อภิชาตลูกเขย นิยาย บท 5

ณ ช่วงเวลากลางคืน

แสงไฟสีนวลจากดวงจันทร์สาดส่องไปทั่วพร้อมกับสายลมเย็นเฉียบที่พัดปลิว

ชายหนุ่มยืนอยู่คนเดียวเงียบๆ ข้างทะเลสาบที่ปกคลุมไปด้วยหมอก เขากำลังจ้องมองระลอกคลื่นเล็กๆที่ก่อตัวอยู่บนทะเลสาบนั้น

หยุนโจวเป็นเมืองแห่งน้ำ ที่นี่เป็นที่รู้จักกันในนามเมืองแห่งน้ำมากกว่าผืนดินมาตั้งแต่สมัยโบราณ ทะเลสาบยุนอูคือทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของเมืองหยุนโจว เนื่องจากทะเลสาบแห่งนี้จะถูกปกคลุมด้วยหมอกตลอดทั้งปี จึงได้รับการขนานนามว่า “ยุนอู” (เมฆหมอก)

“นายน้อย ขอโทษที่ต้องให้รอครับ” เสียงของชายสูงวัยดังขึ้นมาจากด้านหลัง ซึ่งก็คือฮันนั่นเอง ถ้ามีสมาชิกตระกูลชัชวาลมาที่นี่ พวกเขาคงช็อกที่ได้เห็นหัวหน้าคนงานของตระกูล คนรับใช้คนโปรดของหัวหน้าตระกูลมาพินอบพิเทาชายหนุ่มคนนี้อยู่

“เขาออกไปแล้วเหรอ” ฟานถามขึ้นเบาๆ ระหว่างที่จ้องมองไปยังทะเลสาบ

“ครับ นายน้อย หัวหน้าตระกูลได้ออกไปแล้วครับ และเขาก็บอกให้ผมคอยดูแลนายน้อยอย่างลับๆ แบบนี้จะสะดวกต่อการติดต่อสื่อสารของเราในอนาคตมากกว่าครับ ถึงแม้ว่าเราจะโดนจับได้ ก็คงจะไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของผม”

ฟานพยักหน้ารับรู้และค่อย ๆ พูดว่า “ฮัน นายต้องแบกรับงานหนักและทนเดือดร้อนก็เพื่อฉัน ขอบคุณที่ทำงานหนักนะ”

“นายน้อยใจดีเกินไปแล้วครับ ถ้านายน้อยไม่ช่วยชีวิตผมไว้ในคราวนั้น ผมก็คงตายไปแล้วครับ ตั้งแต่นี้ต่อไปผมขอปฏิญาณว่าจะภักดีต่อนายน้อย ต่อให้ต้องทนไปอีกสิบปีก็ไม่เป็นไร ผมยินดีรับความเดือดร้อนเพื่อนายน้อยเป็นร้อยปีเลยครับ ผมจะไม่บ่นสักคำตราบใดที่ผมได้ช่วยนายน้อยเติมเต็มในสิ่งที่ปรารถนามานานครับ”

ฟานยิ้มเบาๆพร้อมตบไหล่ของฮัน “ขอบคุณนะ”

“นายน้อยไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ ผมเป็นหนี้นายน้อยทุกอย่าง ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ผมคอยทำตามคำสั่งของนายน้อยและคอยหนุนหลังผู้ทรงอิทธิพลมากมายทั่วประเทศจีนอย่างลับ ๆ หลังจากผ่านมาสิบปี ความทุ่มเทของเราก็ได้ผลิดอกออกผล พวกของเราก็ได้แก่อลัน ผู้นำเมืองหยุนโจวและตระกูลหวังแห่งเมืองเป่ยกวน และก็…” ฮันรายงานผลงานของเขาอย่างตื่นเต้นราวกับว่าเขาเป็นคนสวนที่กำลังโอ้อวดดอกไม้อันล้ำค่าให้เจ้านายฟัง

