หลิงยี่เทียนไม่เข้าใจสิ่งที่หลิงตู้ฉิงพูดเลยสักนิด แต่ในเมื่อพ่อของเขาเอ่ยว่ามันเป็นความตั้งใจของพ่อเขาเอง ดังนั้นหลิงยี่เทียนจึงไม่กังวลใจกับเรื่องนี้อีกต่อไป
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราควรจะทำอะไรกันต่อดีท่านพ่อ?” หลิงยี่เทียนถามขึ้น
“อันดับแรกตอนนี้เจ้าจะต้องส่งคนของเจ้ามาที่นี่เพื่อยึดครองอาณาเขตทั้งหลายของภูมิภาคอี้ซางรวมไปถึงเก็บเกี่ยวทรัพยากรของที่นี่เพื่อนำไปพัฒนาอาณาจักรของเจ้าเอง เจ้าจะต้องดำเนินการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดก่อนที่คนทั้งโลกจะรู้ว่าที่นี่ปลอดภัยพอที่จะให้พวกเขาเข้ามามีส่วนแบ่งได้” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น “ส่วนบรรดากองกำลังที่ตัดสัมพันธ์กับพวกเราไปเจ้าไม่จำเป็นต้องไปตามพวกเขาให้มามีส่วนร่วม จงถือซะว่าพวกเขาไม่มีวาสนาในเรื่องนี้ เจ้าชวนแต่เฉพาะกองกำลังที่ยังมีสัมพันธ์กับพวกเราให้มามีส่วนร่วมกับพวกเราที่นี่ก็พอ”
“ถ้างั้นข้าจะรีบกลับไปเตรียมคนมาที่นี่ทันที!” หลิงยี่เทียนพูดขึ้นด้วยแววตาเปล่งประกาย จากนั้นเขารีบกลับไปที่อาณาจักรจันทราทันที
ไม่นานต่อมาผู้คนมากมายก็ออกมาจากประตูเคลื่อนย้าย
“ท่านลุง พวกข้าสามารถยึดครองอาณาเขตที่นี่ได้งั้นเหรอ?” มู่หยุนชาน ซึ่งได้รับคำเชิญจากหลิงยี่เทียน เขารีบเดินทางมาที่นี่ด้วยตัวเอง
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ถูกต้อง เจ้าสามารถเลือกอาณาเขตของเจ้าได้ตามสบาย จงเลือกไปสักหนึ่งอาณาเขตอย่าเลือกมากกว่านั้น เพราะทุกคนล้วนมีวาสนาของตัวเอง หากเจ้าโลภมากเลือกเกินกว่าจำนวนที่เจ้าควรจะได้รับมันจะเป็นผลเสียต่อเจ้าในอนาคต”
มู่หยุนชานพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ข้าเข้าใจแล้วท่านลุง!”
จากนั้นมู่หยุนชานรีบใช้ประตูเคลื่อนย้ายกลับไปที่สำนักกระบี่เอกภพของเขาทันที เพื่อคัดเลือกคนของเขาส่วนหนึ่งให้มาลงหลักปักฐานที่นี่
จากนั้นกองกำลังมากมายที่ยังคงรักษาสัมพันธ์กับหลิงตู้ฉิงก็ทยอยเดินทางเข้ามาที่ภูมิภาคอี้ซางเพื่อเลือกอาณาเขตของพวกเขาเอง
แม้แต่อุลบาก็เลือกอาณาเขตไปหนึ่งอาณาเขตเอาไว้สำหรับสำนักเงามายาของเขา
“ผู้อาวุโส ข้าขอเป็นตัวแทนของสำนักวิญญาณกระบี่ครอบครองอาณาเขตสักอาณาเขตจะได้รึเปล่า?” ตงฟางจุนเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าประหม่า
“เอาเลย!” หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “จงไปเลือกอาณาเขตที่ยังว่างอยู่ที่เจ้าคิดว่าเหมาะสม แล้วกลับไปแจ้งสำนักของเจ้าให้มายึดครองมันได้เลย”
อันที่จริงไม่เพียงแต่หลิงตู้ฉิงจะอนุญาตให้กองกำลังต่าง ๆ ที่เป็นพันธมิตรกับเขาเข้ามาเลือกอาณาเขต ขุนนางบางคนที่มีผลงานโดดเด่นของราชสำนักอาณาจักรจันทราก็ได้รับอนุญาตให้มาครอบครองอาณาเขตคนละหนึ่งอาณาเขตเช่นกันเพื่อเป็นรางวัล
ถึงแม้ว่าบางกองกำลังจะไม่มีความแข็งแกร่งเพียงพอจะยึดครองได้ทั้งอาณาเขต แต่อย่างน้อย ๆ พวกเขาก็ยังสามารถขุดเอาทรัพยากรต่าง ๆ ที่มีอยู่ในอาณาเขตที่พวกเขาเลือกมาใช้ได้
“สามี ข้าจะเลือกอาณาเขตสัก 2 อาณาเขต อาณาเขตหนึ่งให้กับไช่หยุน ส่วนอีกอาณาเขตเป็นของข้าเอง!” หวงซียิ้มและพูดขึ้น
“ตามใจเจ้าก็แล้วกัน!” หลิงตู้ฉิงหัวเราะ
เขาจะปฏิเสธได้ยังไง?
นี่คือครอบครัวของเขาเอง ต่อให้สมาชิกในครอบครัวของเขาแต่ละคนจะเลือกอาณาเขตมากกว่าคนละหนึ่งเขาก็ไม่ว่า!
จากนั้นหลิงตู้ฉิงทำการเลือกอาณาเขตเอาไว้จำนวนหนึ่ง และปิดผนึกพวกมันเอาไว้และแจ้งกับทุกคนว่าอาณาเขตที่เขาผนึกเอาไว้นั้นเขาจะเก็บเอาไว้เองเพื่อเอาไว้มอบให้กับผู้ที่สมควรได้รับพวกมันในอนาคต
หลังจาก 10 ปีผ่านไป อาณาเขตในภูมิภาคอี้ซางส่วนใหญ่ก็ถูกจับจองไปมากมาย และบรรดากลุ่มกองกำลังที่จับจองอาณาเขตในภูมิภาคอี้ซางก็เร่งสร้างประตูเคลื่อนย้ายของตนเองเพื่อขนทรัพยากรกลับไปที่สำนักของพวกเขา ซึ่งส่งผลให้ราคาวัสดุที่ใช้สำหรับสร้างประตูเคลื่อนย้ายพุ่งขึ้นสูงหลายเท่าจนเป็นประวัติการณ์
เย่ชิงเฉิงก็เลือกอาณาเขตเอาไว้อาณาเขตหนึ่งเช่นกันสำหรับสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ของนาง แต่สีหน้าของนางในเวลานี้ดูมีแต่ความกังวล
“สามี นี่มันก็นานแล้วที่ข้ายังไม่ได้รับข่าวอะไรจากสำนักของข้าเลย ข้าไม่เข้าใจเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นั่น” เย่ชิงเฉิงพูดกับหลิงตู้ฉิง
หลิงตู้ฉิงยิ้มและตอบกลับว่า “ผู้คนบนโลกเบื้องบนของสำนักเจ้าเคยมีข้อขัดแย้งกับข้าอยู่ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติที่ผู้ส่งสาสน์ของพวกเจ้าจะตัดขาดความสัมพันธ์กับอาณาจักรจันทราเมื่อเขารู้ว่าอาณาจักรจันทรามีความสัมพันธ์กับข้าอย่างไร แต่เจ้าไม่ต้องห่วง พวกเขาไม่ชอบข้าเพียงคนเดียวเท่านั้น ดังนั้นเรื่องนี้มันจึงไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า เอาไว้เดี๋ยวข้าเสร็จธุระเมื่อไหร่ ข้าจะไปที่สำนักของเจ้าเพื่อแก้ไขทุกอย่างให้เรียบร้อย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)