คันศรมองจนแน่ชัดแล้ว เขาก็หันกลับไปหาคนที่ยิงคำถามมาเมื่อสักครู่นี้ "ไม่นะ..หรือว่ายังไง..เราเคยรู้จักกันเหรอครับ" พอเขาพูดกับนิสาจบ ชายหนุ่มก็หันมาพูดกับคนที่เขามองแบบพิจารณาเมื่อสักครู่
ใบหน้างามถึงกับซีดเซียว เธอทำงานหนักยังไม่เหนื่อยเท่ากับคำตอบของเขาเลย ใช่สิใครเขาอยากจะมารู้จักเธอ..ช่อชบา ตอนนี้ถึงกับหายใจไม่ทั่วท้อง เพราะรู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป
"ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ..ท่านผู้บริหาร" นิสาดัดเสียงแบบ เหมือนสะใจมาก
"มีอีกเรื่องที่ผมอยากจะทราบ งานที่ทำไปส่ง ผมคิดว่าเหมือนกับมีแค่คนคนเดียวที่ทำ..หรือผมคิดไปเองครับ" และนี่ก็คืออีกหนึ่งเหตุผลที่คันศรลงมาที่แผนกนี้เอง เพราะถ้าให้เลขาลงมา คำตอบที่ได้ก็คงจะเหมือนเดิมที่เขาเคยได้รับ
"คะ" พอได้ยินคำถามนี้ออกมา จากที่หน้าบานเป็นจานเชิงก็ค่อย ๆ นั่งลงที่เก้าอี้ประจำตำแหน่งแบบให้ตัวเล็กที่สุด
"ทุกคนในแผนกช่วยกันทำค่ะ" คนที่รีบตอบขึ้นมาก็คือเนตรนภาหัวหน้าแผนก
"ผมเพิ่งรู้นะ ว่าทุกคนในแผนกนี้ลายมือเดียวกัน"
"คะ" เนตรนภาไม่รู้ว่า มีบางที่ ที่ช่อชบาไม่ได้พิมพ์ แต่เธอใช้ปากกาเพื่อเป็นการโน๊ต ให้ฝ่ายที่รับงานต่อเข้าใจง่ายมากที่สุด แต่หญิงสาวไม่รู้ว่างานที่เธอทำถูกส่งตรงขึ้นไปที่ห้องของคันศร เพราะเขาอยากจะดูว่า ใครที่มีประสิทธิภาพในการทำงานมากที่สุด
"ใช่แล้วค่ะ นิสาเป็นคนทำเอง ท่านอาจจะยังไม่รู้จักนิสา ถ้างั้นขอแนะนำตัวเองนะคะ ชื่อนิสาค่ะ เป็นรองหัวหน้าแผนกที่นี่" นิศารีบลุกขึ้นแนะนำตัวเพื่อเอาหน้า
ซึ่งในขณะนั้น ช่อชบาไม่สามารถที่จะมูฟออนคำพูดของคันศรออกจากหัวได้เลย เพราะเธอเสียใจมากที่เขาตอบว่าไม่รู้จัก ทั้ง ๆ ที่เขาคือนายธนู..คนที่ยอมเดินออกไปหน้ามหาวิทยาลัยเพื่อซื้อลูกชิ้นมาแบ่งกินกับเธอ..คนที่เคยนั่งรถเมล์คันเดียวกัน และคนที่เธอเคยแนะนำว่าเป็นสามี
เพื่อนหลายคนต่างก็รู้ว่างานนั้นมันคือฝีมือของช่อชบา แต่ก็ไม่มีใครอยากจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ แม้กระทั่งหัวหน้าแผนก เพราะนิสาเส้นใหญ่กว่านั้น
"อ้อ ฝีมือของคุณรองหัวหน้าแผนกเองเหรอครับ ถึงว่าฝีมือดีเลยนะครับ" คันศรเป็นคนที่เข้มงวดกับงานมาก ใครที่ทำงานเข้าตา เขาชอบจะจับจ้องคนนั้น
"ขอบคุณค่ะ"
พอเรื่องทุกอย่างจบลง คันศรก็ขอตัวกลับห้องทำงาน ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินออกจากแผนกนั้น สายตาของเขามองมาที่ ช่อชบา ซึ่งใบหน้าของผู้หญิงคนนี้ไม่มีรอยยิ้มตั้งแต่เขาเดินเข้ามาแล้ว
พนักงานที่เข้ามาใหม่เยอะก็จริง แต่แผนกนี้มีแค่ไม่กี่คน และที่ช่อชบาได้มาอยู่แผนกเดียวกับนิสา ก็เพราะนิสาอีกนั่นแหละ
"ทำไมนิสาถึงเอาความดีความชอบ ไปหมดเลยล่ะ" เอมอรผู้ที่นั่งฟังอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่กล้ามีปากเสียง ได้พูดขึ้นเมื่อ ทุกอย่างกลับเป็นปกติ
"เธอว่าอะไรนะ" ช่อชบาเริ่มจะเรียกสติตัวเองกลับมา เมื่อถูกเพื่อนที่นั่งข้าง ๆ สะกิด
"เธอไม่ได้ฟังหรือไง ตอนที่คุณคันศรพูดเรื่องงานทั้งหมด ที่ถูกส่งขึ้นไปข้างบน"
"แล้วไงต่อ" ช่อชบาถามทั้ง ๆ ที่มือก็ทำงานต่อไป
"ฉันหมั่นไส้แทนเธอจังเลย ทั้ง ๆ ที่งานพวกนั้นมันเป็นฝีมือเธอทั้งนั้น"
"ปล่อยเขาไปเถอะ" เพราะชบาไม่มีแรงจะไปต่อสู้กับพวกเขาอีกแล้ว เธอทำงานเพื่อแลกกับเงินเดือน ไม่ได้ทำงานเพื่ออยากจะได้หน้า
เที่ยงวันเดียวกัน..
"เที่ยงแล้วเธอจะไม่ไปทานข้าวหรือไง" เอมอรไปเข้าห้องน้ำกลับมา เพื่อที่จะหยิบกระเป๋า แต่ช่อชบาก็ยังนั่งทำงานต่อ
"เอมไปเถอะ"
"ถ้างั้นเราไปนะ ถ้าจะฝากซื้ออะไรก็โทรเข้าเครื่องแล้วกัน"
พอเพื่อน ๆ ออกไปทานข้าวกันทั้งแผนกแล้ว หญิงสาวก็หยิบกล่องข้าวผัดที่ยายห่อให้แบบง่าย ๆ ขึ้นมารีบตักกินก่อนที่ใครจะกลับเข้ามา
ปากเคี้ยวข้าว แต่สายตาก็มองงานที่กำลังทำอยู่ เธอต้องทำงานแข่งกับเวลาด้วย เพราะได้ยินเขาพูดกับหัวหน้าแผนก ว่าส่งงานล่าช้าทุกวัน เดี๋ยวงานก็เข้าเธออีก
"ฉันว่าอาหารร้านที่เรากินวันนี้ อร่อยกว่าร้านเมื่อวานนี้อีกนะ"
"ถ้างั้นเราต้องได้ลองทุกร้านแล้วล่ะ จะได้รู้ว่าร้านไหนอร่อยที่สุด" พอเวลาเดินไปใกล้จะบ่ายโมง ก็เริ่มมีเสียงพนักงานหลายคนที่คุยกันเดินเข้ามา
"อ้าวชบามาก่อนเพื่อนเลยนะ" เสียงที่ดังมาทีหลังก็คือเนตรนภาหัวหน้าแผนก
"มาก่อนหรือไม่ได้ไปกินข้าวกันแน่" นิสาแกล้งพูดกับมยุรีแบบลอย ๆ
"จริงด้วย..ได้กลิ่นอะไรในห้องทำงานเราไหม เหม็นฟุ้งไปหมดเลย" ที่จริงกลิ่นไม่มีหรอก แต่มยุรีแอบเห็นว่าช่อชบาห่อข้าวมาด้วย ก็เลยรอจังหวะนี้ที่จะเล่นงาน
"อย่าให้พี่รู้นะว่าใครแอบเอาอะไรเข้ามากินในห้องทำงาน เพราะที่บริษัทเขามีกฎระเบียบ"
"ไม่ทันแล้วมั้งคะพี่นภา" นิสาเดินมาคว้าเอากล่องข้าว ของช่อชบาออกมาจากในลิ้นชัก
"ชบาขอโทษค่ะ ชบาไม่รู้ว่าที่นี่มีกฎระเบียบแบบนี้ด้วย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรัก
เนื้อเรื่องยาวกว่านี้จะดีมากคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ...