วารุณีก้มมองกุญแจในมือแล้วลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็กำไว้แน่น“ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณค่ะประธานนัทธี ฉันจะรับรถไว้ แต่ว่าราคาที่เกินออกมา ฉันจะคืนให้คุณทั้งหมดเอง ลาก่อน!”
พูดจบก็ไม่รอให้นัทธีพูดต่อ วารุณีกดปุ่มปลดล็อครถเบนซ์จากกุญแจ จากนั้นก็เปิดประตูออก เธออุ้มเด็กทั้งสองขึ้นรถแล้วขับออกไป
มารุตเดินมาอยู่ข้างๆนัทธีพร้อมกับมองรถคันสีแดงที่ขับแล่นออกไป“ท่านประธาน คุณวารุณียังคงทำตัวห่างเหินกับท่านอยู่เลย ขนาดเรื่องเงินยังแบ่งชัดเจนขนาดนี้ เมื่อคืนวานท่านไม่ได้บอกความในใจกับเธอหรอ?
นัทธีเม้มริมฝีปากบาง“ฉันไม่รีบ รอให้เธอชินกับการมีอยู่ขอฉันก่อนแล้วค่อยบอก ถึงตอนนั้นก็ยังไม่สาย ไปเถอะ ไปบริษัท”
“ครับ”มารุตพยักหน้าตอบ
วารุณีขับรถคันใหม่พาไอริณไปส่งที่โรงเรียนอนุบาล แล้วก็พาอารัณไปส่งที่โรงพยาบาลเพื่อฝากให้ปาจรีย์ดูแล แล้วตัวเองก็ไปสมาคมเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันวันนี้
เมื่อเข้าไปในห้องประชุมของสมาคม วารุณีก็รับรู้ได้ถึงบรรยากาศอันตึงเครียดทันที
นอกจากพิชญาแล้ว ดีไซเนอร์อีกหกคนก็งุ่นง่านพะว้าพะวังอยู่ไม่เป็นสุข บนหน้าล้วนเต็มไปด้วยความกังวล
“เกิดอะไรขึ้นหรอ?”วารุณีเดินเข้าไป แล้วถามดีไซเนอร์คนหนึ่ง
เมื่อดีไซเนอร์คนนี้เห็นเธอ“คุณไม่รู้เหรอ?”
“รู้อะไร?”วารุณีกระพริบตาปริบๆด้วยความสงสัย
ดีไซเนอร์คนนั้นกระซิบเบาๆที่ข้างหูของเธอ“เมื่อกี้พวกเราได้ยินมาว่า การแข่งขันรอบต่อไปนี้นายท่านวัชระจะเป็นคนให้หัวข้อ”
“แล้ว?”วารุณีหันไปมองดีไซเนอร์คนนั้น
เธอไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงทำเหมือนต้องเผชิญหน้ากับศึกใหญ่
“แล้วก็กังวลอยู่นี่ไง ใครๆก็รู้ว่านายท่านวัชระออกหัวข้อยากขนาดไหน”ดีไซเนอร์คนนั้นฟุบลงบนโต๊ะด้วยท่าทางทุกข์ทรมาน“เขาไม่เคยประกาศหัวข้อออกมาตรงๆว่าต้องการอะไร แต่จะพูดสุภาษิตออกมาหนึ่งประโยค แล้วให้เราเดาหัวข้อจากในสุภาษิตเอง นี่มันยากมากเลยนะ”
“ก็ยากจริงๆแหละ”วารุณีพยักหน้าเห็นด้วย
เมื่อก่อนเธอก็เคยได้ยินอาจารย์พูดถึงนายท่านวัชระว่ามีนิสัยชอบออกหัวข้อยากๆแบบนี้
นั่นเป็นเพราะก่อนที่นายท่านวัชระจะเข้ามาในวงการการออกแบบ เขาเคยเรียนจีนโบราณมาก่อน
