พ่ายรักคุณสามี นิยาย บท 51

หลัวฝูมาถึงแล้ว มีคนมาคอยหนุนหลังหลี่ยู่หลานแล้ว ทำให้ฉากเมื่อครู่เปลี่ยนไปเป็นคนละอย่างทันที

เซี่ยเจิ้งกั๋วรีบทิ้งเซี่ยซีหว่านแล้วเดินไปหาหลัวฝูทันที อีกทั้งผู้คนในงานยังแสดงความเคารพเขาอย่างประจบ “พ่อบุญธรรมครับ ขอบคุณสำหรับเวลาอันมีค่าของคุณที่ให้เกียรติสละเวลาว่างมานะครับ พวกเราทุกคนรอคุณอยู่ครับ”

หลัวฝูมีรูปร่างอ้วน ใบหน้าของเขามีความเฉลียวฉลาดของคนเป็นนักธุรกิจ เขาตบเบา ๆ ที่มือของหลี่ยู่หลาน

“เจิ้งกั๋ว ผมได้ยินมาว่าพักนี้มีคนมารังแกหลี่ยู่หลานทำให้เธอไม่สบายใจ ผมให้ลูกสาวบุญธรรมของผมแต่งงานกับคุณเพื่อทำให้เธอมีความสุข ไม่ใช่นำพาความทุกข์มาให้เธอ คุณเข้าใจความหมายที่ผมกำลังพูดใช่ไหม?”

เซี่ยเจิ้งกั๋วตัวแข็งทื่อ เขาเพิ่งจะให้สัญญากับเซี่ยซีหว่านไป ตอนนี้ยังถูกหลัวฝูวางอำนาจใส่อีกจนทำให้สีหน้าของเขาตอนนี้รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเหมือนถูกตบหน้าดังเพี๊ยะ

เซี่ยเจิ้งกั๋วเป็นคนหัวโบราณที่มักจะรักษาหน้าตาทางสังคมของตัวเองมากเป็นพิเศษ แต่เวลานี้เขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้เลย เพียงพราะอยากจะให้หลัวฝูอัดฉีดเงินเพื่อแก้ปัญหาเงินทุนระยะสั้นนั้นก่อน

“ครับพ่อบุญธรรม ผมจะดูแลยู่หลานให้ดี จะไม่ให้ผลกระทบจากข่าวลือภายนอกพวกนั้นมากระทบความสัมพันธ์ของผมกับยู่หลานอย่างเด็ดขาดครับ วันครบรอบการแต่งงานครั้งนี้จะเป็นสิ่งพิสูจน์ได้ดีที่สุดครับ” เซี่ยเจิ้งกั๋วพรั่งพรูคำพูดทั้งหมดออกมาขณะที่เขาหลับตา

หลัวฝูมองไปที่หลี่ยู่หลาน “ยู่หลาน ลูกคิดว่าอย่างไร?”

ตอนนี้หางของหลี่ยู่หลานเกือบจะชี้ขึ้นไปบนฟ้าแล้ว ก่อนหน้านี้เธอรู้สึกเป็นทุกข์มาก แต่มาเวลานี้กลับรู้สึกภูมิใจมาก จากนั้นเธอจึงเหลือบตาไปมองที่เซี่ยเจิ้งกั๋วแล้วพูดขึ้นอย่างฝืนทน

“ขอดูพฤติกรรมเขาหลังจากนี้ก่อนดีกว่าค่ะ”

“เจิ้งกั๋ว ได้ยินแล้วใช่ไหม ต่อจากนี้คุณจะต้องทำตัวดี ๆ ให้ลูกสาวบุญธรรมของผมพอใจ” หลัวฝูพูดออกคำสั่ง

“ครับครับครับ” เซี่ยเจิ้งกั๋วพยักหน้าตอบรับพัลวัน

หลัวฝูมีฐานะทางสังคมที่สูงมาก เขาเป็นนายทุนเงินหนาคนหนึ่งเลยล่ะ และตอนนี้พวกนักธุรกิจที่อยู่ในงานทั้งหลายจึงรีบกรูกันเข้าไปพูดคุยกับเขาทันที

หลี่ยู่หลานคล้องแขนของหลัวฝูตลอดเวลาไม่ยอมปล่อย เธอกำลังแผ่รังสีโอ้อวดใส่เซี่ยซีหว่านและพวกคุณนายเศรษฐีที่เมินใส่เธอเมื่อครู่อย่างองอาจ

สีหน้าของคุณนายเศรษฐีเหล่านั้นไม่สู้ดีนัก

เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยรู้สึกมีความสุขมาก เธอมองไปยังเซี่ยซีหว่าน จากนั้นจึงเอ่ยอย่างดูถูกเหยียดยาม

“เซี่ยซีหว่าน เธอเห็นแล้วใช่ไหม ชาติกำเนิดของเธอมันเทียบกับแม่ของฉันไม่ได้เลยสักนิด เมื่อคุณตาบุญธรรมของฉันมาถึงที่นี่ ทุกคนรวมถึงพ่อของฉันก็ยังต้องก้มหัวให้กับแม่ของฉัน”

เซี่ยซีหว่านมองหลี่ยู่หลานกับหลัวฝูที่กำลังยืนอยู่ในจุดที่สว่างไสวและได้รับการเยินยออย่างประจบสอพลอจากทุกคนก็รู้สึกขบขันเป็นอย่างมาก

“แม่ของเธอสามารถหาพ่อบุญธรรมที่มีอำนาจขนาดนี้มาเป็นคนคอยหนุนหลังได้ อีกทั้งยังดูโหดเหี้ยมขนาดนี้ ฉันนี่มันสู้ไม่ได้จริง ๆ”

เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยคิดไม่ถึงว่าเซี่ยซีหว่านจะพูดออกมาแบบนี้ เธอรู้สึกเหมือนกับต่อยหมัดใส่ปุยนุ่นที่ไม่มีแรงปะทะกลับมา

จากนั้นก็มีเสียงดนตรีจากเปียโนดังขึ้นมาในห้องโถง เป็นสัญญาณว่าช่วงเวลาเต้นรำได้มาถึงแล้ว

เซี่ยเจิ้งกั๋วในฐานะเจ้าภาพงานเดินออกไปยังด้านหน้า แล้วยื่นมือของตัวเองออกไปอย่างสุภาพ

“คุณภรรยา ผมขอเต้นรำกับคุณสักเพลงได้ไหมครับ?”

หลี่ยู่หลานที่ถูกขอเต้นรำรู้สึกเหมือนได้ระบายอารมณ์โกรธ ในช่วงเวลานี้เซี่ยเจิ้งกั๋วทำให้ความรู้สึกรักใคร่ของเธอที่มีต่อเขาลดลงมาจนเป็นเส้นตรง เขาเคยไม่กลับบ้านเลยทั้งคืน อีกทั้งยังเคยตบหน้าเธอต่อหน้าสาธารณะชน

ตอนนี้เธอคว้าโอกาสได้แล้ว หลี่ยู่หลานอยากจะจัดการกับเขาอย่างง่ายดายสักหน่อย และทำให้เซี่ยซีหว่านได้เห็นว่าพ่อคนนี้ของหล่อนนั้นเอาอกเอาใจเธอมากแค่ไหน

หลี่ยู่หลานมองตรงไปยังหลัวฝู

“พ่อคะ การเต้นรำครั้งนี้ พ่อมาเต้นด้วยกันกับลูกเถอะค่ะ”

ถึงแม้ว่าหลัวฝูจะขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อบุญธรรม แต่ความสัมพันธ์ของเขาทั้งสองคนกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลยแม้แต่น้อย

มองที่สายตาอันทรงเสน่ห์ของหลี่ยู่หลานในตอนนี้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นทั้งสองคนนั้นก็ไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว

หลัวฝูรีบยืนมือออกไปโอบหลี่ยู่หลานเอาไว้ทันที “ได้สิ แล้วแต่ลูกเลย”

หลัวฝูโอบหลี่ยู่หลานเดินเข้าไปกลางฟลอร์เต้นรำ แล้วจึงเริ่มเต้นรำขึ้น

เซี่ยเจิ้งกั๋วที่ยื่นตัวแข็งทื่ออยู่ในเหตุการณ์ “...”

