"ถูกให้ออก? หมายถึงถูกไล่ออกน่ะเหรอคะ" เนตรนภาคิดว่าตัวเองฟังผิด ก็เลยถามทวนอีกครั้ง
"ประมาณนั้นแหละค่ะ" และหลายคนก็รู้ดีว่าทำไมกาญจนาถึงถูกไล่ออก คงเพราะเหตุผลเดียวกับอีกหลายๆ คน ที่ถูกเอาออก
ตอนนี้แทบไม่มีใครอยากจะคบ เนตรนภาและช่อชบาเลยด้วยซ้ำ เพราะกลัวถูกไล่ออกจากงาน
ทีแรกเนตรนภาคิดว่าจะรอเขาอยู่ข้างล่าง แต่ตอนนี้ไม่แล้ว เธอรีบขึ้นไปหาเขาที่ห้องทำงาน
"คุณทำอะไรของคุณอีก" ประโยคแรกที่หญิงสาวเปิดประตูเข้ามา
"ทำงานครับ เดี๋ยวใกล้จะเสร็จแล้วรอผมแป๊บหนึ่งนะ"
"ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องงานของคุณ ฉันหมายถึงพี่กาญจนา ทำไมคุณต้องให้พี่เขาออกด้วย"
ชายหนุ่มวางงานที่อยู่ตรงหน้า แล้วมองมาที่เธอ
ถึงแม้ว่าแม่หรือเธอจะไม่พูดให้เขาฟัง แต่คันศรก็พอจะเดาออก..
พอเขาพาเธอกลับมาที่ห้องทำงาน ชายหนุ่มก็ออกไปดูกล้องวงจรปิด ซึ่งกล้องวงจรปิดก็ได้ยินเสียงชัดมาก
"คนพวกนั้นไม่สมควรที่จะทำงานอยู่ในบริษัทนี้ คุณอย่าคิดมากเลย..พวกเขาทำตัวเอง ผมว่าเราออกไปทานข้าวกันดีกว่า" จบคำพูดชายหนุ่มก็ลุกขึ้นหยิบเอาเสื้อสูทมาสวมใส่
"ฉันรู้ค่ะว่าคุณเป็นเจ้าของที่นี่ แต่คุณน่าจะตักเตือนก่อน" เพราะเหตุการณ์นี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก
"ก็ได้ครับ..คนต่อไปผมจะเตือนก่อนแล้วกัน"
"ไม่มีคนต่อไปแล้วค่ะ! ฉันไม่ทำงานแล้ว!! ฉันจะอยู่บ้านเลี้ยงลูก" ร่างบางสะบัดหน้าแล้วเดินออกจากห้องนั้นไปเหมือนไม่พอใจ
แต่มันก็ทำให้เขาเอ็นดูเธอมากขึ้น คนอะไรจะจิตใจงามขนาดนี้ ยอมอยู่บ้านเลี้ยงลูกเพื่อไม่อยากให้พนักงานเดือดร้อนกับเรื่องของตัวเอง "หึหึ" รู้แบบนี้เชือดไก่ให้ลิงดูตั้งนานแล้ว
ลงมาถึงชั้นล่างคันศรก็เดินโอบเอว คนตัวเล็กแบบไม่แคร์สายตาพนักงานหลายคนที่กำลังทยอยกันออกไปทานข้าว
"ปล่อยค่ะคนมองใหญ่แล้ว"
"ใครจะมองก็ปล่อยให้เขามองไปสิ"
"แต่ฉันไม่ชิน" และเธอก็ไม่อยากเป็นเป้าสายตาของใครด้วย
พอถูกภรรยาตำหนิเขาก็ปล่อยมือ แต่ยังเดินข้างเธอแบบไม่ห่าง เพราะกลัวว่าจะสะดุดล้ม
หลายวันต่อมา.. งานแต่งถูกจัดขึ้นที่โรงแรมของไกรสร
เจ้าสาวของทั้งสองกำลังตั้งท้องทั้งคู่ อาจจะท้องยังไม่โตเท่าไหร่ แต่ช่อชบาก็พอเห็นออกมาบ้างแล้ว
แขกเหรื่อที่มาในงานคืนนี้ มีมากหน้าหลายตา รวมทั้งนักการเมืองและนักธุรกิจ
เกษรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของไกรสรดูแลและรับแขกไป ส่วนนางอุ้มหลานชายตัวน้อยไม่ยอมวาง เพราะกลัวว่าจะคลาดสายตา ประหนึ่งคือกลัวคนลักพาตัวหลานไป เพราะวันนี้แขกเยอะมาก
ไกรสรได้แต่มองผู้เป็นพี่ชายแบบอาวรณ์ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว หัวใจของเขาแทบสลายที่ต้องได้มาจัดงานแต่งให้กับคนที่ตัวเองรัก
"ทำไมเรื่องแค่นี้ถึงทำไม่ได้ แม่บอกว่าให้จับให้อยู่หมัด"
"จะจับได้ยังไงคะ.. แม่ไม่เห็นหรือไงเมียเขาท้องแล้ว แถมลูกคนแรกก็โตจนจะเป็นหนุ่มอยู่แล้วนั่น" มันคือเสียงลูกศรและชไมพรผู้เป็นแม่
ชไมพรเป็นเพื่อนรักกับเกษร ชื่อลูกศรที่ได้มาเพราะอยากจะให้คล้องจองกับชื่อของเกษรและลูกๆ ของนาง..ถึงได้ตั้งชื่อนี้ให้ลูกสาวนั่นก็คือลูกศร
และชไมพรก็หมายตาลูกชายหนึ่งในสองของตะกูลนี้ไว้ แต่กลับพลาดทั้งคู่
"สวัสดีจ้าเกษร"
"อ้าวพร มานั่งตรงนี่เร็ว" เกษรรีบเรียกเพื่อนรักให้มานั่งด้วย และก็ขอโทษขอโพยเรื่องที่ไม่ได้ดองกัน
"ก็เด็กไม่ใช่คู่กันไงไม่ต้องคิดมากหรอก" คำพูดของชไมพรไม่ได้ออกมาจากใจเลย แค่สร้างภาพ "แต่..." พอเหลือกตาไปอีกฝั่งก็เจอเข้ากับ...
"แต่อะไร" เกษรถามเพื่อนรัก พร้อมกับมองไปตามสายตาของเพื่อน
"เกษรยังมีลูกชายอีกคนไม่ใช่เหรอ" นาทีนี้ถึงจะเป็นลูกเลี้ยงก็ไม่เป็นไร ยังไงขอให้ได้ดองกับตระกูลนี้ก็เป็นพอ
"ไกรสรน่ะเหรอ" คิ้วงามของผู้เป็นแม่ถึงกับ ขมวดเข้าหากัน เพราะนางรู้ดีว่าลูกชายคนเล็กไม่ชอบผู้หญิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรัก
เนื้อเรื่องยาวกว่านี้จะดีมากคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ...