"ผมไม่เชื่อ" ที่เขาไม่อยากจะเชื่อ เพราะธนูรู้ดีว่าแม่คงจะรับไม่ได้ถึงแม้ว่าแม่ของเขาจะเป็นผู้หญิงแกร่ง..ใจดี..รับได้ทุกเรื่อง แต่ยกเว้นเรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าแม่ของเขาจะเหยียดเพศ..แต่เพราะมีปม
"ฉันจะกลับบ้าน" ยังไงเธอก็เป็นคนนอก และคำพูดของเธอก็คงจะมีน้ำหนักไม่พอ หญิงสาวก็เลยไม่อธิบายอะไรต่อ
"คุณโกรธผมเหรอ"
"ฉันจะโกรธคุณเรื่องอะไร"
"ก็เรื่องที่ผมไม่เชื่อนี่ไง"
"คุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อมันก็เรื่องของคุณสิ..แต่ตอนนี้ฉันอยากจะกลับบ้านแล้ว"
เขาขับรถพาเธอมาจนถึงบ้าน โดยที่ไม่มีคำพูดใดออกมาอีก
พอรถจอดสนิท ช่อชบาก็ลงไปโดยที่ไม่พูดอะไรเหมือนกัน ชายหนุ่มได้แต่มองตามคนตัวเล็กที่เพิ่งจะเดินเข้าบ้านไป..และตอนนี้เขาก็สับสนไปหมดแล้ว
เช้าวันต่อมา..
"คุณธนูคะ" นิสาแอบรอธนูอยู่แถวนั้นนานแล้ว พอเขาเดินเข้ามาก็รีบเข้าไปทัก
"ครับ"
"ทำไมพูดเหมือนห่างเหินกันจังเลย ทั้งๆ ที่เมื่อคืนยังควงนิสาไปออกงานอยู่เลย" ที่นิสาบอกว่าห่างเหิน ก็เพราะธนูไม่ได้หยุดพูดกับเธอ เขาพูดทั้งๆ ที่ยังก้าวเดิน
"คุณเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า ผมไม่ได้ควงคุณไปนะ" ชายหนุ่มถึงกับหยุดแล้วหันกลับมา เขาไม่ใช่ผู้ชายประเภทที่ว่าใครจะมาจับได้ง่ายๆ
"คุณไม่เห็นข่าววันนี้เหรอคะ" ในเมื่อยังไงสามีก็บอกเลิก..และอีกอย่างนิสาไม่คิดจะตามไปง้อวัลลภอยู่แล้ว..เดินหน้าจีบธนูต่อดีกว่า เพราะยังไงวัลลภก็เทียบไม่ติดเศษฝุ่นของธนู
"ผมไม่สนใจข่าวพวกนั้นอยู่แล้วครับ ใครจะเขียนยังไงก็.." ชายหนุ่มพูดยังไม่จบประโยค เขาก็เห็นใครบางคนที่คุ้นตาเดินผ่านไป "ช่อ" เขาเรียกเธอให้หยุดก่อนแต่หญิงสาวทำเป็นไม่ได้ยิน..ใครจะไปหยุดล่ะ เล่นยืนคุยกับผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าต่อตาแบบนั้น
"เดี๋ยวก่อนสิคะ นิสายังคุยกับคุณไม่จบเลย" เขากำลังจะเดินตามหลังช่อชบาไป แต่นิสาคว้าแขนไว้ก่อน จังหวะนั้นช่อชบาก็เข้าไปในลิฟต์..เธอหันหน้าออกมาเห็นพอดี
"ช่อชบา" เขาสะบัดนิสาออกได้ไม่ยาก แต่ก็ตามไม่ทัน เพราะลิฟต์ได้ถูกปิดลงก่อน
ชายหนุ่มพยายามกดขึ้นชั้นบน แต่เขาก็ต้องได้รอลิฟต์อีกตัว ธนูไม่รอแล้วเขารีบวิ่งขึ้นบันไดหนีไฟไป
"หึ!! ตาบอดหรือไง" มันคือเสียงของนิสา เพราะไม่พอใจเอามากๆ ที่เห็นธนูให้ความสนใจช่อชบาขนาดนี้
"ธนู..ทำไมลูกขึ้นมาตรงนั้น" พอเขาเปิดประตูบันไดหนีไฟเข้ามา ก็เจอแม่กำลังยืนคุยกับช่อชบาอยู่
"ผมแค่อยากจะออกกำลังกาย" พูดด้วยเสียงที่หอบหายใจ เขายังแอบนึกขำตัวเอง รอลิฟต์อีกแค่แป๊บเดียวก็ไม่ต้องเหนื่อยแล้ว
"ที่งานเป็นยังไงบ้างครับแม่" คันศรเพิ่งจะออกจากลิฟต์มา เห็นทุกคนอยู่ตรงนั้นก็เลยเข้ามาถาม เพราะเมื่อคืนนี้เขาไม่ได้ไปร่วมงานด้วย
"ก็มีข่าวใหญ่เกิดขึ้นน่ะสิ" เกษรพูดแล้วแอบยิ้ม
"ชบาขอตัวนะคะ" ช่อชบานึกอายขึ้นมา ก็เลยขอตัวออกไปจากตรงนั้น
"ว่าไงไอ้เสือร้าย จะเอายังไงต่อ ลูกเขามีพ่อมีแม่จะจูบเขาออกสื่อแบบนั้นไม่ได้นะ" นางหันมาพูดกับลูกชายบ้าง
"แม่หมายความว่ายังไง" อย่างที่รู้กันอยู่ว่า ธนูยังไม่พร้อมที่จะถูกผูกมัด ถ้าให้คบหรืออยู่ด้วยกันเฉยๆ เขาอาจจะยอม แต่ถึงขั้นแต่งงานจดทะเบียนสมรส เรื่องนี้คงอีกนานหรืออาจจะไม่เกิดขึ้นกับเขาเลยก็ได้
และสิ่งที่เขาพูดกับแม่เธอก็ได้ยิน ถึงแม้ว่าจะทำใจไว้บ้างแล้ว แต่ความน้อยใจมันก็มีอยู่มาก
"ธนู!" เกษรรีบลากลูกชายเข้าห้องทำงาน..เพราะกลัวว่าเขาจะพูดอะไรมากไปกว่านั้น
เย็นวันเดียวกันนั้น..
วันทั้งวันไม่มีใครเอ่ยปากพูดกับใครก่อน จนถึงช่วงเย็น ธนูออกมาจากห้องทำงานก็ยังไม่คุยกับช่อชบา
เขาไม่คุย เธอก็ไม่คุยเหมือนกัน ถึงแม้ว่าทั้งสองจะแอบชำเลืองตามองกันบ่อยมากก็ตาม..
"หนูช่อชบาไปไหนแล้ว" เกษรออกมาจากห้องทำงาน คิดว่าจะชวนช่อชบาออกไปดินเนอร์ เพื่อเป็นการปลอบใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรัก
เนื้อเรื่องยาวกว่านี้จะดีมากคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ...