อธิการบดีมหาวิทยาลัย A เหรอ?
เดิมทีอาจารย์อู๋นั่งอยู่ริมสุดโดยไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกราวกับไม่มีตัวตน แต่ทว่าทันใดนั้นเขาก็ได้ยินลู่หานถิงเอ่ยชื่อของเขา
สายตาของทุกคนต่างจับจ้องมายังตัวเขา
ทุกคนต่างก็ไม่เข้าใจว่าทำไม จู่ ๆ ประธานลู่ถึงเอ่ยชื่อเรียกหาเขา
อาจารย์อู๋เองก็รู้สึกงุนงง แต่เขากลับตอบสนองอย่างรวดเร็ว แล้วมายืนอยู่ข้าง ๆ ลู่หานถิงในทันที และพูดว่า “สวัสดีครับท่านประธานลู่ อธิการบดีมหาวิทยาลัย A อยู่นี่ครับ ผมเองครับ ผมชื่ออู๋ครับ”
เมื่อรองอธิการบดีโจวเห็นดังนั้น จึงพูดขึ้นอย่างรวดเร็วว่า “ท่านประธานลู่ครับ ทำไม จู่ ๆ ท่านถึงเรียกหาอาจารย์อู๋ล่ะครับ มหาวิทยาลัย A เป็นมหาวิทยาลัยที่ไม่มีชื่อเสียง กิจกรรมนันทนาการก็ไม่เคยได้ที่หนึ่งเลย ครั้งนี้มหาวิทยาลัย A ก็คงจะไปสร้างปัญหาอะไรไว้อีกใช่ไหมครับ?”
ทุกคนต่างก็คาดเดากันเช่นนี้ ซึ่งอันที่จริงแล้วอาจารย์อู๋เองก็รู้สึกหวั่นใจอยู่เล็กน้อยเช่นกัน หรือว่ามีใครในภายใต้บังคับบัญชาของเขาไปก่อเรื่องสร้างหายนะไว้ให้เขา และทำให้ตอนนี้ท่านประธานลู่จึงมาคิดบัญชีกับเขาอย่างนั้นเหรอ?
ดวงตาอันเฉี่ยวคมของลู่หานถิงมองไปยังใบหน้าของอาจารย์อู๋ และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำอันน่าดึงดดราวกับแม่เหล็กว่า “อาจารย์อู๋ คุณไม่ต้องรู้สึกกังวลไป ไม่มีเรื่องอะไรหรอกครับ ผมแค่ต้องการเรียกคุณให้มาถ่ายรูปครับ”
ลู่หานถิงพูดพลางชี้ไปยังที่นั่งตำแหน่งด้านข้างของตัวเอง
พระเจ้า
เดิมทีอาจารย์อู๋นั้นอยู่ที่ริมสุดของแถวซึ่งนั่นก็เป็นที่นั่งพิเศษสำหรับเขาแล้ว แต่ตอนนี้ลู่หานถิงเอ่ยชื่อเขาเพื่อให้อยู่เคียงข้างเขา !
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ทุกคนสูดหายใจเข้าลึก ๆ สีหน้าของรองอธิการบดีโจวเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อว่าอาจารย์อู๋ผู้ที่ขาดคุณสมบัติและความสามารถนี้ คาดไม่ถึงว่าอาจารย์อู๋จะได้รับความโปรดปรานจากลู่หานถิง เขาไปถูกแจ็คพอตใหญ่อะไรมา?
อาจารย์อู๋นิ่งชะงักตัวแข็งทื่อในทันที เขาใช้เวลานานเพื่อครุ่นคิดจนถึงจะเข้าใจว่า อันที่จริงแล้วลู่หานถิงไม่ได้จะสร้างความลำบากใจให้แก่เขา แต่กลับให้เกียรติเขา ไม่ไหวแล้ว เขารู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขากำลังลอยไปทั้งตัว
“อาจารย์อู๋ครับ เชิญครับ เราจะเริ่มถ่ายรูปกันแล้วครับ” ฝ่ายผู้จัดงานเหลือบมองอาจารย์อู๋ที่กำลังตื่นตกใจพลางโบกไม้โบกมือเพื่อเป็นการเชื้อเชิญอีกด้วย
ทุกคนต่างพากันแยกย้ายไปทางด้านข้างและสละที่นั่งให้อาจารย์อู๋ เขายืดหลังตรงขึ้นในทันใดและทำเสียงกระแอมไอ ยืนแกว่งไกวอยู่ข้าง ๆ ลู่หานถิง
ด้านซ้ายมือของลู่หานถิงคือรองอธิการบดีโจวที่มีสีหน้าเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้มใจ ส่วนด้านขวามือคืออาจารย์อู๋ที่มีสีหน้าเต็มไปด้วยความสุข ทันใดนั้นเสียง “แชะ” ก็ดังขึ้น การถ่ายรูปหมู่ได้เสร็จสิ้นแล้ว ภาพถ่ายถูกแขวนไว้ในตู้โชว์ของหออนุสรณ์สถาน
อาจารย์อู๋รู้สึกพึงพอใจมาก เขาเหลือมองรองอธิบดีโจวอย่างผู้ชนะ
รองอธิบดีโจวรู้สึกโกรธจนอกแทบระเบิด เขาไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วลับหลังอาจารย์อู๋ใช้กลอุบายอะไรถึงทำให้ลู่หานถิงมองเห็นความสำคัญในตัวเขา แต่เขาเองก็มีความมั่นใจเช่นกัน จึงพูดขึ้นว่า “ท่านประธานลู่ครับ อีกสักครู่ทีมเชียร์ลีดเดอร์ของแต่ละมหาวิทยาลัยจะลงสนามเพื่อออกมาเต้นกันแล้วครับ ทางมหาวิทยาลัย T ของเราหยิบฉลากได้หมายเลข 1 จึงได้ลงสนามเป็นลำดับแรก ขอเชิญท่านประธานลู่รับชมด้วยครับ”
ใบหน้าอันหล่อเหลางดงามนั้นไร้ซึ่งการแสดงออกทางอารมณ์ของลู่หานถิง เขาตอบกลับอย่างเย็นชาเพียงหนึ่งคำว่า “ครับ”
รองอธิบการบดีโจวหันมองไปทางอาจารย์อู๋อีกครั้ง และพูดว่า “อาจารย์อู๋ ได้ยินมาว่าปีนี้ทางมหาวิทยาลัยของท่านมีเซี่ยซีหว่านเป็นดาวมหาลัยและวันนี้เธอก็เป็นหัวหน้าทีมเชียร์ลีดเดอร์ด้วย เซี่ยซีหว่านคนนี้เคยอยากจะเข้ามหาวิทยาลัย T ของผม แต่โดนผมปฎิเสธไป ทำไมคุณถึงได้รับเธอเข้าเรียนล่ะ?”
