กลุ่มคนของภูเขาฟีนิกซ์ต่างไม่นึกไม่ถึงเช่นกันว่าพวกนางจะได้เจอกับหลิงไช่หยุนที่นี่
พวกนางท่องทั่วไปอยู่นานและรวมกลุ่มกับเผ่าต่าง ๆ ที่พวกนางรู้จักด้วยจนกลายเป็นกลุ่มใหญ่
หลังจากผ่านประสบการณ์ที่เห็นพวกของตัวเองตายไปมากมาย พวกนางก็รู้ได้ว่าสมบัติในโลกของแม่น้ำมหาดารานั้นไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะการสังหารสิ่งมีชีวิตในโลกนี้ยิ่งไม่ใช่ทางแก้ปัญหามากเข้าไปใหญ่ ทุกครั้งที่พวกเขาฆ่าสิ่งมีชีวิตของโลกแห่งนี้ โลกแห่งนี้จะลงทัณฑ์ผู้ที่ลงมือทันทีจนท้ายที่สุดพวกเขาก็ได้แต่สำรวจไปเรื่อย ๆ ไม่กล้าแตะต้องสมบัติใด ๆ และไม่กล้าฆ่าสิ่งมีชีวิตอะไรอีกต่อไป
แล้วในหลังจากสำรวจไปได้พักใหญ่ ๆ ในที่สุดพวกเขาก็ได้เจอสถานที่ที่เต็มไปด้วยมวลพลังเต๋า ซึ่งมวลพลังนี้มันง่ายต่อการดูดซับเป็นอย่างมากและพวกเขาก็ค่อนข้างแน่ใจว่ามันไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเหมือนกับสมบัติต่าง ๆ ที่พวกเขาได้เจอมาก่อนหน้านี้ ดังนั้นพวกเขาจึงทำการตกลงแบ่งมันกันด้วยความเบิกบานทันที
แต่แล้วในระหว่างที่พวกเขากำลังแบ่งสันปันส่วนกันอยู่ กลุ่มของหลิงตู้ฉิงก็ปรากฏขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญสำนักเพลิงสวรรค์เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจ “องค์หญิงของพวกเจ้ามีผู้ติดตามมาด้วยตั้งหลายคน หากเจ้ายืนยันจะให้นางได้รับส่วนแบ่งจริง ๆ งั้นเจ้าก็ต้องปันส่วนที่พวกเจ้าได้ให้องค์หญิงของพวกเจ้าเอาเอง”
ผู้เชี่ยวชาญภูเขาฟีนิกซ์ขึ้นเสียงกลับทันทีด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ชิวชี่หมิง เจ้าทำแบบนี้มันเกินไปหน่อยรึเปล่า?”
“มันมากเกินไปหน่อยตรงไหน? พวกเจ้าภูเขาฟีนิกซ์ในตอนแรกมีกันเกือบ 20 คน ข้าก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเห็นแก่ภูเขาฟีนิกซ์ของเจ้า แต่แล้วตอนนี้จู่ ๆ เจ้ากลับพาคนมาแบ่งส่วนเพิ่มอีกแบบนี้ใครกันแน่ที่ทำเกินไป? พวกเรามีกันร้อยกว่าคน แต่พวกเจ้าตอนนี้มีคนมาเพิ่มเป็นเกือบ 40 คน ถ้าแบ่งส่วนกันตามที่เจ้าต้องการมันไม่หมายความว่าแค่พวกเจ้ากลุ่มเดียวได้ส่วนแบ่งไปเกือบครึ่งเลยไม่ใช่เหรอไง เจ้าลองคิดดูดี ๆ ว่าการที่เจ้าทำแบบนี้มันเอาเปรียบคนอื่นมากไปหน่อยไหม?” ชิวชี่หมิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าใกล้จะหมดความอดทน
ในระหว่างที่ทั้งสองคนเถียงกัน หลิงตู้ฉิงมองเข้าไปในกลุ่มคนที่รออยู่และพูดกับหลิงยี่เทียน “ยี่เทียน คนของเจ้าก็อยู่ในกลุ่มนี้เช่นกัน”
หลิงยี่เทียนชะโงกหน้ามองไปในทันที จากนั้นเขาโทรจิตเรียกคนของเขาให้เดินออกมาเพื่อมาคุยกัน
เมื่อเห็นการกระทำเช่นนี้ของหลิงยี่เทียน คนของเผ่าอื่น ๆ ที่อยู่ในกลุ่มพันธมิตรก็เริ่มไม่พอใจ
“ข้า มู่หลินจากเผ่าปีศาจเหล็กดาราขอแย้งพวกเจ้า จู่ ๆ พวกเจ้าเผ่ามนุษย์และภูเขาฟีนิกซ์ต่างเพิ่มคนเข้ามากลางคันแบบนี้ข้าว่ามันไม่ยุติธรรมกับคนอื่น ๆ การที่พวกเจ้าทำเช่นนี้มันไม่ต่างอะไรกับการผิดสัญญาที่พวกเราตกลงกันเอาไว้ในตอนแรก หากพวกเจ้ายังดึงดันที่จะทำแบบนี้ต่อไป ข้าขอออกเสียงขับไล่พวกเจ้าออกจากกลุ่มพันธมิตร!” ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญรูปร่างคล้ายมนุษย์ แต่มีร่างกายที่มันเงาเหมือนโลหะก้าวออกมาพูดขึ้น
เมื่อได้ยินคำพูดของเช่นนี้ของมู่หลิน กลุ่มคนของหลิงยี่เทียนและหลิงไช่หยุนต่างแสดงสีหน้าลำบากใจ
ใจหนึ่งพวกเขาทั้งหมดต่างอยากได้ส่วนแบ่งพลังเต๋านี้เพื่อพัฒนาระดับการบ่มเพาะของตัวเอง แต่อีกใจหนึ่งพวกเขาก็ไม่กล้าขัดใจองค์ชายและองค์หญิงของตัวเอง พวกเขาควรจะทำยังไงดี?
อันที่จริงหลิงยี่เทียนและหลิงไช่หยุนต่างไม่ได้สนใจว่าพวกคนฝั่งตรงข้ามจะคิดอะไรกันยังไง พวกเขาสนใจแค่ต่อจากนี้หลิงตู้ฉิงจะเอายังไง ถ้าหากพ่อของพวกเขายืนยันจะเอาส่วนแบ่งให้ได้คนเหล่านี้ไม่มีทางรอดแน่นอน
หลิงตู้ฉิงมองไปที่พลังเต๋าที่สถิตอยู่ไม่ไกลอยู่นาน จนในท้ายที่สุดเขาพูดว่า “ช่างเถอะข้ามอบมันให้พวกเจ้าก็ได้! แต่ข้าขอแนะนำอะไรพวกเจ้าอย่าง หากพวกเจ้าดูดซับพลังเต๋านี้แค่เพียงครึ่งเดียวจากที่มีอยู่พวกเจ้าจะรอด แต่ถ้ามากกว่านั้นพวกเจ้าทั้งหมดจะไม่มีใครที่สามารถออกไปจากที่นี่ได้ อ๋อและอย่าลืมว่าหลังจากพวกเจ้าดูดซับพลังเต๋ากันเสร็จแล้ว พวกเจ้าจำเป็นต้องสร้างคุณประโยชน์ให้กับโลกใบนี้ด้วยเพื่อเป็นการตอบแทน ไม่เช่นนั้นพวกเจ้าก็จะไม่สามารถออกไปจากโลกนี้ได้เช่นกัน”
หลังจากเตือนเสร็จ หลิงตู้ฉิงหันไปพูดกับกลุ่มคนของเขาทันที “พวกเราไปที่อื่นกันต่อ!”
หลิงยี่เทียนและหลิงไช่หยุนต่างมองไปที่คนของพวกเขาและพูดว่า “มันจะดีที่สุดหากพวกเจ้าตามพวกเรามา แต่แน่นอนว่าถ้าพวกเจ้าอยากจะอยู่ที่นี่ต่อพวกข้าก็ไม่ว่าอะไร”
ท้ายที่สุดมีเพียงแค่สองคนเท่านั้นที่ติดตามหลิงยี่เทียนและหลิงไช่หยุนจากไป ส่วนคนอื่น ๆ พวกเขาเลือกที่จะอยู่ต่อ
หลิงยี่เทียนและหลิงไช่หยุนต่างถามสองคนที่ตามพวกเขามาด้วยสีหน้าพึงพอใจ “พวกเจ้าสองคนชื่ออะไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)