“น่าจะเป็นเพราะว่าคุณผู้หญิงคนนั้นสงสัยว่าตอนนั้นตัวเองเข้าผิดห้อง ดังนั้นเลยมาเช็กครับ”ผู้จัดการตอบ
“เข้าห้องผิด หมายความว่าไง?”นัทธีหรี่ตาลงทันที
ผู้จัดการเกาหัว“คือแบบนี้ครับ ตอนนั้นห้องของคุณผู้หญิงท่านนั้น เลขท้ายคือเลข6 ส่วนเลขท้ายห้องของประธานนัทธีคือเลข9 แต่ว่าเลข9ตอนนั้นหลวม จึงกลายเป็น6 ดังนั้นคุณผู้หญิงท่านนั้นดูผิด เลยเข้าห้องของคุณครับ”
มารุตกลับประหลาดใจคาดไม่ถึง“แต่ก็ไม่ถูกนะ ในเมื่อเข้าห้องผิด เป็นผู้มีพระคุณที่แท้จริงของประธาน งั้นทำไมต่อมาคุณตื่นขึ้นมาแล้วถึงมองเห็นเป็นพิชญา?คงไม่ใช่ว่าพิชญาก็เข้าผิดห้องหรอกนะ?”
“สุภัทรบอกว่าพิชญาเข้าผิดห้อง แต่เป็นอย่างไรกันแน่นนั้น ต้องเห็นเท่านั้นถึงจะรู้ ไปห้องวงจรปิด!”นัทธีเงยคางไปที่ผู้จัดการ
ผู้จัดการรีบนำทางไป
ทั้งสามคนมาที่ห้องวงจรปิด ผู้จัดการให้คนเปิดกล้องในตอนนั้น
อย่างไรก็ตามหลังจากเจ้าหน้าที่พิมพ์ค้นดู สีหน้าก็ดูสงสัยขึ้นมา“ผู้จัดการ กล้องวงจรปิดในตอนนั้นถูกลบไปครับ!”
“อะไรนะ?”ผู้จัดการเบิกตาโตขึ้นมาอย่างตะลึง“ถูกคนลบไป?”
“ครับ ถูกคนลงไปจริงๆ และลบทำลายทิ้งเลย ไม่สามารถเอาคืนกลับมาได้ น่าจะเป็นแฮกเกอร์ที่ลงมือ”เจ้าหน้าที่พยักหน้าตอบ
สีหน้าผู้จัดการมองไปที่นัทธีอย่างดูแย่“ประธานนัทธี เอ่อ......”
นัทธียิ้มกลับด้วยความโกรธ“ดีมาก ดูเหมือนจะมีคนไม่อยากให้ผม สืบถึงคนที่ช่วยผมอย่างแท้จริงในตอนนั้นได้”
“ผมก็คิดแบบนี้ แต่ว่าทำไมกันนะ ก็แค่คนที่มีพระคุณเท่านั้น สืบหาได้แล้วจะไปเป็นอุปสรรคกับใครกัน?หรือว่าข้างในนี้ ยังเกี่ยวโยงไปถึงอย่างอื่นที่เราไม่รู้?”มารุตลูบคางแล้วเดา
นัทธีได้ยินคำพูดของเขานี้ ดวงตามีประกายแวบมา เม้มริมฝีปากบางๆพูดว่า:“อาจจะเป็นอย่างที่คุณพูด ข้างในนี้ยังมีเรื่องที่พวกเราไม่รู้เกิดขึ้นจริงๆ ยิ่งคนในความลับนั้นอยากปกปิดเรื่องทั้งหมดนี้ ผมก็จะยิ่งสืบเรื่องนี้ให้ชัดเจน คุณให้พนักงานต้อนรับค้นบันทึกการเข้าพักของห้อง3606ในตอนนั้นหน่อย ดูว่ายังอยู่ไหม?”
นัทธีมองไปที่ผู้จัดการ
ผู้จัดการตอบรับ หยิบวิทยุสื่อสารออกมาเรียกพนักงานเต้อนรับ
ประมาณสองสามนาทีถัดมา คำตอบของพนักงานต้อนรับก็เข้ามา พูดไปว่า:ไม่อยู่แล้ว!
ถูกคนลบเหมือนกัน
สำหรับสิ่งนี้ นัทธีไม่แปลกใจมากนัก เขาเดาได้อยู่แล้วว่าจะต้องเป็นแบบนี้
กระทั่งว่าสองเดือนก่อน ร่องรอยของหญิงสาวที่ปรากฏในโรงแรม ที่มาดูกล้องวงจรปิดเหมือนกัน และสงสัยผู้มีพระคุณของเขา ก็เป็นไปได้ว่าจะถูกลบไปแล้ว
“ประธาน ตอนนี้พวกเราควรจะทำอย่างไร ร่องรอยทั้งหมดถูกทำลายหมดแล้ว”มารุตถอนหายใจถามออกมา
ลูกกระเดือกของนัทธีขยับไปมา“ไม่ถูกทำลายไปหมดหรอก ตอนนั้นที่วางยาผมคือนิรุตติ์ ตอนตื่นมาข้างกายเป็นพิชญา และยังมีสุภัทรที่เป็นคนรู้ สามคนนี้จะต้องมีคนรู้เรื่องในตอนนั้นแน่ ไม่แน่ว่าที่ลบล้างทั้งหมดนี้อาจจะเป็นหนึ่งในสามคนนี้ก็เป็นได้ คุณส่งคนไปจับตาดูดีๆ มีข่าวอะไรก็ส่งมาบอกผมได้ตลอดเวลา”
“เข้าใจแล้ว”มารุตพยักหน้า
นัทธีถูคิ้วอย่างเหนื่อยล้า
ตอนนี้เอง จู่ๆโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา
นัทธีวางมือลง หยิบโทรศัพท์ออกมาดู แล้วกดรับ“มีอะไร?”
“นัทธี วารุณีฟื้นแล้ว แกจะมาดูหน่อยไหม?”เสียงหัวเราะอย่างร่าเริงของพิชิตดังขึ้นมา
คิ้วของนัทธีคลายลงทันที เสียงก็ไม่เย็นชามากขนาดนั้นแล้ว“โอเค ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
พูดจบ เขาก็ตัดสายไป ยกเท้าก้าวออกไปจากโรงแรม ส่วนตัวเองขับรถไปโรงพยาบาล
ส่วนมารุต หัวเราะเรียกรถกลับไปบริษัทอย่างขมขื่น จัดแจงให้คนไปเฝ้าดูพวกนิรุตติ์
มาถึงโรงพยาบาล ก็หนึ่งชั่วโมงต่อมา
นัทธีผลักประตูห้องคนไข้เข้ามา สองคนในห้องที่นอนและนั่งอยู่นั้น มองไปที่หน้าประตูทันที
“ไง มาแล้วเหรอ”พิชิตเห็นเขาเข้ามา ก็ยืนขึ้นมาจากเก้าอี้อย่างไม่รีบร้อน ทักทายไปว่า
วารุณีก็ยันตัว นั่งขึ้นมาจากเตียง เรียกออกไปว่า“ประธานนัทธี”
นัทธีพยักหน้าเบาๆให้เธอ มองสำรวจเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...