อาจารย์อู๋มีสีหน้าท่าทางเบิกบานใจ เมื่อเขาได้รับความไว้วางใจจากท่านประธานลู่หานถิงผู้เป็นดั่งพระพุทธเจ้าท่านนี้ เขาก็รู้สึกว่าตัวเลขดัชนีการต่อสู้ของเขาพุ่งสูงขึ้นแล้ว จึงพูดว่า “คุณโจว มีคำศัพท์คำหนึ่งที่กล่าวว่ามีตาหามีแววไม่ใช่ไหมครับ ผมรับเซี่ยซีหว่านเข้ามาเพื่อให้คุณเข้าใจรสชาติของความเสียใจภายหลังว่ามันเป็นยังไง”
“หึ !” รองอธิการบดีโจวทำเสียงฮึดฮัดออกทางจมูกอย่างไม่พอใจที่ถูกเหยียดหยาม เซี่ยซีหว่านผู้นั้นมีอะไรดี เขาจะรู้สึกเสียใจภายหลังได้อย่างไรกัน เขาจึงพูดต่ออีกว่า “หลายปีมานี้ ทีมเชียร์ลีดเดอร์ของมหาวิทยาลัย T ของเราสวยที่สุด และทุกคนต่างก็ตั้งตารอคอย คุณอู๋ คุณอย่าเพิ่งคุยโวโอ้อวดใหญ่โตไปเลย เมื่อถึงเวลาจะได้ไม่ถูกทำให้อับอายขายหน้าและรู้สึกอึดอัดใจ”
อาจารย์อู๋จึงพูดตอบว่า “คุณโจว คุณก็รู้ว่ามันผ่านมาหลายปีแล้ว นั่นหมายถึงเมื่อก่อนแล้วใช่ไหมล่ะ? คุณอย่าเอาความรุ่งโรจน์ของช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นมาคุยโอ้อวดอีกเลย คนเราต้องมองไปข้างหน้าสิ”
“คุณ !” รองอธิการบดีโจวรู้สึกโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก
ในขณะเดียวกันนั้นผู้คนรอบข้างต่างอดทนมองไม่ไหวอีกต่อไปจึงพากันตำหนิอาจารย์อู๋
“คุณอู๋ วันนี้คุณเป็นอะไรไป หยิ่งผยองขึ้นอย่างนั้นเหรอ?”
“ทำไมคุณถึงกล้ายั่วยุมหาวิทยาลัย T ขนาดนี้ล่ะ คุณควรเก็บอาการหน่อยนะ เราต่างก็อยู่ข้างมหาวิทยาลัย T กันทั้งนั้น”
ภายในใจของของอาจารย์อู๋เกิดเสียง “ฉึบ ” ดังขึ้น ผู้คนเหล่านี้ไม่มีวิสัยทัศน์เอาเสียเลย เหมือนพูดกับเป็ดกับไก่ อาจารย์อู๋ยิ้มตาหยีมองไปยังลู่หานถิงที่อยู่ข้างกาย แล้วพูดว่า “ท่านประธานลู่ครับ คุณอยู่ฝั่งไหนครับ อยู่ฝั่งมหาวิทยาลัย A เถอะครับ วันนี้มหาวิทยาลัย A ของเราต้องทำให้คุณรู้สึกแปลกใจอย่างแน่นอนครับ !”
ลู่หานถิงเลิกคิ้วรูปดาบที่ดูองอาจผึ่งผายนั้นขึ้นเล็กน้อย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงผ่อนคลายว่า “ผมเชื่อมั่นในตัวอาจารย์อู๋ครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักคุณสามี
กลับมาลงเรื่องนี้ต่อหน่อยค่ะ😁😁😁...
รอตอนต่อไปนานมากแล้ว ครับ...
นิยายแปลที่ติดตามก็ไม่มีการอัปเดทนิยายไทยก็เดิมฯเรื่องใหม่ก็เค้าโคลงจากเรื่องเดิมแม้จะเปลี่ยนชื่อแต่คนอ่านก็จำได้ค่ะ บางเรื่องที่ติดตามไปติดเหรียญที่เเอปอื่น ยังไงต่อไปดี...
ไม่มีอัพเดตต่อ...หรือเลิกแปลเรื่องนี้ไปแล้ว...
เรื่องนี้รออัปเดทนานมากค่ะนิ่งเลยค่ะ...