เซี่ยซีหว่านถูกหักหลังมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เธอสูญเสียคนที่รักเธอไปทุกคนรวมทั้งคนที่เธอรักด้วย ดังนั้นตอนนี้เธอจึงอยากจะทะนุถนอมคนข้างกายเธอไว้ทุกคน ยกตัวอย่างเช่นเยี่ยหลิงและคุณท่านลู่…
เซี่ยซีหว่านหอบเอาขนมขบเคี้ยวกองใหญ่นั้นขึ้นมาอย่างมีความสุข จากนั้นจึงกุมมือหญิงชราเอาไว้แล้วพูดว่า “ดีเลยค่ะคุณย่า พวกเราไปกินขนมแล้วดูโทรทัศน์กันค่ะ!”
…
วันนี้ลู่หานถิงกลับมาเร็วกว่าปกติ สาวใช้เปิดประตูคฤหาสน์ออก ลู่หานถิงเปลี่ยนรองเท้าตรงประตูทางเข้าแล้วจึงเดินเข้าไปที่ห้องนั่งเล่น เพียงพริบตาเดียวเขาก็พบเข้ากับเซี่ยซีหว่านที่ขณะนี้กำลังนั่งอยู่บนพรมขนแกะนุ่มนิ่ม
ด้านในของหญิงสาวสวมเป็นชุดกระโปรงสลิปเดรสสีม่วงหนึ่งตัว ด้านนอกถูกสวมทับด้วยเสื้อสเวตเตอร์ขนสัตว์สีขาวนวล ชายกระโปรงปกคลุมใต้เข่าของเธออย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เป็นชุดใส่อยู่บ้าน
ตอนนี้ในมือเล็ก ๆ ของเธอกำลังถือถุงขนมขบเคี้ยวที่ถูกเปิดห่อเอาไว้แล้ว เธอกัดลงไปตรง ๆ ที่มันหวานอบแห้งพร้อมกับดูโทรทัศน์ไปด้วย
หญิงชราที่นั่งอยู่บนโซฟาเอ่ยขึ้น “หานถิง วันนี้กลับมาเร็วจัง ยังไม่ทันจะหกโมงเลย”
“ย่าครับ ผมรีบกลับมาอยู่เป็นเพื่อนย่ายังไม่ดีอีกเหรอครับ?” ลู่หานถิงยกมือขึ้นปลดกระดุมสูทบนตัวออก
คุณท่านลู่ที่กำลังยัดมันหวานอบแห้งเข้าไปในปากพูดขึ้นว่า “อย่ามาหลอกย่าเลยน่า หลานรีบกลับมาอยู่เป็นเพื่อนหว่านหว่านใช่ไหมล่ะ?”
ลู่หานถิงมองไปที่เซี่ยซีหว่าน เซี่ยซีหว่านที่อยู่ใต้แสงไฟก็เลื่อนดวงตาดำขลับสดใสมองมาที่เขาเหมือนกัน
ต่างคนต่างสบตากัน เซี่ยซีหว่านพูดออกมาอย่างนุ่มนวลว่า “คุณกลับมาแล้วเหรอคะ?”
ลู่หานถิงพยักหน้าตอบ “อืม”
“ค่ะ” เซี่ยซีหว่านเหมือนไม่มีอะไรจะพูดคุย เธอถอนสายตากลับไปแต่ว่าไม่ได้สนใจดูโทรทัศน์อีก เธอทำเพียงแค่กระพริบแพขนตาเรียวยาวแล้วกัดมันหวานอบแห้งหนึ่งคำ
ลู่หานถิงก้าวขายาว ๆ ไปด้านหน้าและนั่งยอง ๆ ลงตรงหน้าเธอ เขารู้สึกว่าหญิงสาวที่กินมันหวานอบแห้งอย่างเงียบ ๆ นั้นช่างน่าเอ็นดูเกินไปแล้ว ทั้งว่านอนสอนง่ายทั้งอ่อนหวาน มันทำให้หัวใจของเขานั้นอ่อนยวบยาบ
“กินอะไรอยู่เหรอ?”เขาเอ่ยปากถาม
เซี่ยซีหว่านเลื่อนตาขึ้นมองเขาอีกครั้ง “มันหวานอบแห้ง คุณย่าท่านซื้อมา คุณกินไหมคะ?”
