พายุรักแห่งเม็ดทราย นิยาย บท 54

พิธีอภิเษกสมรสที่ยิ่งใหญ่ระหว่างหนุ่มสาวสองแผ่นดินได้ถูกจัดขึ้นในอีกสองวันต่อมา ในช่วงเช้าจะเป็นพิธีการตามขนบธรรมเนียนของอัลนูรีน ส่วนช่วงเย็นจะเป็นการจัดงานเลี้ยงตามแบบสากลทั่วๆ ไป นีราพรรณสวยสง่างดงามในชุดแต่งงานสีทองอ่อนซึ่งเป็นชุดแต่งงานของราชินีองค์ก่อนผู้เป็นพระมารดาของเจ้าชายฮารีฟร์เครื่องประดับทุกชิ้นเริ่มด้วยสร้อยประดับหน้าผากต่างหูสร้อยคอกำไลสร้อยข้อมือล้วนแต่เป็นอัญมณีราคาแพงทรงคุณค่า

“พี่น้ำเหนือสวยจังเลยเหมือนเจ้าหญิงในนิยายไม่มีผิด”

นาราพรรณเอ่ยชมพี่สาวคนโตหลังจากนะญาหญิงรับใช้ได้ช่วยแต่งตัวด้วยอาภรณ์งดงามให้กับนีราพรรณเรียบร้อยแล้ว

“พี่น้ำเหนือดูแปลกตาเวลาสวมชุดนี้แต่ก็สวยสง่าสมกับราชินีแห่งอัลนูรีน”

นาราภัทรเอ่ยชมพี่สาวบ้างพลางเข้าไปสวมกอดร่างบอบบางทั้งของพี่สาวและแฝดน้องไว้แนบแน่น

นะญาหญิงรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ยืนอมยิ้มปล่อยให้สามสาวแสดงความรักความอบอุ่นต่อกันอยู่พักใหญ่ก่อนจะเข้าไปสะกิดเรียกพระชายาของเจ้าชายซารีฟร์

“พระองค์เพคะ พระองค์กับองค์หญิงน้ำค้างต้องสวมชุดประจำชาติเหมือนกันค่ะ นะญาเตรียมชุดให้เรียบร้อยแล้วเชิญพระองค์ทั้งสองที่ห้องแต่งตัวเลยค่ะ”

แม้หญิงสาวทั้งสองยังไม่ได้รับการสถาปนายศฐาบรรดาศักดิ์อย่างเป็นทางการแต่นะญารวมทั้งหญิงรับใช้คนอื่นๆ ต่างก็พร้อมใจรับใช้และให้การยกย่องหญิงงามทั้งสอง

“น้ำค้างต้องแต่งตัวเหมือนพี่น้ำเหนือหรือคะ”

นาราพรรณเบิกตาโตด้วยความตื่นเต้นดีใจเมื่อเห็นหญิงรับใช้อีกสองสามคนถือชุดประจำชาติแสนงามรออยู่

“เพคะ ขององค์หญิงเป็นสีฟ้าส่วนของพระชายาเป็นสีแดงอ่อน”

“ใครเป็นคนเลือกชุดน่ะนะญาเข้ากับแหวนที่ท่านพี่ฮารีฟร์มอบให้เราเลย”

นาราพรรณปราดเข้าไปลูบไล้อาภรณ์ที่ถักทอจากเส้นไหมบางเบาจนกลายเป็นชุดประจำชาติที่งดงามยิ่งจนแทบไม่กล้าหยิบจับมาสวมใส่

“พี่เป็นคนเลือกให้เองจ้ะ น้ำหนาวกับน้ำค้างรีบไปเปลี่ยนชุดน่ะจวนจะถึงฤกษ์พิธีแล้ว”

นีราพรรณยิ้มบางๆ พลางดุนหลังให้น้องสาวคนเล็กที่ยังคงลูบไล้อาภรณ์งดงามไม่เลิกให้เดินตามหญิงรับใช้เข้าไปในห้องแต่งตัวพอนาราพรรณเดินพ้นรัศมีที่จะได้ยินแล้วจึงหันไปจับต้นแขนเนียนขาวผ่องของน้องสาวคนรองไว้ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

“น้ำหนาว ไหวไหม ถ้าเวียนหัวมากก็พักอยู่ที่ตำหนักไม่ต้องออกไปร่วมงานก็ได้”

“น้ำหนาวไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกค่ะ พี่น้ำเหนืออย่ากังวลเลย”

นาราภัทรฝืนยิ้มบางๆ ให้กับพี่สาว อาการแพ้ท้องที่เล่นงานหนักกว่าทุกวันทำเอาเธอไร้เรี่ยวแรงแทบจะล้มทั้งยื่นเพราะตั้งแต่ตื่นนอนมาก็อาเจียนไม่ได้หยุด

นีราพรรณยิ้มหวานให้กำลังใจพลางเอ่ยปลอบเสียงสั่นเครือ “พี่เคยแพ้ท้องมาก่อนนะน้ำหนาว พี่รู้ว่าน้องแพ้ท้องมากแล้วก็เวียนหัวบ่อยด้วย พี่อยากให้น้ำหนาวรักษาสุขภาพและลูกในครรภ์ให้ดีอย่าให้เสียเขาไปเหมือนพี่”

“โธ่...พี่น้ำเหนือ น้ำหนาวเสียใจด้วย นะญาเล่าเรื่องลูกให้ฟังแล้ว พี่น้ำเหนืออย่าสิ้นหวังนะคะพี่ยังสามารถมีลูกได้อีก”

นาราภัทรร้องไห้ออกมาเบาๆ โผเข้าไปกอดพี่สาวพลางยกมือลูบไล้ทั่วแผ่นหลังเนียนเอ่ยปลอบทั้งตัวเองและพี่สาวถึงตอนนี้เธอรู้ชัดแล้วว่าหัวอกของการเป็นแม่คนนั้นเจ็บปวดมากเพียงใดเมื่อต้องสูญเสียเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเอง

“น้ำหนาว พี่อยากขอร้องให้น้ำหนาวบอกเรื่องลูกให้เจ้าชายซารีฟร์ได้รับรู้ด้วย”

“ไม่ค่ะ น้ำหนาวไม่บอก ตอนที่น้ำหนาวตามไปที่โอเอซิสและบอกว่าน้ำหนาวรักเขาแต่ก็เปล่าประโยชน์เจ้าชายซารีฟร์ไม่ได้รักน้ำหนาวจริงตามคำเอื้อนวาจาที่เคยบอกว่ารักน้ำหนาวเพราะเจ้าชายไม่เห็นสนใจตามน้ำหนาวมาที่เมืองหลวง คาสโนว่าอย่างเขาคงไม่หยุดความรักไว้ที่น้ำหนาวแค่เพียงคนเดียว”

ถ้อยคำยืนกรานเสียงแข็งพร้อมกับการเดินหนีเข้าไปยังห้องแต่งตัวหลังจากที่เอ่ยจบทำให้นีราพรรณได้แต่ส่ายหน้าด้วยความหนักใจอยากจะะบอกให้น้องสาวได้รู้เหลือเกินว่าวันนั้นเจ้าชายซารีฟร์ขี่อูฐไกลหลายสิบไมล์ฝ่าละอองเม็ดทรายเพื่อตามมางอนง้อคนดื้อด้านถึงที่เมืองหลวง...

เจ้าชายฮารีฟร์ อัล ริฟาอีลส์ อยู่ในชุดฉลองพระองค์เต็มยศขนาบข้างกายก็มีอนุชาทั้งสองที่อยู่ในเครื่องประดับแต่งกายเต็มยศฐาบรรดาศักดิ์เช่นเดียวกัน ขณะนี้ในท้องพระโรงพระราชวังหลวงซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีอภิเษกสมรสเต็มไปด้วยข้าราชาการชั้นผู้ใหญ่ทูตานุฑูตที่ได้รับเชิญให้มาเป็นสักขีพยานรวมถึงคุณกมลป้าจันญาติผู้ใหญ่ของฝ่าย

นีราพรรณซึ่งต่างก็พากันชะเง้อมองหาว่าเมื่อไหร่ราชินีผู้งดงามจะเข้ามาในท้องพระโรงสักที

อีกไม่กี่นาทีต่อมาเสียงฮือฮาเซ็งแซ่ก็ดังขึ้นต่างก็กล่าวขานถึงความสง่างามของหญิงงามแห่งสยามทั้งสามที่กำลังเดินเข้ามาในท้องพระโรง ความสวยงามที่แตกต่างตามแบบฉบับของแต่ละนวลนางสร้างความตกตะลึงให้แก่บุรุษชาติอาหรับได้เป็นอย่างมาก

บทที่ 27 (1) 1

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พายุรักแห่งเม็ดทราย