รู้สึกโมโหแต่ทำอะไรไม่ได้!

หลัวฝูกำลังเต้นรำกับหลี่ยู่หลาน “ยู่หลาน นี่คือผู้ชายที่ลูกเลือกในตอนนั้น ทำไมลูกถึงคิดว่าเขาไม่มีประโยชน์อะไรเลย?”

หลี่ยู่หลานมองที่หลัวฝูแล้วเอ่ยขึ้น “ถ้าหากลูกไม่แต่งงานกับเขา แล้วจะให้ลูกแต่งงานกับคุณพ่อเหรอคะ? แม่เสือร้ายในบ้านของคุณพ่อจะไม่จับลูกกินไปแล้วเหรอ?”

หลัวฝูโดนเธอแหย่จนลมหายใจติดขัด เขาโอบกระชับเอวบางของเธอแน่นขึ้น “คืนนี้ไปหาพ่อที่ห้องของโรงแรมนะ”

หลี่ยู่หลานมีความคิดบางอย่างขึ้นมาในหัวพอดี เนื่องจากเซี่ยเจิ้งกั๋วต้องการเงินมาอัดฉีด หากหลัวฝูเป็นคนโง่แต่มีเงินและไม่ต้องการที่จะอัดฉีดเงินให้เขาล่ะ?

แบบนี้เธอจึงต้องไปนอนกับเขา

“เซี่ยซีหว่าน เธอเห็นไหม พ่อฉันยั่วโมโหแม่ฉันซะแล้ว แม่ฉันเลยไม่ยอมเต้นรำคู่กับพ่อฉัน เธอต้องเข้าใจให้ชัดเจนหน่อยนะ ว่าตราบใดที่คุณตาบุญธรรมของฉันยังอยู่ ตระกูลนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแม่ฉัน!" เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด

เซี่ยซีหว่านเองก็ไม่ได้สนใจเซี่ยเสี่ยวเตี๋ย เธอหันหน้ามองตรงไปยังเซี่ยเจิ้งกั๋ว เขาดูมีท่าทีว้าวุ่นและร้อนรน

“พ่อคะ เมื่อครู่นี้เสี่ยวเตี๋ยวบอกว่าพ่อไปยั่วโมโหคุณป้าเข้า คุณป้าก็เลยไม่เต้นรำคู่กับพ่อ

เสี่ยวเตี๋ยยังบอกอีกว่า ตระกูลของเรานั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณป้าอีกด้วย ขอโทษนะคะพ่อ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะหนู พ่อจึงโดนคุณป้าลงโทษ”

เนื่องจากมีเสียงเพลงดังขึ้นทั่วห้อง เซี่ยซีหว่านจึงพูดขึ้นเสียงด้วยความใจเย็น และก็ดังพอที่จะทำให้เหล่าแขกผู้มีเกียรติที่ยืนอยู่รอบ ๆ ตัวเธอได้ยิน

แล้วก็เป็นไปตามคาด สายตาของทุกคนมองไปที่ร่างของเซี่ยเจิ้งกั๋วเป็นตาเดียว พวกเขาแสดงความเห็นใจ สงสาร และหัวเราะเยาะ

สีหน้าของเซี่ยเจิ้งกั๋วตอนนี้ดูแย่มาก สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีเขียวปั้ด สายตาโกรธเคืองของเขาจ้องไปที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ย

เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยกลัวจนตัวสั่น เธอกล้าพูดอย่างมั่นใจเลยว่าหากไม่มีแขกผู้มีเกียรติอยู่กันเยอะขนาดนี้ เซี่ยเจิ้งกั๋วคงต้องระบายอารมณ์ด้วยการตบเธอฉาดใหญ่เป็นแน่