“เมื่อไหร่นายน้อยจะกลับเข้าตระกูลชัชวาลเหรอครับ ผมเชื่อว่าพอนายน้อยกลับไป พวกคนที่เคยดูถูกนายน้อยและทำให้แม่ของนายน้อยเสียหน้าจะต้องเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปแน่ครับ” ฮันมองไปที่ฟานด้วยสายตาที่มีความหวัง เขาดูเหมือนกับทหารที่กำลังแฝงตัวและภาวนาให้ราชาของตัวเองกลับมาอย่างยิ่งใหญ่

ฟานส่ายหน้าปฏิเสธ “มันยังไม่ถึงเวลาหรอกฮัน ปฏิบัติการประกายไฟต้องรอเวลามากกว่านี้ แต่ก็ใกล้ได้เวลาอันสมควรแล้วล่ะพอฉันกลับเข้าตระกูลชัชวาล ประกายไฟนี้ก็จะทำให้ไฟลามทุ่ง!”

ฟานกำมือแน่น สายตาของเขาเปล่งประกายอันล้ำลึก

ฮันเคารพนับถือชายหนุ่มอายุยี่สิบกว่าๆที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างสุดหัวใจ บางทีภากรก็คงคิดไม่ถึงว่าคน “ชั้นต่ำ” ที่โดนตระกูลชัชวาลรังเกียจจะเป็นมังกรท่ามกลางชายหนุ่มมากมาย

สิบปีที่แล้วฟานเป็นแค่วัยรุ่นคนหนึ่งที่ยังคงมีจิตใจอันบริสุทธิ์ผุดผ่อง แต่สิ่งที่คนตระกูลชัชวาลทำกับเขาส่งผลให้เขามีลักษะนิสัยที่เหนือกว่าชายคนอื่นๆ

ระหว่างที่เขาอยู่ในตระกูลชัชวาล ฟานได้จัดหาให้คนรับใช้ทั้งหลายมาอยู่ข้างเขา ฮันเป็นเพียงแค่หนึ่งในนั้น หลังจากที่เขากับแม่โดนไล่ออกจากตระกูล ฟานก็คิดปฏิบัติประกายไฟขึ้นมาได้ เขาได้นำสินสมรสของแม่ให้กับฮัน ภายใต้อิทธิพพลของตระกูลชัชวาล พวกเขาได้ลงทุนกับคนอับโชคทั่วประเทศจีน

“การลงทุนที่ดีที่สุดก็คือการลงทุนกับคน!”

“ตอนแรกมันจะเป็นเพียงแค่ประกายไฟอันหนึ่ง อ่อนแอและไม่เป็นที่สังเกตเห็น แต่ฉันเชื่อว่าถ้าให้เวลามันสักหน่อย มันก็จะก่อให้เกิดไฟที่ลามไปทั่วทุ่งได้!”

คงไม่มีใครคิดว่านี่จะเป็นคำพูดของวัยรุ่นคนนึง ตอนที่ฮันได้ยินคำพูดของเขาครั้งแรก ฮันรู้สึกประทับใจมากที่ฟานมองการณ์ไกลและมีวุฒิภาวะมากกว่าอายุของเขา

ตอนนี้ก็ผ่านไปแล้วสิบปีและแผนของฟานก็ได้ผลิดอกออกผล สิ่งนี้จึงทำให้ฮันเคารพนับถือฟานอย่างสุดหัวใจ ฮันไม่ได้รู้สึกกตัญญูเพียงอย่างเดียวแต่เขายังชื่นชมที่ฟานวางแผนด้วยการมองการณ์ไกลอีกด้วย!

“ใช่ครับ เมื่อเวลานั้นมาถึง ผมจะเปิดประตูตระกูลชัชวาลรอต้อนรับนายน้อยเองครับ ผมรอคอยการกลับมาของราชาอยู่นะครับ!”

วู้~

ตอนที่ 5 เพียงประกายไฟแค่จุดเดียวก็ทำให้ไฟลามทุ่งได้ 1

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อภิชาตลูกเขย