ลู่หานถิงรู้ว่านั่นคือมันหวานอบแห้ง ตอนที่เดินเข้าไปใกล้เขาก็ได้กลิ่นหอมของมันหวานอบแห้งแล้ว เขาไม่เคยคิดสนใจขนมขบเคี้ยวของเด็กผู้หญิงมาก่อน แต่ว่าขนมที่อยู่ในมือของเธอนั้นดูท่าจะไม่เลวเสียทีเดียว
ลู่หานถิงขมวดคิ้วคมได้รูป “ฉันขอชิมหน่อย”
สายตาของเขาจ้องอยู่ที่มันหวานอบแห้งครึ่งแท่งที่เหลืออยู่บนมือของเธอ
ความหมายมันชัดเจนมากว่าเขาต้องการชิมชิ้นที่เธอกำลังกินอยู่และเขาก็ยังไม่มีท่าทีที่จะลงมือหยิบมันด้วยตัวเอง เขาต้องการให้เธอป้อนนั่นเอง
เซี่ยซีหว่านรู้อยู่แล้วว่าเขาต้องการอะไร เธอยัดมันหวานอบแห้งครึ่งชิ้นนั้นเข้าไปในปากของตัวเอง จากนั้นจึงเอาห่อขนมในมือยัดใส่อ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า “ฉันให้คุณหมดนี่เลยค่ะ”
แววตาของลู่หานถิงนั้นฉายแววตาขรึมขึ้น
ทันใดนั้นเอง หญิงชราก็วางขนมขบเคี้ยวไว้บนโต๊ะน้ำชา จากนั้นจึงลุกขึ้นเดินเข้าไปในครัว “แม่บ้านอู๋ มื้อเย็นเสร็จแล้วใช่ไหม จัดขึ้นโต๊ะเลย หว่านหว่าน มาทานข้าวกัน”
เซี่ยซีหว่านลุกขึ้นยืน แต่ลู่หานถิงวางห่อขนมลงบนพื้นพรม มือใหญ่ที่สวมนาฬิการาคาแพงจับที่หลังศีรษะของเธอแล้วพาตัวเธอแนบเข้ามาในอ้อมกอดของตัวเอง เขาผุดยิ้มที่ริมฝีปากบางออกมาและพูดว่า “เป็นอะไรไป จะไม่ยอมป้อนขนมผมหน่อยเหรอ?”
เซี่ยซีหว่านเอื้อมมือเล็ก ๆ ออกมายันหน้าอกแข็งแกร่งของเขาเอาไว้แล้วยื้อศีรษะเล็กขัดขืน “คุณจะทำอะไรคะ ปล่อยเลยนะ มีคนมองอยู่นะ คุณย่าท่านเรียกฉันไปทานข้าวแล้ว”
จริง ๆ มีแม่บ้านได้เห็นฉากนี้ในห้องนั่งเล่นไปแล้ว นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ผู้หล่อเหลาฉุดสาวน้อยบริสุทธิ์เข้าไปในอ้อมกอด ทั้งสองคนฉุดยื้อกันไปมา เป็นความคลุมเคลือที่ไม่สามารถพูดออกมาได้
แม่บ้านรีบเดินเข้าไปในห้องอาหารด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
ลู่หานถิงไม่ยอมปล่อยมือ ก้มศีรษะลงต่ำแล้วขยับเข้าชิดใบหน้าของเธอ “งั้นคุณมาให้ผมจูบก่อน”
“ไม่ต้องเลยนะ!” เซี่ยซีหว่านออกแรงผลักเขาออกไป จากนั้นเธอจึงลุกขึ้นยืนอย่างร้อนรนและวิ่งหนีไป
กลิ่นหอมอ่อน ๆ ในอ้อมแขนจางหายไปแล้ว ลู่หานถิงฮึดฮัดในลำคอ จากนั้นจึงยกมือขึ้นปลดกระดุมเม็ดบนสุดของเสื้อเชิ้ตออก
ตอนนี้ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น แค่อยากให้มันเป็นเหมือนเมื่อคืน เขาอุ้มเธอกลับไปที่ห้อง ดึงผ้าม่านเตียงออก อุ้มเธอมานั่งบนตักแกร่งและจูบเธออย่างดุเดือด
ทันใดนั้นเองก็ได้ยินน้ำเสียงใสของเซี่ยซีหว่านดังขึ้นว่า “คุณย่าคะ หนูคงไม่ได้ทานข้าวเย็นที่บ้านนะคะ คือว่าเพื่อนสนิทของหนูกลับมาวันนี้พอดี ตอนนี้หนูต้องไปรับเธอที่สนามบินค่ะ”
คุณท่านรีบเอ่ยขึ้นว่า “โอ้ดีเลย หว่านหว่าน ย่าจะให้คนขับรถไปส่งเธอ ถ้าเพื่อนเธอยินยอมก็ให้เขามาพักที่นี่สักสองคืนก็ได้ จะได้อยู่เป็นเพื่อนเธออย่างไรล่ะ”
“ตกลงค่ะคุณย่า น้ำใจของคุณย่าหนูได้รับมันแล้วค่ะ”
ทันใดนั้นเอง ลู่หานถิงก็เดินออกมาแล้วหยิบกุญแจรถมาด้วย “ผมจะไปส่งคุณที่สนามบินเอง”
“ไม่ต้องหรอก...”เซี่ยซีหว่านปฏิเสธ
ลู่หานถิงมองเธอแวบหนึ่ง
เซี่ยซีหว่านไม่ได้ต้องการที่จะแสดงออกอะไรหรือว่าทะเลาะกันต่อหน้าคุณย่า นิสัยของเขาเป็นคนเอาแต่ใจ บอกว่าจะไปส่งก็คือต้องไปส่งให้ได้ เธอไม่จำเป็นต้องพยายามอะไร
“ค่ะ ตกลงค่ะ ขอบคุณค่ะ”
ทั้งคู่ออกไปแล้ว พ่อบ้านฝูป๋อพูดพึมพำ “คุณท่านครับ ผมว่าวันนี้ระหว่างคุณชายกับคุณนายนั้นดูแปลก ๆ นะครับ”
หญิงชราหยิบตะเกียบขึ้นมาและชำเลืองมองฝูป๋อแวบหนึ่ง “คุณชายของแกเป็นคนสร้างเรื่องเอง แกดูเถอะ คืนนี้หว่านหว่านคงจะไม่ยอมกลับมาแน่ ปล่อยให้คุณชายของแกค่อย ๆ ไล่ตามภรรยาไปเถอะ”
ฝูป๋อมองคุณท่านที่ดูยินดีกับความโชคร้ายนี้แล้วพูดว่า “นี่ท่านเป็นคุณย่าที่แท้จริงไหมครับ?”
…
เซี่ยซีหว่านขึ้นมาบนโรลส์-รอยซ์ แฟนธอมแล้วนั่งลงที่นั่งข้างคนขับ
รถหรูที่ขับเคลื่อนอย่างมีเสถียรภาพได้ขับเข้ามาในย่านเศรษฐกิจอันมั่งคั่งที่มีรถวิ่งสัญจรไปมาอย่างไม่ขาดสาย เซี่ยซีหว่านหันหัวไปมองแสงสีที่กระจกหน้าต่างด้านนอก เมืองไห่เฉิงในยามค่ำคืนช่างงดงามจริง ๆ
ขณะนั้นเองที่ลู่หานถิงได้เอ่ยปากขึ้น “คุณกำลังโกรธผมเรื่องเงินหนึ่งพันสองร้อยล้านอยู่ใช่ไหม?”
