อาณาเขตเงินตรานั้นนับว่ามีเส้นสายที่กว้างขวางเป็นอย่างมากจากการทำการค้ากับสำนักมากมายซึ่งหากคำนึงจากผลประโยชน์ถ้าสำนักเหล่านั้นรู้ว่า สำนักเงินตรากำลังถูกโจมตีพวกเขาจะต้องรีบส่งคนมาช่วยแน่นอนและนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม หลิงตู้ฉิง ถึงต้องวางแผนโจมตีอย่างฉับพลันแบบนี้และจำเป็นต้องผนึกกฎแห่งมิติของอาณาเขตเงินตราเพื่อตัดการเชื่อมต่อของประตูเคลื่อนย้ายก่อนที่จะเริ่มฆ่าคน
“ในนามของข้า ข้าขอโมฆะอำนาจกฎแห่งมิติที่อยู่ในอาณาเขตเงินตราทั้งหมด!”
หลิงตู้ฉิงปักง้าวเทวะพินาศลงไปบนพื้นทันทีและใช้พลังของหนึ่งในร่างโลหิตอมตะของหมิงยู่จนหมดเพื่อลบล้างพลังกฎแห่งมิติที่มีอยู่ในอาณาเขตเงินตราทั้งหมดให้หายไปรวมไปถึงยับยั้งไม่ให้มันปรากฎขึ้นชั่วคราว
การกระทำเช่นนี้ของ หลิงตู้ฉิง ส่งผลให้ประตูเคลื่อนย้ายทั้งหมดที่มีอยู่ในอาณาเขตเงินตราใช้งานไม่ได้ทันทีรวมไปถึงพวกแหวนมิติหรือสมบัติต่างๆที่เกี่ยวกับมิติก็ใช้ไม่ได้ทั้งหมดเช่นกัน
“เอาล่ะตอนนี้ข้าทำให้อาณาเขตเงินตราไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากโลกภายนอกได้อีกแล้ว ทุกคนบุกเข้าไปฆ่าไอ้พวกหน้าเงินพวกนี้ให้หมดไม่ต้องปราณี!” หลิงตู้ฉิง พูดขึ้น “ในสมองของคนเหล่านี้ทั้งหมดมีแต่คำว่าเงินเพียงอย่างเดียวจนละทิ้งความเป็นมนุษย์ไปจนหมดแล้วดังนั้นพวกเจ้าสามารถฆ่าพวกเขาได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด ข้ารับประกันได้ว่าสวรรค์จะไม่ถือโทษพวกเจ้าต่อให้พวกเจ้าจะฆ่าพวกเขาตายจนหมดและยิ่งไปกว่านั้นยิ่งพวกเจ้าทำผลงานได้มากเท่าไหร่ส่วนแบ่งของพวกเจ้าจะยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย!”
อันที่จริงต่อให้ หลิงตู้ฉิง บอกว่าพวกเขาอาจจะถูกสวรรค์ลงโทษหากฆ่าคนมากเกินไปพวกเขาก็ไม่สนใจอยู่ดี เพราะสมบัติที่คนของอาณาเขตเงินตรานำออกมาใช้งานนั้นมันล่อตาล่อใจพวกเขามากเกินไป
พวกเขาแต่ละคนนั้นมาจากสำนักมหาอำนาจกันทั้งนั้นแต่ภายในสำนักของพวกเขานั้นยังมีอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ไม่ถึง10ชิ้นด้วยซ้ำและตอนนี้แค่เริ่มต้นปะทะกัน อาณาเขตเงินตรากลับสามารถควักเอาอาวุธศักดิ์สิทธิ์มากกว่า200ชิ้นมารบกับพวกเขาได้ทันที เมื่อเห็นเช่นนี้พวกเขาจะไม่รู้สึกอิจฉาได้ยังไง?
ซวนหยวน แสดงสีหน้ามืดหม่นเป็นอย่างมากเมื่อเห็นภาพความร่ำรวยของอาณาเขตเงินตราที่มีมากขนาดนี้และอดไม่ได้ที่จะนึกย้อนถึงสำนักของเขาเองซึ่งเป็นสำนักอันดับต้นๆของโลกเช่นกันว่าถ้าเทียบกันในด้านความร่ำรวยแล้วสำนักเต๋าสวรรค์นั้นคงรวยไม่ถึง1ในร้อยของสำนักเงินตราแน่นอน!
หากสำนักเต๋าสวรรค์อยากจะรวยกว่าเดิมวันนี้คือโอกาสที่ดีที่สุด
ทางด้านของ ซวนหยวนตู่ และเหล่าภูติขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดอีก20ตนต่างมองไปที่เหล่าผู้คนของอาณาเขตเงินตราที่ถืออาวุธศักดิ์สิทธิ์มากกว่า200ชิ้นด้วยสีหน้าโง่งม เพราะหลังจากที่พวกเขาได้รู้แล้วว่าโลกภายนอกมันเป็นยังไงพวกเขาจึงได้รู้ว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์นั้นมีค่ามากแค่ไหนซึ่งเผ่าของพวกเขายังไม่มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์เลยสักชิ้น!
เย่เจียงไห่ หัวเราะด้วยสีหน้าโหดเหี้ยมและพูดว่า “ข้ากำลังกังวลอยู่พอดีว่าในอนาคตตำหนักของข้าจะอยู่รอดได้ยังไงเมื่อข้าและเตาเพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้องขึ้นไปอยู่บนโลกเบื้องบนเพราะตำหนักของข้าคงจะไม่มีอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์คอยค้ำจุนอีกต่อไป ในเมื่อพวกเจ้าร่ำรวยกันนักงั้นข้าขอหยิบติดไม้ติดมือไปสักอันสองอันเอาไว้ให้เหล่าศิษย์ข้าได้ใช้ป้องกันตัวในอนาคตสักหน่อยก็แล้วกัน!”
เมื่อพูดจบ เย่เจียงไห่ ปลดปล่อยเปลวเพลิงออกจากร่างของเขา
ไปทางกลุ่มคนของอาณาเขตเงินตราในทันที
ทางด้านกลุ่มคนของอาณาเขตเงินตราก็พยายามใช้อาวุธของพวกเขาต่อต้านอย่างเต็มกำลังเช่นกันแต่น่าเสียที่พลังมันแตกต่างกันมากเกินไปส่งผลให้การต่อต้านของพวกเขานั้นไร้ประโยชน์และท้ายที่สุดพวกเขาก็ถูกเปลวเพลิงของ เย่เจียงไห่ เผาจนเหลือแต่เถ้าถ่าน
ในเวลาเดียวกันบรรดาผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดทั้งหลายที่หลิงตู้ฉิงชวนมาก็เริ่มลงมือโจมตีเช่นกัน
กลุ่มคนของอาณาเขตเงินตราส่วนใหญ่ที่ปรากฎกายออกมารับศึกนั้นอยู่ในขอบเขตราชันแค่เพียงเท่านั้นดังนั้นต่อให้พวกเขาจะมีอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์อยู่ในมือ พวกเขาก็ไม่สามารถใช้อำนาจของมันได้อย่างเต็มที่และเมื่อพวกเขาโดนการโจมตีอย่างเต็มกำลังของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิขั้นสูงสุดที่มีอาวุธระดับจักรพรรดิอยู่ในมือพวกเขาจึงไม่สามารถต้านทานอะไรได้และถูกกวาดล้างอย่างรวดเร็ว ส่วนบรรดาคนที่มีระดับการบ่มเพาะอยู่ที่ขอบเขตจักรพรรดิก็พอที่จะปกป้องตัวเองได้บ้างเมื่อพวกเขาใช้อำนาจของอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์หากแต่สุดท้ายพวกเขาก็ตายอยู่ดีเช่นกันเมื่อโดนโจมตีซ้ำๆหลายที Aileen-novel
ในเวลาเดียวกับที่ทุกคนกำลังกวาดล้างกลุ่มคนของอาณาเขตเงินตรา หลิงตู้ฉิง ก็ใช้พลังของร่างโลหิตอมตะของหมิงยู่อีกร่างมาเกื้อหนุนระดับการบ่มเพาะของเขาอีกรอบจนกลายเป็นขอบเขตราชัน
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ลงมือผนึกพลังกฎแห่งมิติไปแล้ว หลิงตู้ฉิง ก็ไม่ได้ทำอะไรต่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)