เซี่ยซีหว่านเปิดประตูห้องทำงานและชำเลืองมองเข้าไปด้านใน ภายในห้องทำงานมีศาสตราจารย์ทางการแพทย์จากต่างประเทศหลายคน ทุกคนล้วนเป็นบุคคลชั้นนำในด้านประสาทวิทยา พวกเขาทุกคนถือเวชระเบียนของลู่หานถิงเอาไว้ในมือและโต้เถียงกันอย่างดุเดือดอย่างหน้าดำหน้าแดงกันไปหมดเกี่ยวกับเรื่องบางอย่างจนเสียงดังโวยวายออกมานอกห้อง และสุดท้ายก็พากันส่ายหัวไปมา
สายตาของเซี่ยซีหว่านจ้องมองไปที่หน้าต่างบานหนึ่ง ทันใดนั้นหน้าต่างก็ถูกเปิดออก และมีร่างสูงใหญ่ที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ที่นั่นอย่างสงบนิ่ง
การทะเลาะวิวาทของคนเหล่านี้ไม่มีผลกับเขา ปลายนิ้วของเขาเต็มไปด้วยควันบุหรี่ และเมื่อเขาได้ยินเสียงเปิดประตู เขาก็หันมามองเธอด้วยดวงตาทั้งสองข้างที่มีสีดำสนิทเหมือนสีน้ำหมึก
สองวินาทีต่อมาเขาจึงเดินกลับมาที่ข้างโต๊ะทำงาน มือข้างหนึ่งของเขาล้วงอยู่ในกระเป๋า เขาโค้งตัวลงเล็กน้อยเพื่อเอาบุหรี่ที่เหลือครึ่งหนึ่งออกจากปลายนิ้วและดับลงในที่เขี่ยบุหรี่ ขณะที่เขากำลังก้มลงนั้นพู่เข็มกลัดที่ติดอยู่ที่หน้าอกบนเสื้อกั๊กสไตล์นักธุรกิจก็แกว่งไปมาในอากาศอย่างงดงาม
เซี่ยซีหว่านเคยเห็นลู่ซือเจี๋ยในนิตยสารธุรกิจแล้ว แต่ตอนนี้เธอกลับได้เห็นเขาตัวจริง เธอยังคงรู้สึกหวาดกลัวเขา ชายในตำนานของยุคแห่งธุรกิจที่น่าทึ่ง สง่างามและมีฐานะสูงส่งกว่าที่เธอคิด เธอก็เคยเห็นคุณชายแห่งมหานครเอมพีเรียลมาหลายคนแล้ว ทั้งลู่หานถิง ลู่จื่อเซียน สวี่เส้าหนาน... ล้วนเป็นผู้มีอิทธิพล แต่เมื่อเทียบกับผู้อาวุโสอย่างลู่ซือเจี๋ยท่านนี้พวกเขากลับมีบางสิ่งบางอย่างที่ดูแตกต่างกว่าเล็กน้อย
เซี่ยซีหว่านรู้ว่าสิ่งที่พวกเขาขาดหายไปคือกลิ่นอายของความเป็นชนชั้นสูงที่เปล่งประกายที่สุดของลู่ซือเจี๋ยเช่นเดียวกับออร่าของชายคนหนึ่งที่แทรกซึมอยู่ในวงการธุรกิจมานานหลายสิบปี และอยู่ในระดับราชาของวงการธุรกิจระดับสูง
สายตาที่เขามองเธอเมื่อครู่นี้ดูสงบนิ่งไม่มีอารมณ์ใด ๆ แต่เซี่ยซีหว่านรู้สึกว่าเขาได้เห็นส่วนลึกจากจิตวิญญาณของเธอ และมองเห็นเธอได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
ทันใดนั้น เสียงเคาะประตู “ก๊อกก๊อก” ดังขึ้น ซ่งหมิงยืนอยู่ข้างประตูและมองดูศาสตราจารย์ต่างประเทศสองสามท่าน เขาใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารสองสามประโยคกับพวกเขาได้อย่างคล่องแคล่ว ศาสตราจารย์ต่างประเทศสองสามท่านนั้นจึงกลับไป
ซ่งหมิงมองดูลู่ซือเจี๋ยที่อยู่ข้างในอีกครั้งด้วยความเคารพ จากนั้นจึงปิดประตูลง
