เข้าสู่ระบบผ่าน

ภารกิจกวาดสมบัติตระกูลที่ถูกล้มล้าง นิยาย บท 4

สำหรับเจ้าหน้าที่แล้ว นี่คือภารกิจของพวกเขา หากไม่ได้ส่งนักโทษไปยังถิ่นทุรกันดารภายในระยะเวลาที่กำหนด พวกเขาก็จะต้องถูกลงโทษ

ดังนั้น เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครมาอำลาอีก เจ้าหน้าที่ก็สะบัดแส้ไล่ทุกคนให้ไปต่อ

คนในบ้านใหญ่เดินอยู่ข้างหลัง โดยเฉพาะซ่งจิ่วฉือที่แบกซ่งจิ่วยวน เด็กหนุ่มวัยสิบห้าปีที่ปกติใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ตอนนี้กำลังหอบเหนื่อย

“จิ่วฉือ เจ้ารอเดี๋ยว”

เจียงหว่านฉวยโอกาสตอนที่เจ้าหน้าที่ไม่ทันสังเกต เรียกซ่งจิ่วฉือเบา ๆ ทว่าเขาเกลียดเจียงหว่านเข้าไส้ จึงเดินเร็วขึ้นและไม่สนใจนาง

ส่วนซ่งจิ่วหลีน้องสาวฝาแฝดของซ่งจิ่วฉือ ในขณะนี้ก็กำลังพยุงท่านหญิงใหญ่ซ่งอยู่ และไม่สนใจเจียงหว่านเช่นกัน

ให้ตายสิ ดูเหมือนว่าไม่มีใครในตระกูลซ่งชอบเจ้าของร่างเดิมเลย

แต่เจียงหว่านไม่สามารถปล่อยให้ผู้มีพระคุณของนางเสียเลือดจนตายได้ ดังนั้นจึงเร่งฝีเท้าตามซ่งจิ่วฉือไป

จากนั้นรีบยื่นขวดยาห้ามเลือดยัดเข้าในมือซ่งจิ่วยวน แล้วพูดเบา ๆ

“ตอนที่หยุดพักพวกเจ้าแอบทายานี่ด้วยนะ”

ถ้าปล่อยไปอีก ซ่งจิ่วยวนอาจจะเสียเลือดจนตาย

“ใครจะรู้ว่าเจ้าคิดจะทำอะไรอยู่!”

ซ่งจิ่วฉือตอบกลับมาอย่างไม่พอใจ นางอาจจะรักมากแค้นมากจนคิดปองร้ายพี่ใหญ่ของเขาก็เป็นได้

ซ่งจิ่วหลีก็เยาะเย้ยเย็นชา “ใช่ ถ้าไม่ใช่เพราะตัวซวยอย่างเจ้า พวกเราคงไม่โดนเนรเทศ!”

“หุบปาก!”

ท่านหญิงใหญ่ซ่งที่กำลังร้องไห้อยู่เงียบ ๆ จู่ ๆ ก็ดุลูกของนางเอง นางมองซ่งจิ่วยวนที่อยู่ในสภาพสะลึมสะลือด้วยความเจ็บปวดแล้วพูดว่า

“พวกเราอยู่ในสถานการณ์แบบไหนพวกเจ้าเองก็รู้ดี นี่ใช่เวลาที่จะมาทะเลาะกันเองงั้นหรือ”

แม้ว่านางจะไม่ชอบเจียงหว่านที่ใช้วิธีไม่ชอบธรรมเข้ามาเป็นลูกสะใภ้ แต่เมื่อเห็นว่าเจียงหว่านยอมมาร่วมถูกเนรเทศด้วย ก็เริ่มเห็นนางในแง่ดีขึ้นเล็กน้อย

ต่อให้เจียงหว่านไม่ยอมตามมา ก็จะถูกคนของฮ่องเต้จับตัวมาอยู่ดี เพราะพวกนั้นไม่รู้ว่าเจียงหว่านและซ่งจิ่วยวนยังไม่ได้มีความสัมพันธ์กันจริง ๆ และยังกังวลว่าในท้องของเจียงหว่านอาจจะมีสายเลือดของตระกูลซ่งหลงเหลืออยู่

“ท่านแม่ ท่านก็ไม่ชอบนางไม่ใช่หรือ”

ซ่งจิ่วหลีเบะปาก พี่ชายที่หล่อเหลาและสง่างามของนางจำเป็นต้องมาแต่งงานกับเจียงหว่านหญิงที่มากด้วยกลอุบาย เหมือนดอกไม้ที่สวยงามถูกปักลงในขี้วัว!

“แต่นางรักพี่ชายของเจ้าอย่างจริงใจ”

ท่านหญิงใหญ่ซ่งถอนหายใจ ตระกูลของพวกเขาไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว แม้ว่าเจียงหว่านจะนิสัยไม่ดี แต่ก็รักซ่งจิ่วยวนด้วยใจจริง นางจึงพอจะทนได้

ซ่งจิ่วหลีเบะปากด้วยความไม่ชอบ ไม่เห็นด้วยกับคำพูดของแม่นาง ใครจะไปรู้ ก่อนหน้านี้บางทีเจียงหว่านอาจจะรักเพราะสถานะของพี่ใหญ่ก็ได้

แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นพวกนางคุยกัน ก็สะบัดแส้ฟาดลงบนพื้น ทำให้ซ่งจิ่วหลีหวาดกลัวและไม่กล้าพูดอีก

และสิ่งที่ทำให้พวกเขาหวาดกลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่ข้างหน้าบอกว่าเดินไม่ไหวและอยากพัก แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ฟาดด้วยแส้อย่างแรงหลายครั้ง

“แค่เดินไม่กี่ก้าวก็อยากพักแล้ว!!!”

เจ้าหน้าที่คนนั้นไม่ลังเลที่จะฟาดอีกหลายต่อหลายครั้ง นี่เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูชัด ๆ ทำให้คนอื่นไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามอีก

“โอ๊ย ๆ ๆ”

เด็กหนุ่มคนนั้นที่ถูกฟาดจนเลือดออกทั้งตัวไม่กล้าพูดอีก ได้แต่ทนเจ็บและเดินต่อไป

เจียงหว่านเดินอยู่ข้างหลังสุดและไม่พูดอะไรอีก เดินต่อไปประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่า เจียงหว่านก็สังเกตเห็นว่าขาของซ่งจิ่วฉือเริ่มสั่น แต่กลัวว่าจะโดนตีจึงไม่กล้าพูด ได้แต่กัดริมฝีปากและฝืนทน

โชคดีที่เจ้าหน้าที่หยุดพักพอดี หัวหน้าเจ้าหน้าที่แซ่เริ่นที่ชื่อเริ่นปังทำหน้าตาเคร่งขรึมแล้วพูดว่า

“พักกินมื้อเที่ยงที่นี่!”

สิ้นคำพูด ทุกคนที่เดินจนแข้งขาอ่อนแรงจึงกล้าที่จะหยุดพัก แต่ละคนต่างก็อ่อนล้าลงไปกองกับพื้น ผู้คนจำนวนมาก ดูยิ่งใหญ่ตระการตา

เจียงหว่านมองซ่งจิ่วยวนที่มีอาการสะลึมสะลือ แล้วเตือนด้วยความหวังดีว่า “ยาห้ามเลือดนั่นข้าเป็นคนแอบเอามาเอง ไม่มีพิษ”

“จิ่วฉือ ทายานี้ให้พี่ของเจ้าด้วย!”

นางหิวโซ ทั้งเหนื่อยและหิว

“หลีเอ๋อร์ แม่ก็ไม่มีเงิน”

ท่านหญิงใหญ่ซ่งสีหน้าลำบากใจ เมื่อเทียบกับความไร้เยื่อใยของตระกูลของเจียงหว่านแล้ว ท่านหญิงใหญ่ซ่งไม่มีแม้แต่ญาติมิตรมาหาเลยด้วยซ้ำ นี่เป็นสาเหตุที่นายหญิงมักจะเข้าข้างบ้านสองและบ้านสามตั้งแต่ไหนแต่ไรมา

เมื่อได้ยินเช่นนั้นซ่งจิ่วหลีจึงมองเจียงหว่านอย่างไม่พอใจแล้วพึมพำเบา ๆ “ถ้าเสิ่นเชียนเป็นพี่สะใภ้ของข้าก็คงจะดี”

ถ้าเป็นเช่นนั้นนางคงได้กินหมั่นโถวขาวไปแล้ว

“ขอเพียงพี่ใหญ่ของเจ้าตกลง ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้!”

เจียงหว่านเยาะเย้ยทันที นางยอมทนกับซ่งจิ่วยวน เพราะเจ้าของร่างเดิมเป็นหนี้บุญคุณเขา แต่คนอื่น นางไม่จำเป็นต้องทน!

ซ่งจิ่วหลีโกรธจนอยากจะข่วนหน้าเจียงหว่าน แต่ถูกท่านหญิงใหญ่ซ่งรั้งไว้

“หลีเอ๋อร์ เจ้าอยากจะโดนแส้ฟาดงั้นหรือ”

ใครที่สร้างปัญหาในระหว่างการเนรเทศ เจ้าหน้าที่ไม่ออมมือให้แน่ เพราะถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่ใช่ขุนนางใหญ่โตอย่างที่เคยเป็นอีกต่อไปแล้ว

ซ่งจิ่วหลีถูกท่านหญิงใหญ่ซ่งเตือนจึงไม่พูดอะไรอีก เจียงหว่านรู้สึกโล่งใจ อย่างน้อยก็ยังมีท่านหญิงใหญ่ซ่งที่เข้าใจสถานการณ์ ไม่เช่นนั้นนางคงจะใช้กำลังแล้ว

คิดดังนั้น นางแอบหยิบเงินออกมาจากช่องมิติจำนวนหนึ่งแล้วเดินไปด้านหน้าเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง

“นายท่าน ข้าอยากแลกกับถุงหนังใส่น้ำสองถุงได้หรือไม่”

เจ้าหน้าที่คิดไม่ถึงว่าเจียงหว่านจะมีเงิน แต่ถุงน้ำราคาไม่เท่าไหร่แลกเงินจำนวนมากขนาดนี้มันคุ้มแสนคุ้ม เขาจึงตกลงอย่างไม่ลังเล

“ได้สิ”

พูดจบก็โยนถุงหนังใส่น้ำใหม่ ๆ สองใบให้เจียงหว่าน เมื่อผู้คนเห็นนางไม่แลกอาหารแต่แลกถุงหนังใส่น้ำ คนอื่น ๆ ที่ไม่เคยลำบากมาก่อนก็เริ่มเยาะเย้ย โดยเฉพาะหัวโจกอย่างเสิ่นเชียน

“มีเงินแต่ไม่แลกอาหารกลับไปแลกถุงหนังใส่น้ำ ประสาทหรือไม่เจียงหว่าน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภารกิจกวาดสมบัติตระกูลที่ถูกล้มล้าง