“พี่สะใภ้พูดอะไรเช่นนี้ หากเราช่วยได้ เราก็จะช่วยแน่นอน แต่ตอนนี้เราอยู่ในที่รกร้าง เราช่วยอะไรไม่ได้เลย”
ท่านหญิงรองวังซื่อพูดด้วยน้ำเสียงเสียใจ แต่ในสายตาของนางนั้นเต็มไปด้วยความสะใจ
ท่านชายรองซ่งลู่ก็ถอนหายใจและส่ายหน้าพูดว่า “พี่สะใภ้ พวกเราไม่ใช่หมอ”
สำหรับพี่สะใภ้ที่อ่อนแอผู้นี้ จริงแล้ว ๆ เจ้ารองก็ชอบพี่สะใภ้ เมื่อหลายปีก่อนเขาและพี่ใหญ่ต่างก็สนใจในตัวพี่สะใภ้
แต่พี่สะใภ้ไม่ได้สนใจเขา นี่จึงเป็นปมในใจของซ่งลู่ แน่นอนว่านี่ก็เป็นปมในใจของท่านหญิงรองซ่งเช่นกัน นี่เป็นเหตุผลที่นางพุ่งเป้าไปที่พี่สะใภ้
ท่านหญิงใหญ่ซ่งรีบพูด “ข้ารู้ พวกเจ้า…พวกเจ้าพอจะให้ข้ายืมเงินสักหน่อยได้หรือไม่”
นางกำแขนเสื้อตัวเองแน่น นี่เป็นครั้งแรกที่นางขอความช่วยเหลือหลังจากสามีหายตัวไป
อย่างไรก็ตามผู้ที่ถูกขอความช่วยเหลือกลับเห็นเป็นโอกาส ยิ้มเยาะเย้ยนาง
“พี่สะใภ้ ท่านก็มีวันที่ต้องมาขอความช่วยเหลือเช่นนี้เหมือนกัน แต่ท่านขอข้าไปก็ไร้ประโยชน์ ข้าไม่มีเงิน!”
ท่านหญิงรองรู้สึกสะใจมาก ในตอนแรกนางมีสามีคอยปกป้อง ต่อมาก็มีลูกชายคอยปกป้อง ไม่คิดว่านางจะมีวันนี้
ซ่งลู่รู้สึกสงสารพี่สะใภ้ แต่ตอนนี้เขาก็ต้องพึ่งภรรยาและลูกสะใภ้ในการใช้ชีวิตในภายภาคหน้า จึงทำได้เพียงส่ายหน้าปฏิเสธ
“พี่สะใภ้ ขอโทษด้วย”
“ข้าเห็นว่าจิ่วยวนถูกตีเช่นนี้ มีชีวิตอยู่ก็ทรมาน สู้ให้เขาไปสบายเสียยังจะดีกว่า”
นี่เป็นคำพูดของท่านชายสามซ่ง ซ่งเหริน นิสัยของเขาเป็นคนเช้าชามเย็นชาม ไม่สนใจใครสักคน แต่คำพูดนี้ทำให้พี่สะใภ้รู้สึกถึงความหนาวเหน็บภายในใจ
นางเบิกตากว้าง ไม่เชื่อหูตัวเอง “น้องสาม เจ้าหมายความว่าเช่นไร”
“สามีของข้าหมายความว่าอะไรท่านก็ได้ยินแล้วไม่ใช่หรือ”
ท่านหญิงสามสวี่ซื่อพูดอย่างรุนแรง “ถ้าไม่ใช่เพราะจิ่วยวนของเจ้ามีความทะเยอทะยานเกินไป เราก็คงไม่ต้องถูกกวาดล้างตระกูลและถูกเนรเทศ
ข้าคิดว่าตอนนี้กรรมคงตามสนองเขาแล้ว เป็นความประสงค์ของสวรรค์ที่จะเอาเขาไป คิดหาทางไปก็ไร้ประโยชน์!”
“หุบปาก!”
ท่านหญิงใหญ่ตบหน้าสวี่ซื่อไปหนึ่งที นี่เป็นครั้งแรกที่นางโกรธเช่นนี้ สวี่ซื่อไม่ทันตั้งตัว ถูกตบเข้าอย่างจัง
เมื่อสวี่ซื่อรู้สึกตัวก็เงื้อมือจะตบท่านหญิงใหญ่ เจียงหว่านจึงรีบดึงตัวท่านหญิงใหญ่ออกมา
ส่งผลให้สวี่ซื่อพุ่งถลา และล้มลงบนพื้นอย่างน่าอาย ดูทุลักทุเล
“นังสารเลว…”
สวี่ซื่อลุกขึ้นจากพื้นและพุ่งเข้าใส่พี่สะใภ้อีกครั้ง
เพียะ เพียะ เพียะ เพียะ!
เจียงหว่านคว้าสวี่ซื่อมาตบหน้าหลายทีจนหน้าของนางบวมเป่ง พอคนในบ้านสามจะเข้ามาช่วย ซ่งจิ่วฉือและซ่งจิ่วหลีก็ช่วยกันขัดขวางพวกเขาไว้
แม้ว่าทั้งสองจะเกลียดเจียงหว่าน แต่ความเกลียดก็ไม่สามารถมาฉุดรั้งไม่ให้พวกเขาไปขัดขวางพวกศัตรูได้ เพราะถึงอย่างไรแล้วคนในบ้านสามนั้นดูถูกแม่ของพวกเขา!
“เจียงหว่าน นังตัวซวย ปล่อยข้านะ!” หน้าของท่านหญิงสามบวมจนเป็นหัวหมู เจียงหว่านออกแรงผลัก นางล้มลงกับพื้น
ไม่รู้ว่าเจตนาหรือไม่ มีหินก้อนเล็ก ๆ หล่นลงบนพื้น ท่านหญิงสามฟันหักไปหลายซี่ เลือดซึมออกมาที่ริมฝีปาก นางคลุ้มคลั่งราวกับคนบ้า
“นังสารเลว เจียงหว่านนังสารเลว!”
“ถ้าไม่พูดถึงตอนที่พวกเจ้าพึ่งพาสามีของข้าจนได้อยู่สุขสบาย แม่ของข้าก็เป็นถึงพี่สะใภ้ของพวกเจ้า จะพูดจาก็ควรให้เกียรติกันหน่อย!”
ตั้งแต่ข้ามมิติมา เจียงหว่านอัดอั้นตันใจมาตลอด ตอนนี้นางได้ระบายบ้างแล้ว หลังจากที่ได้ตบสวี่ซื่อ นางก็รู้สึกดีขึ้นมาก!
“ท่านแม่!”
ลูกชายของบ้านสามซ่งหยางอายุเพียงเจ็ดขวบ ปกติเป็นเด็กเอาแต่ใจ พอเห็นแม่ตัวเองถูกตบ ก็รีบพุ่งเข้าไปหาเจียงหว่านเหมือนประทัดลูกเล็ก ๆ
เห็นได้ชัดเจนว่าจะเข้ามาเอาเรื่องเจียงหว่าน เพียงแต่คิดไม่ถึงเขายังไม่ทันได้ลงมือ เจียงหว่านก็จับเขาไว้ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภารกิจกวาดสมบัติตระกูลที่ถูกล้มล้าง