เซี่ยซีหว่านกับซ่งหมิงเพิ่งจะรู้จักกัน แต่ความประทับใจครั้งแรกของซ่งหมิงที่เธอมองเห็นนั้นคือความฉลาดเฉียบแหลมและเย่อหยิ่งและมีความสามารถมาก แต่ซ่งหมิงมองลู่ซือเจี๋ยด้วยความเคารพที่มีความจงรักภักดีและเลื่อมใสศรัทธาต่อเจ้านาย การที่เขาสามารถทำให้ลูกน้องทุ่มเทได้อย่างนี้จะต้องเป็นเสน่ห์ส่วนตัวของลู่ซือเจี๋ยเจ้านายคนนี้แน่นอน
ในห้องทำงานเหลือแค่เธอกับเขาสองคน ลู่ซือเจี๋ยนั่งบนเก้าอี้ทำงาน เขาใช้สายตาชี้ไปที่เก้าอี้ตรงข้ามเขานิดหน่อยแล้วพูดว่า “คุณเซี่ย เชิญนั่งครับ”
เสียงทุ้มต่ำของเขาเหมือนดั่งไวน์แดงฝรั่งเศสที่นักสะสมชื่นชอบ น้ำเสียงของเขามีเสน่ห์ดึงดูดน่าฟังมาก
เห็นได้ชัดว่ามันเป็นน้ำเสียงที่ธรรมดามาก แต่กลับมีความสง่างามน่าเกรงขามอย่างลึกซึ้งที่ไม่สามารถอธิบายได้และทำให้ผู้คนยอมจำนน
เซี่ยซีหว่านเดินเข้าไปนั่งฝั่งตรงข้ามของเขาในทันที
ลู่ซือเจี๋ยเงยหน้ามองเธอด้วยสีหน้าเฉยเมยมาโดยตลอด เขาไม่แสดงความปิติยินดีและความโกรธใด ๆ ออกมาเลย “ผมบุ่มบ่ามเชิญคุณเซี่ยมาได้โปรดยกโทษให้ผมด้วยนะครับ แต่เราต้องพูดคุยกันเกี่ยวกับอาถิง”
ดวงตาสดใสของเซี่ยซีหว่านมองลู่ซือเจี๋ยโดยไม่มีความประหม่าแม้แต่น้อยและพูดว่า “คุณลุงลู่ ต้องการจะคุยอะไรกับฉันเหรอคะ?”
ลู่ซือเจี๋ยหยิบซองจดหมายออกมาฉบับหนึ่งแล้วยื่นมาตรงหน้าเธอ
เซี่ยซีหว่านเปิดซองจดหมายฉับับนั้น ข้างในเต็มไปด้วยรูปถ่าย
เธอหยิบรูปถ่ายขึ้นมาหนึ่งใบ รูปนี้เป็นถูกถ่ายหลังจากที่เธอออกจากโรงพยาบาลและสูญเสียการมองเห็นอย่างกะทันหัน เธอยืนอยู่บนถนนเพื่อโทรหาเขาและหวังว่าเขาจะมารับเธอ
ขณะนั้นที่เขากำลังคุยโทรศัพท์กับเธอนั้น เขามีท่าทีไม่แยแสและใจจืดใจดำ เธอบอกไม่ได้ว่าเธอรู้สึกถึงเขาเวลาข้ามถนน เธอจึงยื่นมือออกมาข้างหน้าเพื่อควานหาเขาแล้วถามว่า คุณชายลู่คะ ใช่คุณหรือเปล่า?
เซี่ยซีหว่านมองรูปใบนั้นทั่วทั้งเมืองไห่เฉิงสว่างไสวด้วยแสงนีออน เธอกับเขายืนอยู่กลางถนน เธอยื่นมือออกไปหาเขา เขามองเธออย่างเจ็บปวดและอาลัยรัก เมื่อเธอเห็นภาพนี้ก็รับรู้ได้ในทันทีว่าขณะนั้นเมืองแห่งหนึ่งกลับเงียบสงบเพราะพวกเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักคุณสามี
กลับมาลงเรื่องนี้ต่อหน่อยค่ะ😁😁😁...
รอตอนต่อไปนานมากแล้ว ครับ...
นิยายแปลที่ติดตามก็ไม่มีการอัปเดทนิยายไทยก็เดิมฯเรื่องใหม่ก็เค้าโคลงจากเรื่องเดิมแม้จะเปลี่ยนชื่อแต่คนอ่านก็จำได้ค่ะ บางเรื่องที่ติดตามไปติดเหรียญที่เเอปอื่น ยังไงต่อไปดี...
ไม่มีอัพเดตต่อ...หรือเลิกแปลเรื่องนี้ไปแล้ว...
เรื่องนี้รออัปเดทนานมากค่ะนิ่งเลยค่ะ...