“แล้วคุณไม่กังวลว่าตัวเองจะเดาไม่ออกบ้างหรอ?”ดีไซเนอร์คนนี้เห็นว่าวารุณียังมีท่าทีนิ่งสงบ อยู่ หล่อนจึงอดสงสัยไม่ได้
วารุณียิ้มออกมา“กังวลไปก็ไม่มีประโยชน์ ไม่ว่าข้าศึกจะมาในรูปแบบไหนเราก็หาวิธีรับมือให้ได้ อีกอย่างนายท่านวัชระชำนาญเรื่องการออกแบบสไตล์จีนมากที่สุด เพราะงั้นหัวข้อก็ต้องเกี่ยวข้องกับความเป็นจีนอยู่แล้ว เพียงแค่คุณเข้าใจเกี่ยวกับความเป็นจีนก็คงจะเดาได้คร่าวๆแล้วว่าหัวข้อคืออะไร”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของดีไซเนอร์คนนั้นก็เป็นประกายออกมา“จริงด้วย ทำไม่ฉันคิดไม่ถึงเลยนะ ขอบคุณคุณวารุณีมากๆเลย”
วารุณีส่ายหน้าเป็นการบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ
จากนั้นเธอก็ยกข้อมือขึ้นมาเพื่อดูเวลา ยังเหลือเวลาอีกสิบกว่านาทีที่การแข่งขันจะเริ่ม
ทันใดนั้นเองจู่ๆเธอก็เห็นพิชญาที่อยู่ไม่ไกลนักเข็นรถเข็นออกจากห้องประชุมไปพร้อมกับโทรศัพท์ในมือ หล่อนทำท่าหลบๆซ่อนๆ เห็นได้ชัดว่ากำลังวางแผนอะไรบางอย่างอยู่
เมื่อวารุณีเห็นก็ตาเป็นประกายขึ้นมา เธอลุกขึ้นเดินตามออกไป
หลังจากออกไป เธอก็เห็นว่าพิชญามุ่งหน้าไปที่บันไดหนีไฟ เธอเม้มริมฝีปากแดงแน่น จากนั้นก็ก้มลงไปถอดรองเท้าส้นสูงออกพร้อมกับถือรองเท้าเดินตามไป
เธอตามไปถึงหน้าประตูบันไดหนีไฟ วารุณีได้ยินเสียงพิชญาดังลอดออกมา“การแข่งขันใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว ฉันขอย้ำกับคุณอีกทีนะว่าสุภาษิตประโยคนั้นของคุณปู่คุณคือหัวข้อจริงๆใช่ไหม?”
คุณปู่งั้นหรอ?
เมื่อได้ยินสองคำนี้ วารุณีก็หรี่ตาลงทันที
ไม่นึกเลยว่าคนที่ติดต่อกับพิชญาจะเป็นเมธาวี!
ดูท่าก่อนหน้านี้พิชญาจะถามเกี่ยวกับรอบคัดเลือกสี่คนมาได้ว่าคนที่ออกหัวข้อคือนายท่านวัชระ จากนั้นก็เลยติดต่อเมธาวี เพื่อให้เมธาวีช่วยถามเรื่องหัวข้อให้ วางแผนมาดีจริงเลยนะ!
“อื้ม ฉันเข้าใจแล้ว วางใจเถอะ ฉันจะช่วยคุณกดวารุณีลงให้ได้เป็นอันดับสองเอง”เสียงของพิชญาดังขึ้นอีกครั้ง
เมื่อวารุณีได้ยินชื่อของตัวเอง บวกกับประโยคที่พิชญาพูด เธอก็เดาได้เลยทันทีว่าเมธาวีพูดกับพิชญาว่าอะไร
คงขอร้องให้พิชญา กดเธอลงในการแข่งขันสินะ
ดูเหมือนว่าเมธาวีจะเกลียดเธอจริงๆนะเนี่ย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...