“เปล่าค่ะ เงินนั่นเป็นเงินที่คุณหามา ฉันไม่ได้มีส่วนช่วยอะไรเลยสักนิด ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้ามาแทรกแซงการใช้เงินของคุณหรอกค่ะ”
“ถ้าผมจะบอกว่าระหว่างผมกับเซี่ยเหยียนเหยียนนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมไม่ได้สนิทกับเธอ เพียงแค่พบเจอไม่กี่ครั้ง คุณจะเชื่อผมหรือเปล่า”
เซี่ยซีหว่านหันกลับมามองลู่หานถิงที่กำลังขับรถ “คุณชายลู่คะ คุณกำลังบอกฉันเป็นนัย ๆ ว่าเซี่ยเหยียนเหยียนนั้นมีเสน่ห์มาก หรือว่าฉันควรจะหัวเราะที่คุณรวยแต่โง่ดีคะ คุณให้เงินเธอไปตั้งพันสองร้อยล้าน แต่จะบอกว่าแม้แต่เตียงก็ยังไม่ได้ขึ้นเนี่ยนะ”
ดวงตาลุ่มลึกและเรียวรีของลู่หานถิงฉายแววเย็นยะเยือกขึ้น น้ำเสียงทุ้มต่ำแฝงไปด้วยถ้อยคำตำหนิว่า “คุณนายลู่ คุณจะโกรธผมก็ได้ จะเล่นตลกอะไรกับผมก็ได้ แต่อย่ามาพูดพล่อย ๆ แบบนี้ คุณไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าผมอยากขึ้นเตียงกับใคร”
เซี่ยซีหว่านหันกลับไปและไม่สนใจเขาอีก
ภายในรถหรูนั้นตกอยู่ในความเงียบสงัด
ลู่หานถิงยังพูดต่อว่า “เซี่ยเหยียนเหยียนเคยช่วยผมเอาไว้ ผมรับปากกับเธอสามอย่าง เรื่องแรกเป็นเรื่องที่ส่งเธอไปเรียนต่อมหาลัยที่กรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส เรื่องที่สองเป็นเรื่องเงินลงทุนเซี่ยการแพทย์จำนวนหนึ่งพันสองร้อยล้าน”
เซี่ยซีหว่านยกมือขึ้นสางเส้นผมยาวสลวยตรงข้างแก้มขึ้นทัดที่หลังใบหู จากนั้นจึงยกริมฝีปากสีแดงสดเอ่ยขึ้นอย่างเย้ยหยันว่า “พูดแบบนี้ก็แสดงว่า ตราบใดที่เซี่ยเหยียนเหยียนขอร้อง คุณก็จะไม่ปฏิเสธ หนี้ชีวิตอย่างนั้นเหรอ แต่ถ้ามีคำขอที่เกินความคาดหมายขึ้นมา ถ้าเซี่ยเหยียนเหยียนขอให้คุณแต่งงานกับเธอล่ะ คุณจะแต่งงานกับเธอไหม?”
ลู่หานถิงเหลือบตามองใบหน้าด้านข้างที่งดงามน่าจับตามองของเธอแล้วพูดว่า “ผมมีคุณเป็นคุณนายลู่อยู่แล้ว จะไปแต่งได้อย่างไร หรือพูดอีกอย่าง คุณพยายามผลักผมให้ผู้หญิงคนอื่น ไม่อยากได้ผมอีกครั้งอย่างนั้นเหรอ หืม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักคุณสามี
รอตอนต่อไปนานมากแล้ว ครับ...
นิยายแปลที่ติดตามก็ไม่มีการอัปเดทนิยายไทยก็เดิมฯเรื่องใหม่ก็เค้าโคลงจากเรื่องเดิมแม้จะเปลี่ยนชื่อแต่คนอ่านก็จำได้ค่ะ บางเรื่องที่ติดตามไปติดเหรียญที่เเอปอื่น ยังไงต่อไปดี...
ไม่มีอัพเดตต่อ...หรือเลิกแปลเรื่องนี้ไปแล้ว...
เรื่องนี้รออัปเดทนานมากค่ะนิ่งเลยค่ะ...