องให้ข้าส่งพวกเราไปเป็นทาสของพวกมันถึง 150,000 ตน! ดังนั้นครั้งนี้ข้าพอแล้วกับการต้องอดทนอย่างขมขื่น ครั้งนี้ข้าจะออกไปสู้ตายกับพวกมัน”
“แต่ข้าจะไม่บังคับขืนใจพวกเจ้า หากเจ้าตนไหนที่คิดว่าทางเลือกการเป็นทาสนั้นมันดีกว่าการตายไปพร้อม ๆ กับข้า ข้าก็จะไม่บังคับพวกเจ้าให้สู้ร่วมกับข้า กองกำลังทั้งสี่ข้างนอกนั่นมีความแข็งแกร่งกว่าพวกเรามากมาย วันนี้หากใครออกไปสู้ตายกับข้า ข้าคงต้องบอกพวกเจ้าก่อนเลยว่าทั้งข้าและพวกเจ้า พวกเราตายกันหมดแน่นอน แต่ถึงแม้ว่าพวกเราจะตาย พวกเราก็จะตายอย่างมีศักดิ์ศรี! พวกเราจะตายอย่างเสรีชน!”
“เอาล่ะใคร พร้อมจะตายไปกับข้าจงเตรียมตัวให้พร้อม วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่พวกเราจะได้รบเคียงข้างกันและถึงแม้ว่าพวกเราจะตาย พวกเราก็ยังมีหน้าไปเจอกับเหล่าบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วว่าถึงแม้พวกเราจะตาย พวกเราก็ตายแบบมีศักดิ์ศรี!”
ทันทีที่จักรพรรดินีภูตนางฟ้าพูดจบ ภูตนางฟ้าเฒ่าตนหนึ่งก็ก้าวออกมาและตะโกนขึ้นทันที “ไอ้พวกสารเลวนั่นรังแกพวกเรามานาน วันนี้จะเป็นวันที่ทุกอย่างมันจบลง! ยอมจำนน? ข้าคนหนึ่งที่ไม่ยอมจำนนกับพวกมันแน่นอน! หากใครมีความคิดที่จะยอมจำนนพวกเจ้าลองคิดให้ดี ๆ ว่าชีวิตพวกเจ้าจะเป็นยังไง? ลองนึกถึงบรรดาพี่น้องของพวกเจ้าที่พลาดตกไปอยู่ในมือของไอ้พวกหยาบช้าเหล่านั้น และนึกว่าอนาคตของพวกเจ้าจะมีสภาพแบบไหน!”
“หากพวกเจ้าอย่านึกแค่เพียงว่าเมื่อพวกเจ้ายอมจำนนแล้วไอ้พวกเลวนั่นจะเอาพวกเจ้าไปเป็นของเล่นแค่อย่างเดียว เมื่อถึงเวลาที่พวกมันหมดสนุก พวกมันจะเอาพวกเจ้าไปย่างบนตะแกรงและกินพวกเจ้าทั้งตัว!”
“ฉะนั้นสิ่งเดียวที่พวกเจ้าควรจะทำตอนนี้ก็คือการสู้ตายไปกับองค์จักรพรรดินีของพวกเรา และก่อนที่พวกเจ้าจะตายข้า ขอแนะนำว่าพวกเจ้าอย่าเหลือร่างของพวกเจ้าเอาไว้บนสนามรบเพื่อให้ไอ้พวกสารเลวนั่นเอาไปใช้ประโยชน์ ก่อนที่จะตายพวกเจ้าจงจำไว้ให้ขึ้นใจว่าจงพุ่งไปที่พวกมันรวมตัวกันอยู่เยอะ ๆ และระเบิดร่างลากพวกมันให้ตายไปกับพวกเจ้าให้มากที่สุด ด้วยวิธีนี้พวกมันจะไม่มีทางนำร่างของพวกเจ้าไปย่ำยีต่อได้แถมชีวิตของพวกเจ้าจะได้ตายอย่างคุ้มค่าที่สุด!”
แต่ก่อนที่จะมีใครพูดอะไรขึ้นต่อ จักรพรรดินีภูตนางฟ้าก็ยกมือปรามขึ้นและพูดว่า “เฒ่าเซียวเจ้าไม่จำเป็นต้องพูดอะไรแบบนี้หรอก ปล่อยให้ทุก ๆ คนเลือกชะตาชีวิตของพวกเขาเองกันโดยอิสระไปเถอะ หากพวกเขายอมจำนนและรอดไปได้จริง ๆ สักวันพวกเขาอาจจะสร้างอาณาจักรภูตนางฟ้าของพวกเราขึ้นมาใหม่ได้เหมือนเดิมก็ได้ เอาล่ะพวกเจ้าทุกคนจงแยกย้ายกันไปตัดสินใจกันได้แล้ว หากใครต้องการร่วมรบกับข้าก็จงไปเตรียมตัวซะ ส่วนใครที่คิดอีกแบบพวกเจ้าก็ตัดสินใจเอาเองว่าทำอะไรต่อไป!”บรรดาภูตนางฟ้าเมื่อได้ยินเช่นนี้ต่างก็ก้มหน้าตัดสินใจกับทางเลือกในอนาคต
จากนั้นเมื่อภูตนางฟ้าทุกตนแยกย้ายกันไปเตรียมตัวจนหมด ภูตนางฟ้าชราที่ถูกเรียกว่าเฒ่าเซียวก็เดินมาหาจักรพรรดินีภูตนางฟ้าและพูดว่า “ฝ่าบาท ตราบใดที่องค์หญิงยังคงอยู่ข้างนอกนั่น พวกเราเผ่าภูตนางฟ้าก็ไม่มีวันถูกทำลายจนหมด ดังนั้นท่านอย่าได้กังวลอะไรอีกเลย”
จักรพรรดินียิ้มและตอบกลับ “ข้าอยากที่จะเห็นลูกสาวของข้าเติบโตจนสามารถพัฒนาเผ่าพันธุ์ของพวกเราให้ยิ่งใหญ่เหมือนแต่ก่อนได้จริง ๆ เลย”
เฒ่าเซียวยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “ตอนนี้ข้าหวังเพียงแค่คนที่นำตัวองค์หญิงไปอยู่ด้วยจะเมตตาต่อนางและไม่ทำให้นางต้องทนทุกข์แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว ส่วนเรื่องการที่นางจะทำให้เผ่าของเรากลับมายิ่งใหญ่นั้น ข้าเกรงว่ามันคงจะเป็นเรื่องยากเพราะหลังจากวันนี้พวกเราทั้งหมดก็คงได้แต่สู้ตายกับไอ้พวกสารเลวนั่น และมันคงจะมีแค่ส่วนน้อยที่อาจโชคดีรอดชีวิตอยู่”
จักรพรรดินีภูตนางฟ้าถอนหายใจ “ตราบใดที่ยังมีพวกเราเหลือรอดอยู่มันก็ยังคงมีความหวัง เอาล่ะเจ้าเองก็เถอะจงไปเตรียมได้แล้ว การต่อสู้กำลังจะเริ่มในไม่ช้า”
ตอนนี้ในเผ่าภูตนางฟ้ามีแค่เพียงเฒ่าเซียวและจักรพรรดินีภูตนางฟ้าเท่านั้นที่รู้ว่าอี้ลั่วเอ๋อยังมีชีวิตอยู่ข้างนอก
หลังจากที่เซียวเหลียนเอาข้อมูลนี้กลับมาจากเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ พวกเขาทั้งคู่ก็รีบลบความทรงจำเรื่องนี้ที่อยู่ในหัวของเซียวเหลียนทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)