เซี่ยซีหว่านดูเหมือนจะไม่ได้สนใจกับเหตุการณ์เหล่านี้ แต่กลับเอ่ยขึ้นอย่างกังวลว่า

“พ่อคะ ท่านประธานหลัวคนนี้เป็นพ่อบุญธรรมของคุณป้าจริงเหรอคะ หนูเห็นเขาดีกับคุณป้ามาโดยตลอดมาก ๆ เลยค่ะ”

เซี่ยซีหว่านอายุเพียง 20 ปี และเธอยังไม่มีลูกสาว เธอพูดด้วยคำพูดเป็นห่วงเป็นใยและชื่มชมอย่างใจจริง ผู้พูดนั้นไม่ได้มีเจตนาอื่นใดแต่ผู้ฟังกลับใจไม่ดี

สายตาของทุกคนในงาน “กวาดสายตา” มองไปยังภายในฟลอร์เต้นรำ

หลัวฝูจับเอวบางของหลี่ยู่หลานขณะที่พวกเขากำลังเต้นรำ ร่างกายของทั้งสองแทบจะแนบชิดสนิทกัน หลี่ยู่หลานยิ้มอย่างมีเสน่ห์ อีกทั้งหลัวฝูก็มองเธออย่างไม่ละสายตา เขาแอบลอบมองหลี่ยู่หลานอยู่ตลอดเวลา

ก่อนหน้านี้หลัวฝูมาในนามของพ่อบุญธรรม ทุกคนไม่ได้คิดไปถึงเรื่องแบบนั้น แต่ตอนนี้กลายเป็นหัวข้อที่ถูกเซี่ยซีหว่านหยิบยกขึ้นมาพูด ทุกคนจึงฉุกคิดถึงความคลุมเครือระหว่างเขาสองคน

เซี่ยเจิ้งกั๋วจ้องไปที่สองคนนั้นที่กำลังอยู่ในฟลอร์เต้นรำแล้วกำหมัดแน่นทันที เส้นเลือดบนฝ่ามือของเขาตอนนี้เต้นตุบ ตุบ เขาโมโหขั้นสุดแล้ว

นังแพศยา!

ทันใดนั้นประตูห้องโถงก็ถูกผลักออกเสียงดัง “ปัง”

มีคนมา

หลี่ยู่หลานที่อยู่ในฟลอร์เต้นรำก็ได้ยินเสียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย เธอหันไปมองอย่างไม่สบอารมณ์

“ใครมันบังอาจ…”

พูดยังไม่ทันจบ ก็มีแส้เส้นหนึ่งฟาดลงมาบนตัวเธอ

กรี๊ด!

หลี่อยู่หลานหลบไม่ทัน ทำให้แส้เส้นนั้นฟาดลงมาบนตัวเธอพอดีด้วยความเร็วและแรง

เธอร้องอย่างน่าเวทนา เจ็บจนล้มลงไปกองอยู่บนพื้น

“ใครกัน ใครมันกล้าเข้ามาทำร้ายคนอย่างอุกอาจในงานใหญ่แบบนี้?” ทุกคนต่างหันหน้ากลับไปมอง

คุณนายหลัวตามมาที่นี่!

โทรศัพท์ในมือของคุณนายหลัวยังเปิดวิดีโอที่เซี่ยซีหว่านแอบถ่ายมาค้างเอาไว้อยู่เลย เป็นภาพที่หลี่ยู่หลานเดินคล้องแขนของหลัวฝูอยู่ตลอดเวลา และเต้นรำกับเขาอย่างเร้าร้อนจนแทบจะแนบเนื้อกัน...

หลัวฝูทิ้งหลี่ยู่หลานตรงนั้นทันที จากนั้นก็วิ่งด้วยสีหน้าลนลานเข้าไปหาคุณนายหลัว

“คุณภรรยา คุณมาได้อย่างไรกัน?”

ทุกคนต่างตกใจเสียงฮือฮา เนื่องจากการปรากฎตัวของคุณนายหลัว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักคุณสามี