เนื่องจากเส้นทางมิติที่หลิงตู้ฉิงใช้งานนั้นเป็นเส้นทางที่เปิดขึ้นแบบเร่งด่วน ดังนั้นพลังมิติที่อยู่ในเส้นทางจึงมีความผันผวนเป็นจำนวนมาก ซึ่งถึงแม้ว่าร่างกายของเขาจะไม่เป็นอะไรแต่เสื้อผ้าของเขานั้นย่อมไม่สามารถต้านทานได้
หลิงตู้ฉิงเดินทางมาถึงสำนักเต๋าสวรรค์ในเวลาเดียวกับที่จางซิงอี้กำลังเอ่ยคำพูดถึงเขาพอดี
หลิงตู้ฉิงมองไปที่ดวงวิญญาณของซือโถวเหวินหยวนที่กำลังหลุดออกจากร่างและพูดว่า “เจ้าไม่ค่อยมีโชคสักเท่าไหร่สำหรับโลกมนุษย์ แต่ข้าจะทำให้แน่ใจว่าเจ้าจะมีวาสนาที่ดีแน่นอนเมื่ออยู่ในยมโลก ซึ่งเจ้าจะไม่กลายเป็นตัวตนที่ไร้ค่าเหมือนอย่างที่เจ้าเคยเป็นแน่นอน”
“อันที่จริงข้ากำลังหาคนไปส่งข่าวกับเจ้ายมโลกอยู่พอดี เอาเป็นว่าข้าฝากเจ้าไปส่งข่าวให้กับเขาสักหน่อยก็แล้วกัน จงบอกกับเขาว่าแดนกระดูกขาวนั้นข้าจะจัดการเอง เขาไม่จำเป็นต้องออกมา ไม่เช่นนั้นถ้าเขาไม่ฟังคำข้า ข้าจะจัดการกับเขาด้วยตัวเอง”
จากนั้นหลิงตู้ฉิงวาดตราประทับไปที่ดวงวิญญาณของซือโถวเหวินหยวน และส่งให้เขาไปสู่ยมโลกในทันที
ด้วยตราประทับที่วาดไปให้หลิงตู้ฉิงแน่ใจว่าซือโถวเหวินหยวนจะต้องอยู่อย่างสุขสบายในยมโลกแน่นอน
เมื่อจบเรื่องของซือโถวเหวินหยวน หลิงตู้ฉิงมองไปที่จางซิงอี้ด้วยแววตาเย็นชาและพูดว่า “ก่อนหน้านี้เจ้ามันไม่ต่างอะไรกับหมาจรจัดเมื่ออยู่ต่อหน้าข้า เจ้าไม่กล้าจะหายใจแรงต่อหน้าข้าด้วยซ้ำ ไม่นึกเลยว่าตอนนี้เจ้ากลับบังอาจวางแผนล่อข้าให้มาหาแถมยังกล้าลงมือกับลูกข้าอีก!”
จางซิงอี้แสดงหน้าตึงเครียดและพูดว่า “แล้วไง? นั่นมันในอดีตตอนที่เจ้าเหนือกว่าข้า แต่ตอนนี้มันเป็นข้าที่แข็งแกร่งกว่าเจ้า! ตอนนี้เจ้าจงยอมให้ข้าสังหารซะดี ๆ ข้าสัญญาว่าจะทำมันแบบรวดเร็วเพื่อที่เจ้าจะได้ทรมานน้อยที่สุด เจ้าคือมารในใจของข้าไม่ว่าจะยังไงข้าก็ต้องฆ่าเจ้าให้ได้!”
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “โอ้! ไม่เลวเลยจริง ๆ ที่กล้ามองข้าเป็นขั้นบันไดให้เหยียบเพื่อที่เจ้าจะได้ขึ้นไปสู่จุดที่สูงกว่าเดิม เจ้ารู้ไหมว่าขนาดว่าอาจารย์ของเจ้าเองยังไม่กล้าคิดอะไรแบบนี้กับข้าเลยด้วยซ้ำ แต่ว่าเพื่อเห็นแก่อาจารย์ของเจ้า ในอนาคตข้าจะไม่ตามล่าเจ้า แต่ถ้าหากร่างหลักของเจ้าโผล่มาให้ข้าเห็นเมื่อไหร่ข้าเอาเจ้าตายแน่!”
เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงโบกมือสลายอาณาเขตพลังที่จางซิงอี้สร้างขึ้นให้หมดอำนาจ
“ท่านพ่อ ท่านจะปล่อยเขาไปแบบนี้งั้นเหรอ!” หลิงว่านถิงพูดขึ้นทันที
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “พ่อแค่บอกว่าพ่อจะปล่อยร่างหลักของเขา แต่ว่าร่างแยกที่อยู่ตรงนี้แน่นอนว่าพ่อจะต้องทำลายอยู่แล้ว เพราะเศษเสี้ยวดวงวิญญาณและเต๋าที่อยู่ในร่างแยกนี้มีประโยชน์กับพวกเรา!”
เมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย จางซิงอี้จึงตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าเดือดดาลทันที “เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถทำอะไรข้าได้ด้วยพลังที่เจ้ามีตอนนี้งั้นเหรอฝันไปเถอะ! ตายซะ!”
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้เขามีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับผู้สำเร็จเต๋า ซึ่งมันห่างชั้นกว่าหลิงตู้ฉิง ซึ่งอยู่ในขอบเขตราชันเป็นอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงยังคงมีความมั่นใจว่าเขาน่าจะสามารถเอาชนะหลิงตู้ฉิงได้ แถมตอนนี้พวกเขาก็อยู่กันที่สำนักเต๋าสวรรค์ ซึ่งเขาก็สามารถเอาพลังของมหาวิถีเต๋าที่สถิตอยู่ในสำนักมาเสริมความแข็งแกร่งให้กับเขาได้อีก
แต่แล้วก่อนที่จางซิงอี้จะทันได้ทำอะไร หลิงตู้ฉิงหยิบง้าวพินาศเทวะขึ้นมาซะก่อนและตะโกนว่า “ในนามของข้า ข้าขอโมฆะเต๋าแห่งสำนักเต๋าสวรรค์ทั้งหมดที่มีอยู่ในบริเวณนี้!”
เมื่อสิ้นเสียงของหลิงตู้ฉิง บรรดาผู้คนของสำนักเต๋าสวรรค์ต่างสัมผัสได้ในทันทีว่ามหาวิถีเต๋าที่เกื้อหนุนพวกเขาอยู่จู่ ๆ ก็หายไป ซึ่งมันทำให้พวกเขาต่างตกอยู่ในอาการตกตะลึง
จางซิงอี้รู้สึกตกตะลึงเช่นกันเพราะเขาไม่นึกเลยว่าหลิงตู้ฉิงจะมีง้าวเทวะพินาศอยู่ในมือ แถมความทรงจำของหลิงตู้ฉิงดันฟื้นกลับมาจนถึงขนาดสามารถใช้ทักษะที่เป็นทักษะขึ้นชื่อที่ไม่เคยมีใครรู้ความลับของมันเลยว่ามันทำได้ยังไง
ในอดีตมีอัจฉริยะมากมายล้มตายด้วยทักษะนี้แค่ทักษะเดียวจนนับไม่ถ้วน ซึ่งทักษะนี้ก็เป็นเหมือนดั่งฝันร้ายของเขาเช่นกัน
“เจ้าไม่มีทักษะอื่นแล้วรึไง? เจ้ามันก็มีดีแค่นี้นั่นแหละ!” จางซิงอี้ตะโกนขึ้นด้วยสีหน้ามืดหม่น
เขาได้ข่าวมาว่าหลิงตู้ฉิงตายลงเพราะพิสูจน์เต๋าไม่สำเร็จ ซึ่งเท่าที่เขาใจก็คือแค่การกลับมาเกิดใหม่มันก็ยากมาก ๆ อยู่แล้ว ดังนั้นมันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะได้รับความทรงจำคืนมาแบบสมบูรณ์ขนาดนี้?
ทำไมคนผู้นี้ยังคงจำทักษะนี้อยู่ได้อีก แถมง้าวเทวะพินาศนั่นไม่ใช่ว่ามันอยู่บนโลกเบื้องบนที่ตำหนักไร้หทัยไม่ใช่หรือไง?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)