วารุณีก้มหน้าลงมองมือตัวเองที่ยังจุ่มน้ำ ก็ลังเลเล็กน้อย สุดท้ายจึงยื่นมือไป
ยังไงมือข้างเดียวก็ติดยาก ให้คนอื่นทำแทนดีกว่า
เห็นวารุณีเชื่อฟังแบบนี้ สายตานัทธีก็ดูซอฟต์ลง หลังจากปิดก๊อกน้ำ ก็หยิบผ้าขนหนูบนชั้นด้านข้าง มาเช็ดมือของเธอให้แห้ง แกะแผ่นเย็นแล้วแปะไปที่มือของเธออย่างเบามือ“เสร็จแล้ว”
“ขอบคุณค่ะประธานนัทธี”วารุณีลูบแผ่นเย็นบนมือแล้วพูดขอบคุณ
นัทธีเอากระดาษห่อทิ้งลงถังขยะ“ออกไปเถอะ”
“อือ”วารุณีพยักหน้า ตามหลังเขาออกไป
มารุตกำลังทำความสะอาดโต๊ะทำงานของนัทธี เห็นทั้งสองออกมา ก็รีบหยุดแล้วขอโทษ“ขอโทษจริงๆครับคุณวารุณี ผมผิดเอง ที่เทชาที่ร้อนมาก จนทำลวกมือคุณได้”
วารุณีส่ายมือ“ไม่เกี่ยวกับผู้ช่วยมารุตเลยค่ะ ฉันมือลื่นเอง ที่ควรพูดขอโทษเป็นฉันต่างหากค่ะ”
“เอาเถอะ”นัทธีเดินไปหลังโต๊ะทำงาน ตัดบททั้งสองที่กำลังขอโทษกันและกัน“เรื่องครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุ ครั้งหน้าก็ระวังหน่อย คุณลงไปก่อนเถอะ ปริ้นเอกสารพวกนั้นมาอีกฉบับ”
“ครับ”มารุตพยักหน้า หยิบเอกสารที่เปียกพวกนั้นขึ้นมาแล้วออกไป
ในห้องทำงานเหลือแค่นัทธีกับวารุณีสองคน
วารุณีหยิบข้อมูลก่อนหน้านี้ขึ้นมาดู หลังจากดูเสร็จ ก็เอาข้อมูลไปไว้ตรงหน้านัทธี ชี้ไปอันหนึ่งพูดว่า:“ประธานนัทธี วัสดุนี้ไม่เลว ใช้แบบจำลองนี้ ทำอะไรก็ได้หมด ถึงแม้สู้วัสดุที่ฉันกำกับไว้ทีแรกไม่ได้ แต่ก็ไม่ต่างกันมาก”
นัทธีก้มหน้าลงดู จากนั้นพยักหน้าเล็กน้อย“โอเค งั้นก็อันนี้ละกัน เดี๋ยวผมติดต่อกับทางบริษัทเกม ส่วนเงินงวดสุดท้ายพรุ่งนี้ก่อนเที่ยงจะโอนให้คุณ”
“ค่ะ”วารุณีพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
นัทธีเก็บข้อมูลเข้ามา
วารุณีเหลือบมองเวลาที่มุมขวาล่างคอมพิวเตอร์ของเขา ลุกขึ้นบอกลา“ประธานนัทธี เย็นมากแล้ว ฉันไปก่อนนะคะ ควรไปรับลูกที่โรงเรียนอนุบาลแล้ว”
“ไปด้วยกันเถอะ”นัทธีปิดลิ้นชักเสร็จ มองเธอแล้วพูด
วารุณีตะลึงเล็กน้อย“ประธานนัทธีคุณยังไม่ถึงเวลาเลิกงานนี่?”
หลายวันนี้ ตอนเช้าเขาก็ไปส่งเด็กสองคนไปโรงเรียน
แต่ตอนเย็น จะเป็นเธอที่ไปรับ
นัทธีหยิบเสื้อคลุมขึ้นมา“ผมจะกลับอพาร์ทเม้นท์ไปเอาเอกสารสำคัญ ทำวีซ่าไปต่างประเทศพรุ่งนี้ ไปทางเดียวกับคุณได้เลย”
“ไปต่างประเทศ?”วารุณีอ้าปากออกมาอย่างตกใจ
นัทธีสวมชุดคลุมแล้วยืนขึ้นมา“ช่วงนี้บริษัทเครื่องประดับในเครือขาดแร่ดิบมรกต ผมเตรียมจะไปดูแหล่งกำเนิด”
“ที่แท้ก็แบบนี้เอง”วารุณีพยักหน้า สื่อว่าเข้าใจแล้ว
นัทธีก้าวเท้าออกไปที่ประตูห้องทำงาน เดินไปพูดไปว่า:“ดังนั้นสองวันจากนี้ ผมไม่สามารถส่งเด็กสองคนไปโรงเรียนได้”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไปส่งเองได้ อีกอย่างหลายวันนี้ก็เป็นประธานนัทธีที่ส่งพวกเขา เด็กพวกนั้นที่โรงเรียนอนุบาลเห็นคุณหมดแล้ว น่าจะไม่มีใครบอกว่าพวกเขาไม่มีพ่อแล้วแหละค่ะ”วารุณีตามอยู่หลังเขา พูดด้วยรอยยิ้มบางๆ
นัทธีกลับหยุดฝีเท้าลงกะทันหัน“ข้อเสนอของผมครั้งที่แล้ว คุณคิดอย่างไรบ้าง?”
“ข้อเสนออะไรคะ?”วารุณีคิดไม่ถึงว่าจู่ๆเขาจะหยุดลง เกือบจะหยุดขาไม่ทันชนเข้ากับเขา
นัทธีหันกลับ“เรื่องที่หาพ่อให้เด็กสองคน!”
วารุณีดูชะงักเล็กน้อย จากนั้นละสายตาลง ปกปิดการตำหนิตัวเองในดวงตา“ช่วงนี้ยุ่งมาก จะมีเวลาคิดเรื่องพวกนี้ที่ไหนกันคะ ผ่านช่วงนี้ไปก่อนค่อยว่ากันดีกว่าค่ะ”
เขาคาดหวัง จะให้เธอรีบหาผู้ชายไปแต่งงานมากขนาดนี้เลยเหรอ?
นัทธีไม่รู้ความคิดในใจวารุณี ได้ยินเธอพูดแบบนี้ ก็ไม่ถามอีก เปิดประตูห้องทำงานแล้วออกไป
ตอนหัวค่ำ ปาจรีย์โทรมาเร่ง“วารุณี เธอออกมายัง?”
วารุณีกำลังยืนเลือกชุดหน้าตู้เสื้อผ้า ได้ยินคำพูดของเธอ จึงรีบตอบไปว่า:“ยัง ฉันกำลังเปลี่ยนชุด”
“โอเค งั้นเธอเร็วหน่อย ฉันกับพงศกรถึงแล้วนะ”ปาจรีย์เปิดเมนูเครื่องดื่มแล้วพูด
วารุณีคิดว่าตัวเองฟังผิด จึงกะพริบตา“คุณพูดอะไรน่ะ พงศกรก็ไปเหรอ?”
“ใช่ ทำไมเหรอ?”ปาจรีย์มองไปที่พงศกรที่อยู่ตรงข้ามโต๊ะบาร์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...