พวกคุณออสตินตะลึง
“ความหมายของคุณวารุณีคือ......”
นัทธีก็มองวารุณี
วารุณีหัวเราะ“ฉันถูกผลักลงไป ทำให้หลายๆคนต้องเหนื่อยมาช่วยฉัน ฉันคิดว่าพวกคุณก็น่าจะขอโทษพวกเขาด้วยค่ะ ยังมีประธานนัทธี และก็พงศกร”
“ประธานนัทธีกับคุณหมอพงศกรพวกเราต้องขอโทษอยู่แล้ว แต่คนอื่นมีสิทธิ์อะไร?”คุณแอนนี่มีใบหน้าไม่พอใจ
วารุณีเงยมองเธอ“สิทธิ์อะไร?ก็สิทธิ์ที่พวกเขาเดิมทีไม่ต้องลงน้ำ แต่พวกคุณสร้างงานให้พวกเขามากขึ้น”
“แก......”
“พอแล้ว!”คุณแอนนี่ยังจะพูดอะไรอีก คุณออสตินก็จับเธอไว้ และส่งสายตาตักเตือนไปให้เธอ
เบ้าตาคุณแอนนี่แดงอย่างน้อยใจ แต่สุดท้ายก็หลับตาไว้
คุณออสตินเห็นเธอนิ่งลง จึงโล่งใจเล็กน้อย หลังจากมองนัทธีแล้ว จึงยิ้มให้วารุณีอย่างรู้สึกขอโทษ“วางใจเถอะคุณวารุณี พวกเราจะไปขอโทษ”
“งั้นก็ไม่มีอะไรแล้วค่ะ”วารุณีตอบกลับเขาด้วยรอยยิ้ม
ในเมื่อพวกเขายอมขอโทษ เธอก็ไม่มีทางที่จะกัดไม่ปล่อย
“โอเค งั้นพวกเราลาก่อน ไม่รบกวนการพักผ่อนของคุณแล้ว”
พูดจบ คุณออสตินก็นำพวกเขาออกไป
ในห้องก็เงียบลงอีกครั้ง
วารุณีเงยมองชายหนุ่มข้างเตียง“ประธานนัทธี ขอบคุณนะคะที่คุณจัดการให้ฉัน ถ้าไม่มีคุณอยู่ที่นี่ พวกเขาไม่รับปากที่จะขอโทษเจ้าหน้าที่พวกนั้นแน่ค่ะ”
เธอรู้ดีว่า ทั้งหมดนี้ ก็แค่เห็นแก่หน้าเขาเท่านั้น
“ไม่เป็นไร กินข้าวเถอะ”นัทธีเปิดกล่องข้าว เอาข้าวและอาหารจากด้านในออกมาเอง แล้ววางบนโต๊ะเล็กๆที่เตียงคนไข้เธอ
วารุณีมองอาหารที่มากมายตรงหน้า หยิบตะเกียบกำลังจะลงมือกิน จู่ๆก็คิดอะไรขึ้นได้ มองเขาแล้วถาม“ประธานนัทธีคุณกินหรือยังคะ?”
“ยัง”ริมฝีปากบางๆของนัทธีขยับ พูดออกมาเบาๆ
เขาเฝ้าเธออยู่ตรงนี้ตลอด จะมีเวลากินข้าวที่ไหนกัน
วารุณีเชิญว่า“งั้นก็กินด้วยกันเถอะค่ะ”
“ไม่......”นัทธีจะพูดว่าไม่เป็นไร ในมือก็ถูกยัดตะเกียบคู่หนึ่งมา
“ประธานนัทธีคุณจะพูดว่าไม่อะไรนะคะ?”วารุณีกะพริบตาให้เขา ทำเป็นไม่รู้ว่าเขาจะพูดอะไร
นัทธีมองเธอ แล้วค่อยมองตะเกียบในมือ ลูกกระเดือกขยับเล็กน้อย สุดท้ายก็กลืนคำปฏิเสธลงไป“ไม่มีอะไร”
“ในเมื่อไม่มีอะไร งั้นก็กินข้าวเถอะค่ะ”วารุณีแบ่งข้าวตรงหน้าตัวเองเป็นสองชุดอย่างหัวเราะชอบใจ ให้เขาชุดหนึ่ง
นัทธีมองข้าวในชามตัวเองที่เยอะกว่าเธออย่างชัดเจน ภายในใจก็รู้สึกอบอุ่น คิ้วก็ดูคลายลงมากขึ้นเยอะ
กินข้าวเสร็จ มารุตที่ยืนอยู่นอกประตูเงียบๆเป็นคนที่ไร้ตัวตน ก็เข้ามาช่วยเก็บชามตะเกียบ
เวลานี้ พยาบาลคนหนึ่งก็ถือแฟ้มเวชระเบียนเล่มหนึ่งเข้ามาเคาะประตู“คุณวารุณี คุณพงศกรเพื่อนของคุณฟื้นแล้วค่ะ”
“พงศกรฟื้นแล้ว?”ดวงตาวารุณีเป็นประกาย
“ใช่ค่ะเขาอยู่ห้องคนไข้ข้างๆคุณค่ะ”พยาบาลพูดจบด้วยรอยยิ้ม ก็หันกลับออกไป
วารุณีเปิดผ้าห่มออกลงจากเตียง
นัทธีเห็น จึงหรี่ตาลง“คุณจะไปดูเขาเหรอ?”
“ใช่ค่ะ เขาช่วยฉันเลยเป็นแบบนี้ ฉันจะไม่ไปได้ไง”วารุณีย่อตัวสวมรองเท้าไป ก็ตอบไปด้วย ดังนั้นเลยไม่เห็นใบหน้าที่ไม่พอใจของเขา
สวมรองเท้าเสร็จ วารุณีก็ยีนตัวตรง ออกไปห้องคนไข้ด้านข้าง
ไปถึงห้องข้างๆ เธอจะเข้าไป ก็มองเห็นพงศกรลงมาจากเตียง
เขาสวมชุดคนไข้ ยืนที่พื้นด้วยเท้าเปล่า เหมือนตาบอด หรี่ตาลงมือทั้งสองข้างลอยอยู่กลางอากาศดูว่ามีสิ่งของขวางอยู่หรือไม่
และตรงหน้าเขาก็เป็นเก้าอี้ตัวหนึ่งพอดี เห็นเขาเดินไปด้านหน้าอีก ก็จะสะดุดขาเก้าอี้ล้มลงได้ วารุณีจึงรีบเข้าไปประคองแขนเขาไว้“พงศกร ระวังหน่อยสิ”
“วารุณี?”มือของพงศกรที่สำรวจอยู่นั้นหยุดลง ตะโกนออกมาอย่างดีใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...