พายุรักแห่งเม็ดทราย นิยาย บท 55

“น้ำหนาว...”

นีราพรรณ นาราพรรณ คุณกมล และป้าจันต่างก็รีบวิ่งเข้าไปประคองร่างบอบบางที่นอนนิ่งหายใจรวยรินใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือดด้วยความเป็นห่วง

“อานีสต์ ไปตามหมอหลวงมา วาอีน์กันคนออกไปก่อนอย่าให้เข้ามามุงเดี๋ยวน้ำหนาวจะขาดอากาศหายใจยิ่งกว่าเดิม อาดิลเจ้าไปตามนายของเจ้ามาด้วย”

เจ้าชายฮารีฟร์ออกคำสั่งกับองครักษ์เอกทั้งสามจากนั้นก็รีบช้อนร่างบางอ่อนปวกเปียกให้นอนลงบนโซฟาหลุยส์ที่ใช้สำหรับรับรองอาคันตุกะจากแดนไกล

องครักษ์ทั้งสามต่างก็รีบเร่งปฏิบัติตามคำสั่งที่ได้รับ อาดิลวิ่งออกจากพระราชวังสอดสายตามองหาเจ้าชายหนุ่มที่คิดว่าอาจจะเดินเล่นอยู่รอบๆ บริเวณ

เจ้าชายซารีฟร์เดินออกมาจากสวนพฤกษชาติด้วยใบหน้าหมองเศร้ารู้ว่าอย่างไรแล้วก็ไม่สามารถสลัดนาราภัทรหญิงเดียวที่รักล้นใจออกไปจากชีวิตของตนเองได้ ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนใบหน้างามดวงตาเศร้าๆ ของนาราภัทรยังคงวิ่งวนอยู่ในหัวใจแข็งแกร่งตลอดเวลา

“เจ้าชาย...โอ...กระหม่อมดีใจเหลือเกินที่ตามหาพระองค์พบสักที” อาดิลร้องออกมาด้วยความดีใจเมื่อเห็นเจ้าเหนือหัวของตนเองเดินออกมาจากสวนพฤกษา

“ดีใจทำไมอาดิลเราไม่ได้หายไปไหนแค่เดินเล่นอยู่ในสวนดอกไม้ก็เท่านั้นเอง แล้วทำไมต้องทำสีหน้าตื่นตระหนกขนาดนั้นด้วย”

เจ้าชายซารีฟร์เดินเอามือล้วงกระเป๋าสาวเท้าเรื่อยๆ ตรงไปยังพระราชวังโดยไม่รีบเร่ง เขากำลังสร้างกำแพงแห่งความเฉยเมยเพื่อเป็นเกราะป้องกันมิให้หัวใจเจ็บช้ำไปมากกว่าเดิมขณะจะกลับไปเผชิญหน้ากับนาราภัทรอีกครั้ง

องครักษ์อาดิลรีบวิ่งมาดักหน้าเจ้าเหนือหัวก่อนจะเอ่ยตอบรัวเร็วสร้างความตกใจให้กับเจ้าชายซารีฟร์เป็นอย่างมาก

“เจ้าชาย พระชายาเป็นลมอยู่ที่ท้องพระโรง”

เจ้าชายองค์รองแห่งอัลนูรีนไม่ได้รอฟังองครักษ์อาดิลเอ่ยจนจบประโยคแค่ได้ยินว่าพระชายาเป็นลมก็ก้าววิ่งเต็มพลังกำลังตรงดิ่งไปสถานที่ที่จากมา

“น้ำหนาว!”

เจ้าชายซารีฟร์ตะโกนลั่นก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งมาถึงท้องพระโรงและเมื่อเห็นใบหน้างามซีดเผือดนอนหายใจรวยรินอยู่บนโซฟาหลุยส์โดยมีแพทย์หลวงกำลังตรวจอาการอยู่ก็ผลักร่างใหญ่ของนายแพทย์ออกพร้อมกับตวาดลั่น

“หลีกไป”

มือใหญ่ช้อนร่างบอบบางมาไว้ในอ้อมแขนพร้อมกันนั้นก็ประทับจุมพิตลงไปบนพวงแก้มซีดเผือดเรียวปากอิ่มเอิบก่อนจะก็เดินดุ่มๆ ออกจากท้องพระโรงตรงไปยังตำหนักของตนเองโดยไม่สนใจอาการอ้าปากค้างของแขกเหรื่อทูตานุทูตทั้งหลาย

เจ้าชายฮารีฟร์หัวเราะร่วนกับท่าทีเอาแต่ใจของอนุชาองค์รองจากนั้นก็อธิบายให้แขกกิตติมศักดิ์ทุกท่านที่อ้าปากหวอด้วยความงุนงงได้คลายความแปลกใจด้วยการบอกว่าอนุชาของตนนั้นกำลังพาพระชายาเข้าไปพักผ่อนที่ตำหนัก ส่วนพระชายาก็ไม่ได้เป็นอะไรมาแค่เพียงกำลังตั้งครรภ์มีโอรสน้อยๆ ให้กับแผ่นดินทะเลทราย

“เจ้าชาย น้ำหนาวไม่สบายมากหรือเปล่า เจ้าชายถามอาการกับหมอหลวงให้ด้วยผมไม่สันทัดภาษาอังกฤษสักเท่าไร”

คุณกมลตีสีหน้าเป็นกังวลแกมแปลกใจเมื่อเจ้าชายฮารีฟร์ได้เอ่ยบอกทูตานุทูตข้าราชการทั้งหลายเป็นภาษาอาหรับตามด้วยภาษาอังกฤษ หลังจากสิ้นคำพูดของประมุขแห่งอัลนูรีนแล้วบรรดาแขกทั้งชายหญิงก็ต่างยกแก้วแชมเปญชูขึ้นพร้อมกับเอ่ยเป็นภาษาอาหรับรัวเร็วซึ่งท่านฟังไม่ออกแต่แน่ๆ คิดว่าคงเป็นเรื่องดีเพราะแต่ละคนยิ้มกว้างจนแทบจะเห็นฟันทั้ง 32 ซี่

“ไม่ต้องเป็นกังวลหรอก น้ำหนาวกำลังจะมีโอรสธิดาน้อยๆ น่ารักน่าชังให้กับราชวงศ์อัลนูรีน”

เจ้าชายฮารีฟร์เอ่ยบอกพร้อมกับรับแก้วแชมเปญมาจากองครักษ์แล้วยื่นให้ราชินีที่รักตามด้วยคุณกมลป้าจันที่พากันอ้าปากค้างตกตะลึงก่อนจะพากันหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา

“นี่เราจะเป็นตาคนแล้วหรือ”

คุณกมลเอ่ยออกมาราวกับละเมอยกแชมเปญชูขึ้นสูงก่อนจะจิบเล็กน้อยเพื่อเป็นพิธีเพราะหมอสั่งห้ามให้คนที่เป็นโรคหัวใจอย่างเขางดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด

“ใช่แล้วคุณท่าน จันก็จะได้เป็นคุณยายแล้ว จันไม่อยากจะเชื่อเลย”

ป้าจันยิ้มแป้นเป็นจานกระด้งหน้าบานแฉ่งกว่าใครเพื่อน ดีใจที่มีโอกาสได้เป็นแม่นมเลี้ยงดูคุณหนูที่กำลังจะลืมตาดูโลกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

“เจ้าชายว่าสองคนนั้นจะปรับความเข้าใจกันได้ไหมคะ” นีราพรรณเงยหน้าขึ้นเอ่ยถามพระสวามีด้วยความเป็นห่วงในสถานการณ์รักของน้องสาว

“ทำใจให้สบายเถอะน้ำเหนือ ถ้าหากคืนนี้ซารีฟร์ง้อน้ำหนาวไม่สำเร็จเกิดทะเลาะเข้าใจกันผิดอีกหน เรากับองครักษ์เตรียมแผนสำหรับจัดการคนดื้อด้านทั้งสองไว้เรียบร้อยแล้ว ไปกล่าวทักทายราษฎรเถอะชาวอัลนูรีนรอชมความงดงามของเจ้าเป็นเวลานานแล้ว”

เจ้าชายฮารีฟร์กระซิบบอกแนบชิดกับพวงผมนุ่มสลวยจากนั้นก็โอบกอดร่างบางระหงให้เดินเคียงคู่กันออกไปกล่าวทักทายราษฎรผู้จงรักภักดีซึ่งต่างก็เดินทางมารออยู่หน้าพระราชวังเป็นจำนวนมาก

เจ้าชายซารีฟร์วางร่างบางอ่อนระทวยของนาราภัทรลงบนเตียงใหญ่ด้วยอาการทะนุถนอมจากนั้นก็ปลดเปลื้องอาภรณ์รัดตึงออกจากเรือนกายอรชรหอมละมุนแล้วหยิบเสื้อเชิ้ตตัวบางของตนเองมาสวมใส่แทนเสร็จจากการเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็หาผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำพร้อมกับเยาะโคโลญสองสามเหยาะมาเช็ดให้ตามใบหน้าที่ยังคงซีดเผือดเรื่อยลงมาถึงลำคอและต้นแขนเนียนทั้งสองข้าง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พายุรักแห่งเม็ดทราย