เมื่อได้ยินว่าหลิงตู้ฉิงอยู่ในเมืองมหาดารา กิเลนก็รู้สึกเบิกบานเป็นอย่างมากที่มันกำลังจะได้เจอกับเจ้านายของมันแล้ว
อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่มันคิดถึงเจ้านายของมันเป็นเพราะเจ้านายของมันทำดีกับมันงั้นเหรอ? แน่นอนว่าไม่ใช่! เมื่อชีวิตที่แล้วหลิงตู้ฉิงตัดความรู้สึกออกไปหมดทุกอย่าง ดังนั้นเขาจะทำดีกับใครเพราะรู้สึกเอ็นดูได้ยังไง?
เหตุผลที่มันตื่นเต้นอยากเจอเจ้านายของมันก็เพราะทุกครั้งที่เจ้านายของมันพามันไปไหนต่อไหนด้วย เมื่อไหร่ที่หลิงตู้ฉิงได้รับสมบัติวิเศษใด ๆ มาก็ตามเขาจะแบ่งให้กับมันเสมอเพื่อทำให้มันแข็งแกร่งขึ้น เพื่อที่เขาจะได้สามารถใช้งานมันได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น และนี่คือผลพลอยได้ของมัน
แต่แล้วในขณะที่มันพาหลิงยู่ชานเกือบจะไปถึงเมืองมหาดาราอยู่แล้ว มันกลับถูกคนกลุ่มหนึ่งหยุดเอาไว้
“เจ้ามันหมาเฝ้าบ้านตัวนั้นนี่นา?” คนกลุ่มหนึ่งซึ่งแต่ละคนมีกลิ่นเลือดเหม็นคละคลุ้งปกคลุม และแต่งกายด้วยเสื้อคลุมสีแดงฉานลอยขวางหน้ากิเลนอยู่
“โอ้ นึกว่าใครที่แท้ก็พวกเผ่าเห็บดูดเลือด อ้ะ ๆ ไม่ใช่ ๆ พวกผีดูดเลือดนี่เอง!” กิเลนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงขบขัน
ในระหว่างที่พูด กิเลนได้ส่งหลิงยู่ชานและหมิงจู้เข้าไปหลบในโลกจำลองของมันเพื่อความปลอดภัย
อันที่จริงกลุ่มที่ขวางหน้ามันอยู่ตอนนี้คือพวกเผ่าปีศาจโลหิต ซึ่งหลิงตู้ฉิงเคยไปฆ่าผู้นำคนก่อนของพวกเผ่าปีศาจโลหิตเอาไว้ และคนที่กิเลนคุยด้วยอยู่ตอนนี้คือผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทวะราชาขั้นกลางของเผ่าปีศาจโลหิต
ด้วยความแค้นฝังลึกที่มีมายาวนาน แน่นอนว่าเมื่อเผ่าปีศาจโลหิตเห็นกิเลนมาแบบเดี่ยว ๆ พวกมันจึงตรงดิ่งเข้ามาหาเรื่องทันที
ปีศาจโลหิตขอบเขตเทวะราชาเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา “พวกข้าคือเผ่าปีศาจโลหิตไอ้หมาโง่! ในตอนแรกข้าตั้งใจว่าจะสั่งสอนเจ้าแบบเบาะ ๆ เก็บแค่เฉพาะดอกเบี้ยจากสิ่งที่เจ้านายของเจ้าทำเอาไว้กับพวกข้า แต่ในเมื่อเจ้าปากดีขนาดนี้เห็นทีข้าคงต้องเก็บทั้งต้นทั้งดอกให้ครบทั้งหมดในวันนี้!”
แต่แล้วในทันทีที่เขาพูดจบ กิเลนก็เรียกเอาเจตจำนงดาบของต้วนฉิงออกมา 1 ดาบ ซึ่งมันมีลักษณะไม่ต่างอะไรกับดาบจริง แต่ถ้าหากใช้จิตสำนึกตรวจจับจะเห็นว่าดาบทั้งเล่มนั้นก่อขึ้นมาจากพลังของเจตจำนงดาบอันมหาศาล
“เจ้าจะคิดบัญชีกับข้างั้นเหรอ? ลองถามเจตจำนงดาบที่นายน้อยต้วนฉิงมอบให้กับข้าก่อนไหม? ในตอนที่นายน้อยมอบมันให้กับข้า เขาบอกว่าเจตจำนงดาบของเขาสามารถฆ่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิเทพขั้นต้นได้โดยไม่มีปัญหา แต่เจ้าอยู่แค่ขอบเขตราชาเทวะขั้นกลาง ข้าคิดว่าเจตจำนงดาบนี้คงสับเจ้าออกเป็นชิ้น ๆ ได้อย่างไม่มีปัญหาแน่นอนจริงไหม?” กิเลนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
ปีศาจโลหิตขอบเขตเทวะราชาไม่กล้าพูดอะไรต่อทันทีเมื่อเห็นเจตจำนงดาบของต้วนฉิง
ต้วนฉิงคือผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิเทพขั้นสูง ดังนั้นต่อให้จะเป็นแค่เจตจำนงดาบที่ต้วนฉิงสร้างขึ้น มันก็เพียงพอที่จะฆ่าเขาให้ตายได้อย่างง่ายดาย เมื่อรู้เช่นนี้เขาจะกล้าพูดอะไรต่อได้ยังไง?
แต่แล้วในระหว่างที่ปีศาจโลหิตไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อ จู่ ๆ กลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งก็ปรากฏตัวและพูดกับกิเลนด้วยสีหน้าเย็นชา “ถ้าพวกข้าอยากจะคิดบัญชีกับเจ้าเหมือนกัน เจ้าจะว่ายังไง?”
กิเลนหัวเราะ จากนั้นมันเรียกเจตจำนงดาบอีกเล่มขึ้นมาทันทีและพูดว่า “นายน้อยของข้าคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าจะต้องมีพวกหน้าโง่มาตามก่อกวนข้า ดังนั้นเขาจึงมอบเจตจำนงดาบมาให้กับข้าหลายเล่มอยู่ หากพวกเจ้าอยากจะลองด้วยก็เชิญเข้ามาได้เลย!”
“เจ้าจะมีเจตจำนงดาบสีกกี่เล่มกันเชียว?” มนุษย์หินขอบเขตเทวะราชาตนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น “ข้าเองก็อยากจะคิดบัญชีกับตำหนักไร้หทัยเหมือนกัน! ก่อนที่ข้าจะเดินทางมา บรรพบุรุษขอบเขตจักรพรรดิเทพของข้าได้มอบเจตจำนงกระบวนท่าของเขาให้ข้าหลายอย่าง ข้าอยากจะรู้เหมือนกันว่าเจตจำนงดาบของเจ้ากับเจตจำนงกระบวนท่าของบรรพบุรุษข้า ของใครจะหมดก่อนกัน?”
กิเลนเริ่มรู้สึกเหนื่อยใจ มันเพิ่งมาถึงเท่านั้นเองทำไมผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทวะราชาพวกนี้ถึงได้รีบร้อนอยากจะรุมยำมันนัก? และสิ่งที่เป็นปัญหามากที่สุดก็คือไอ้เผ่ามนุษย์หินผู้นี้ที่พกเจตจำนงกระบวนท่าของบรรพบุรุษของมันมา
“เก็บเจตจำนงดาบไปซะแล้วมาสู้กับพวกข้าอย่างยุติธรรม หากเจ้าชนะ พวกข้าจะปล่อยเจ้าไป!” มนุษย์หินเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา “ไม่งั้นวันนี้เจ้าอย่าได้หวังว่าจะได้เข้าไปในเมืองมหาดารา!”
“โธ่เว้ยก็ได้! ถ้าพวกเจ้าอยากจะสู้นักงั้นก็เข้ามา! ข้าบอกเลยว่าต่อให้ข้าจะแพ้ แต่ข้ารับประกันว่าหลังจากจบศึก สภาพของพวกเจ้าเละไม่ต่างจากข้าแน่!” กิเลนตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าเดือดดาล
มันรู้ตัวดีว่ามันคงไม่สามารถเอาชนะฝั่งตรงข้ามได้ เพราะฝั่งตรงข้ามมีจำนวนที่เยอะกว่ามันแถมระดับการบ่มเพาะก็สูงกว่ามัน แต่มันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องสู้ ไม่งั้นมันก็ไม่สามารถเข้าไปเจอกับเจ้านายของมันได้
แต่แล้วในขณะที่มันกำลังจะกระโจนเข้าใส่ศัตรูของมัน จู่ ๆ มันก็เห็นว่ามีคนกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งซึ่งดูแข็งแกร่งเป็นอย่างมากกำลังบินผ่านมา และเมื่อมันสังเกตดี ๆ มันก็รู้ได้ว่าคนกลุ่มใหม่นี้คือคนจากภูเขาฟีนิกซ์!
กิเลนรู้สึกเบิกบานทันที มันรีบตะโกนขึ้นเสียงดัง “พี่สาวฟีนิกซ์ทั้งหลายจ๋า! ข้าดีใจจริง ๆ ที่ได้เจอพวกท่านเวลานี้พวกท่านจำข้าได้ไหม? ข้าคือกิเลนน้อยจากตำหนักไร้หทัยไง พวกท่านจำกันได้รึเปล่า?”
ฟีนิกซ์ขอบเขตเทวะราชาขั้นสูงซึ่งดูเหมือนเป็นผู้นำกลุ่ม นางเหล่มองไปที่กิเลนอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นนางพ่นลมหายใจด้วยสีหน้าเย้ยหยันและบินมุ่งหน้าต่อไปยังเมืองมหาดารา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)