เจ้าชายซารีฟร์งึมงำชิดกับเรียวปากสีกุหลาบก่อนจะกดจุมพิตดูดดื่มเร่าร้อนละมุนละไมตามแรงรักภักดีที่มอบให้กับหญิงเดียวที่กำลังตกอยู่ในอ้อมแขน เขาขบฟันหน้ากับเรียวปากอิ่มตวัดลิ้นนุ่มโลมไล้ตามรูปปากแล้วสอดเข้าไปกระหวัดดื่มกินน้ำทิพย์หวานจากภายในโพรงปากซึ่งก็ได้รับการตอบสนองที่ดุดันเร่าร้อนไม่แพ้กัน
นาราภัทรชักจะเลื่อนๆ เมื่อเจอรุกหนักทั้งจากริมฝีปากสีสดที่กดจูบดุดันราวกับจะกลืนกินส่วนมือหนาร้อนผ่าวก็ฟอนเฟ้นเคล้าคลึงปลายถันสีหวานจนแข็งเป็นไตดอกกุหลาบหวานบานฉ่ำเปียกชื้นเต้นระริกตอบรับรสมือกองไฟร้อนรุ่มที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี
“เจ้าชาย...หยุดก่อนนะคะ...น้ำหนาวอยากคุยเรื่องของเราก่อน”
นาราภัทรร้องขอเสียงแหบแห้งพยายามหักห้ามความต้องการของตนเองไว้ชั่วขณะด้วยการสอดปลายนิ้วเข้าไปกันระหว่างเรียวปากของตนกับปากของเจ้าชายหนุ่มซึ่งได้ใช้ปลายลิ้นตวัดโลมเลียทั่วฝ่ามือนุ่นจนเธอถึงกับขนลุกชันด้วยความวาบหวิว
“ให้ตายเถอะเราไม่อยากคุยเลยน้ำหนาว เราคิดถึงเจ้าใจจะขาดแล้ว” เจ้าชายหนุ่มงึมงำเสียงกระเส่าไฟสวาทลุกฮือเริ่มได้ที่จนไม่อยากหยุดเอาตอนนี้
“ไม่ได้ค่ะ ต้องคุยกันก่อน ขอเวลาแค่นาทีเดียวก็ได้”
นาราภัทรใจแข็งเอ่ยห้ามก่อนจะต่อรองเวลาเมื่อเห็นเจ้าชายหนุ่มแกล้งตีหน้าเง้าลดริมฝีปากลงมาดูดชิมปลายถันหนักหน่วงจนเธอต้องหลุดเสียงครวญครางด้วยความเสียวซ่านออกมาอย่างหักห้ามไว้ไม่อยู่
“เก็บไว้พูดทีหลังนะ”
เจ้าชายซารีฟร์กระซิบสั่งพร้อมกับปิดกั้นถ้อยคำร้องประท้วงด้วยจุมพิตเร่าร้อนดูดดื่มชักนำให้หญิงที่รักคิดถึงเพียงเพลิงสวาทความสุขสมที่กำลังคืบคลานเข้าหา
“เรารักเจ้าน้ำหนาว ยอดรัก...”
ริมฝีปากสีสดพึมพำบอกรักประทับจุมพิตหวานไล่ตั้งแต่ลาดไหล่เนียนลงมาจนถึงดอกบัวปริ่มน้ำเต็มไม้เต็มมือจากนั้นก็ตวัดปลายลิ้นวนทั่วยอดอกสีหวานแล้วใช้ปลายฟันขบเบาๆ สลับกันไปมาจนนาราภัทรร้องครางลั่นหอบหายใจกระเส่าหยัดกายเข้าหาความร้อนผ่าวมากยิ่งขึ้นราวกับที่บดเบียดแนบชิดอยู่นั้นยังไม่เพียงพอสำหรับเธอ
เจ้าชายซารีฟร์คลี่ยิ้มพรายด้วยความถูกใจยิ่งยวดเมื่อได้ยินเสียงครวญครางหลุดออกมาจากเรียวปากสีหวาน มือเล็กเอื้อมขยุ้มเส้นผมจับกดศีรษะให้แนบชิดกับดอกบัวงามส่วนมืออีกข้างก็กรีดเล็บฟอนเฟ้นทั่วสะโพกเปล่าเปลือยเร่งเร้าให้สอดประสานความแข็งแกร่งเข้ามาภายในกุหลาบหวานบานฉ่ำพร้อมพรักทุกเวลา
“ใจเย็นยอดรัก เราอยากจูบเจ้าทั่วทั้งเรือนกาย”
เจ้าชายหนุ่มกระซิบบอกเสียงสั่นสะท้านเคลื่อนริมฝีปากจากปทุมอิ่มลงมาตามหน้าท้องที่เริ่มขยายตัวขึ้นมาให้เห็นบ้างแล้ว
“ลูกของเราอยู่ตรงนี้ใช่ไหมน้ำหนาว”
มือหนาอบอุ่นไล้วนเป็นวงกลมทั่วหน้าท้องก่อนจะตามด้วยริมฝีปากร้อนผ่าวที่กดจุมพิตลงไปอย่างนุ่มนวลอ่อนโยนแล้วไล้จูบต่อลงไปบนดอกกุหลาบบานฉ่ำที่เบ่งบานรอรับด้วยความเต็มใจเขาตักตวงกลิ่นเนื้อสาวหอมจรุงใจเข้าปอดลึกๆ แล้วตวัดปลายลิ้นกระหวัดดูดดื่มตรงปุ่มแห่งความหฤหรรษ์ตามด้วยกลีบกุหลาบหวานทั้งสองข้างยิ่งนาราภัทรร้องครวญครางดิ้นพล่านด้วยความเสียวซ่านสุขสมมากเพียงใดยิ่งรัวปลายลิ้นสอดเข้าออกมากยิ่งขึ้น
“เจ้าชาย...น้ำหนาว...ไม่เคยมีความสุขแบบนี้มาก่อนเลย”
นาราภัทรครางเสียงกระท่อนกระแท่นกระดกก้นงามงอนเข้าหาเรียวปากร้อนผ่าวมากยิ่งขึ้น มือบางจิกปลายเล็บลงไปบนแผ่นหลังแข็งแกร่งสูดปากทุกครั้งที่ปลายลิ้นนุ่มตวัดดูดเนินเนื้อแห่งความหฤหรรษ์
“เจ้าชาย...น้ำหนาวอยากรักเจ้าชายบ้าง”
เจ้าชายซารีฟร์รีบผงกหัวขึ้นร่างกายตื่นตัวขมวดแน่นดุจเกลียวเชือกความต้องการปะทุเดือดไฟเสน่หาแล่นพล่านทั่วเรือนกายเพียงแค่ได้ยินคำร้องขอแกมเอียงอายของหญิงที่รัก
“มะ...ไม่ต้องก็ได้น้ำหนาวให้เราเป็นคนรักเจ้าเองก็ได้”
“ไม่ค่ะ น้ำหนาวอยากรักเจ้าชาย อยากบอกรักผ่านเรือนกายของน้ำหนาวบ้าง”
นาราภัทรค้านเสียงสั่นพร่าพลางพลิกร่างกายขึ้นทาบทับอยู่ด้านบนแล้วเคลื่อนตัวลงต่ำจนเรียวปากอิ่มเอิบแตะสัมผัสเบาๆ ตรงปลายแก่นกายที่พุ่งเด่นตระหง่านอยู่เบื้องหน้า
เจ้าชายซารีฟร์สะดุ้งเฮือกลมหายใจขาดห้วงแค่เพียงสัมผัสบางเบาจากปลายลิ้นนุ่มก็ทำเอาเสียวซ่านจนตัวเกร็งไปหมดพอเรียวปากอิ่มกลืนกินท่อนไฟร้อนรุ่มไปทั้งตัวคราวนี้ถึงกับลืมหายใจสูดปากร้องครางด้วยความเสียวซ่าน และก็แทบทำขายหน้าปล่อยธารรักออกมาเมื่อนาราภัทรขยับเรียวปากขึ้นลงตวัดลิ้นนุ่มดูดดึงโลมเล้าทั่วท่อนไฟร้อนฉ่า
นาราภัทรยิ้มหวานรู้สึกราวกับว่าตนเองกำลังกอบกุมโลกทั้งใบไว้ในมือ ชอบทุกครั้งที่ได้ยินเสียงร้องครางด้วยความสุขสมของเจ้าชายซารีฟร์อันเกิดจากรสรักที่เธอเป็นผู้มอบให้ หญิงสาวเอื้อมมือเล็กทั้งสองขึ้นไปบีบเคล้นคลึงทั่วปลายถันสีเข้มขณะเดียวกันเรียวปากอิ่มก็ยังคงสร้างความสำราญกดจูบขยับลูบไล้ไม่ได้หยุด
“โอ...พระเจ้า...น้ำหนาว...ได้โปรดรักเราเถอะ”
เจ้าชายซารีฟร์ร้องครางลั่นราวกับราชสีห์บาดเจ็บเพลิงสวาทที่มีนาราภัทรมอบให้ทำเอาเขาคลั่งร่างกายแทบแตกออกเป็นเสี่ยงด้วยความซาบซ่านอิ่มเอิบใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พายุรักแห่งเม็ดทราย