นัทธีมองวารุณี พูดสถานการณ์ของเธอออกมา
พิชิตฟังจบ เดิมทีใบหน้าที่ดูหงอยเหงา ก็ดูจริงจังขึ้นมาทันที“จากที่แกพูดแบบนี้แล้ว วารุณีน่าจะถูกสะกดจิต”
“สะกดจิต?”นัทธีหรี่ตาลง
พิชิตพยักหน้า“ถูกต้อง นอกจากสาเหตุนี้แล้ว ฉันก็คิดอย่างอื่นไม่ออกอีกเลย”
นัทธีกำโทรศัพท์แน่น มองพงศกรที่ยันชั้นรองเท้ายืนขึ้นมาอย่างโหดเหี้ยม“จะเรียกสติเธอคืนมาอย่างไรดี?”
“ง่ายมาก ให้คนที่สะกดจิตเธอเรียกสติคืนมาก็ได้แล้ว”พิชิตดันแว่นแล้วพูด
“เข้าใจแล้ว”นัทธีวางโทรศัพท์ จากนั้นเข้าไปดึงคอเสื้อของพงศกร ลากเขาไปตรงหน้าวารุณี ออกคำสั่งไปว่า:“เรียกสติเธอมา!”
พงศกรหัวเราะอย่างชั่วร้าย“ถ้าผมไม่พูดล่ะ คุณดูสภาพของเธอตอนนี้สิ เป็นเด็กดีและเชื่อฟังมาก ผมพูดอะไรเธอก็ทำอย่างนั้น นี่เป็นฉากที่ผมฝันมาตลอด!”
ได้ยินประโยคนี้ นัทธีจึงเก็บแรงที่มือ“ฉากที่คุณใฝ่ฝันมาตลอด ก็คือเอาเธอมาเป็นหุ่นกระบอก?”
“ไม่ดีตรงไหน แบบนี้ในสายตาเธอก็จะมีแต่ผม!”พงศกรยื่นมือออกไป มองวารุณีด้วยใบหน้าที่มีความปรารถนา อยากไปสัมผัสเธอ
นัทธีเห็นแบบนี้ หลังจากสายตามีความโกรธ ก็ดันพงศกรไปข้างๆ จากนั้นดึงวารุณีไปไว้ด้านหลังตัวเอง
ใบหน้าพงศกรดูน่ากลัวขึ้นมา คำรามด้วยความโมโห:“คุณทำอะไร ใครให้คุณไปแตะต้องเธอ?คุณเอาเธอมาให้ผม เธอเป็นของผม ของผม!”
“ของคุณ?”มองสภาพของพงศกรที่ดูบ้าคลั่งนี้ นัทธีหรี่ตาลง ริมฝีปากบางๆยกขึ้นมาเป็นมุมอย่างเหน็บแนม“ถ้าเธอเป็นของคุณ คุณยังจะปลอมตัวเป็นผม สะกดจิตเธออีกเหรอ?คุณมีสิทธิ์อะไรไปพูดว่าเธอเป็นของคุณ?”
คำนี้พูดออกไป พงศกรก็เงียบลงทันที ก้มหน้าไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
แต่สักพัก เขาก็เงยหน้าขึ้นมา หัวเราะอย่างน่ากลัว ที่ไหล่ก็สั่น“ใช่ เพราะว่าคุณทั้งนั้น เพราะว่าคุณปรากฏตัวจนส่งผลวารุณี ถ้าไม่มีคุณ ไม่ช้าก็เร็ววารุณีก็ต้องเป็นของผม ดังนั้นนัทธี คุณหายไปก็คงดี!”
พูดไป จู่ๆพงศกรก็เอามือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง จากนั้นหยิบมีดผ่าตัดเล็กๆด้ามหนึ่งออกมา บนใบมีดยังส่องแสงเป็นประกายวิบวับ
มองมีดผ่าตัดนั้น รูม่านตาของนัทธีก็หดลงทันที ผลักวารุณีออกไปเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว
“นัทธี คุณไปตายซะเถอะ ถ้าคุณตายแล้ว ผมค่อยล้างความจำของวารุณี ถึงตอนนั้น วารุณีก็จะจำคุณไม่ได้อีก และคุณก็จะไม่มีผลต่อเธออีก!”
พูดจบ พงศกรก็กำด้ามมีดไว้แน่น แทงไปที่ตำแหน่งหัวใจของนัทธีด้วยรอยยิ้มน่ากลัว
“ไอ้บ้า!”ใบหน้าหล่อเหลาของนัทธีถอยออกไปก้าวหนึ่งด้วยสีหน้าหม่นๆ หลบมีดผ่าตัดที่คมกริบอย่างอันตราย
พงศกรเห็นมีดไม่แทงไป หลังจากปรับทิศทางดีแล้ว ก็แทงไปที่นัทธีอีก
นัทธีกลัวว่าความอาฆาตจะครอบงำเขา และไปทำร้ายวารุณี จึงไม่กล้าหลบมาก หลังจากเว้นระยะห่างกับเขาเล็กน้อย ก็กำหมัดแน่นนั่งยองปล่อยหมัดออกไป ตอนที่เขาพุ่งเข้ามา
กำปั้นนั้นโจมตีใส่หน้าท้องของพงศกร พงศกรถอยออกไปสองสามก้าว จากนั้นเข่าทั้งสองข้างก็คุกลงไปที่พื้น จับท้องไว้ด้วยใบหน้าเหยเกอย่างเจ็บปวด หลังจากอ้วกน้ำย่อยออกมาก็หมดสติไป
และมีดผ่าตัดบนมือเขาก็ตกลงไปที่พื้นจนส่งเสียงกระทบกัน ใบมีดมีสีแดงขึ้นมา
นัทธีค่อยๆเก็บกำปั้นขึ้น หลังจากดวงตามีประกายความเจ็บปวดแล้ว จับแขนซ้ายไว้ด้วยเหงื่อเย็นๆที่เต็มหน้า“สมควรตาย!”
ตอนที่เขาปล่อยหมัดไปเมื่อกี๊ มีดผ่าตัดของพงศกรก็ปาดแขนของเขาไป
มีดผ่าตัดนั้นคมมาก แค่แทงไปเบาๆอย่างนั้น ก็ทำแขนเสื้อของเธอขาดออก จนแทงโดนเนื้อได้
ยิ่งไปกว่านั้นยังปาดลงไปลึกมาก เลือดสดก็ไม่หยุดไหลออกมา และยังไหลผ่านช่องว่างของนิ้วมือออกมา หยดลงไปที่พื้นทีละหยด ทำให้พรมเปรอะสีแดงไปหมด
แต่นัทธีไม่ไปสนใจพวกนี้ เขามาที่ตรงหน้าวารุณี ตรวจดูว่าเธอบาดเจ็บโดยไม่ได้ตั้งใจหรือไม่
ดูเสร็จ หลังจากพบว่าไม่เป็นอะไร เขาจึงโล่งอกเล็กน้อย จากนั้นหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหามารุต ให้มารุตพาหมอมา
มารุตมาไวมาก ไม่ถึงสี่สิบกว่านาทีก็ถึงแล้ว
ตอนที่เข้าประตูมา เขาเห็นพงศกรล้มลงที่ปากทางเข้าประตู ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ“ห่า เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...