“วารุณี ฉันไม่ได้พูดมั่วซั่ว”ปาจรีย์เอื้อมไปที่ข้างหูเธอแล้วหัวเราะอย่างร้ายกาจ
“เมื่อกี๊ฉันถามประธานนัทธีแล้ว ประธานนัทธีบอกว่าเขายอมแต่งงานกับเธอ ถึงเธอจะปฏิเสธเขาก็ไม่ยอมแพ้ ที่สำคัญก็คือ เขาไม่รังเกียจเด็กทั้งสองคน เป็นผู้ชายแสนดีสุดๆ ดังนั้นเธอต้องคิดดีๆนะ ยังไงการเติบโตของเด็กสองคน ก็ต้องมีพ่อจริงๆ”
พูดคำนี้จบ ปาจรีย์ก็หนีไปอย่างรวดเร็ว
วารุณีมองแผ่นหลังของเธอ ส่ายหน้าด้วยความโกรธและตลก
แต่คำพูดของเธอ กลับจี้จุดในใจเธอ นั่นก็คือการเติบโตของเด็กทั้งสองจำเป็นต้องมีพ่อ......
วารุณีละสายตากลับมาจากปากทางเข้าบ้าน เอาไปไว้ที่นัทธี“ประธานนัทธี คุณอยากจะคบกับฉันจริงๆเหรอ?”
“ผมไม่จำเป็นต้องหลอกคุณกับเรื่องนี้ นั่นไม่มีประโยชน์กับข้อดีใดๆกับผมเลยไม่ใช่เหรอ?”นัทธีเงยตาขึ้นมา สบตากับเธอด้วยสายตาจริงจัง
วารุณีมองดวงตาที่ลึกซึ้งเหมือนบ่อน้ำของเขา หัวใจเต้นอย่างแรง ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะเอามือวางที่หัวใจ อยากจะพูดอะไร กลับพูดไม่ออก
นัทธียืนขึ้นมา ยืนอยู่ตรงข้ามกับเธอ น้ำเสียงอ่อนโยนขึ้นมาก“ผมรู้ว่า ที่ผมพูดกับคุณเมื่อเช้า ภายในเวลาสั้นๆทำให้คุณไม่อาจจะเชื่อได้ แต่ผมหวังว่าคุณจะให้โอกาสผมจีบคุณ มาพิสูจน์ความจริงใจของผม โอเคไหม?”
วารุณีมีความรู้สึกให้เขาอยู่แล้ว ได้ยินเขาพูดแบบนี้ ก็พูดปฏิเสธไม่ออก พยักหน้าออกไป“โอเคค่ะ......”
บางทีแบบนี้ก็ไม่เลว ให้โอกาสเขาครั้งหนึ่ง ถ้าสุดท้ายแล้วพวกเขาเดินไปด้วยกันได้จริงๆ แต่งงานกัน เธอก็จะบอกตัวตนที่แท้จริงของลูกทั้งสองแก่เขา
ถ้าสุดท้ายแล้วไม่ได้เดินไปด้วยกัน เธอก็ยังมีทางออก เธอก็ยังเลี้ยงลูกทั้งสองคนได้ทุกเมื่อ
พอคิดแบบนี้ ความสับสนในใจวารุณีก็คลายออก
นัทธีก็รู้สึกได้ว่าเธอดูผ่อนคลายขึ้นเยอะ ถึงจะไม่รู้สาเหตุ แต่ก็ไม่ได้ถาม ยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกา“ไปเถอะ ป้าส้มทำอาหารเสร็จแล้ว ไปกินที่ห้องผม”
วารุณีอยากจะปฏิเสธอย่างไม่รู้ตัว
แต่จากนั้นก็คิดได้ว่าตัวเองเพิ่งรับปากไปว่า จะให้โอกาสเขาจีบตัวเอง เอาคำปฏิเสธกลืนลงไป เปลี่ยนเป็นพูดว่า“ค่ะ”
ทั้งสองคนเดินตามกันออกไปจากคอนโด ไปที่คอนโดตรงข้าม
สองสามวันถัดมา นัทธีแทบจะมาที่ห้องวารุณีทุกวัน อาหารเช้าหรืออาหารเย็นก็มากินที่ห้องเธอ แม้แต่ออกไปข้างนอกก็ส่งเด็กทั้งสองคนไปโรงเรียนอนุบาลก่อน จากนั้นค่อยไปส่งเธอที่สตูดิโอ ทำให้รถของเธอไม่ต้องใช้ประโยชน์เลย
วารุณีรู้ว่า นี่คือวิธีการจีบของนัทธี และเธอก็ค่อยๆคุ้นเคยวิธีการของเขาแล้ว ถึงแม้ไม่โรแมนติกอะไร แต่จริงๆแล้ว ทำให้เธอรู้สึกสดชื่นมาก
วันนี้ วารุณีกำลังตัดสูทชดใช้ให้นัทธีในออฟฟิศ จู่ๆประตูออฟฟิศก็มีคนเปิดออก
วารุณีถูกรบกวนการทำงาน ก็เงยหน้าไปมองอย่างไม่ค่อยพอใจ พอมองเห็นคนที่มา ในดวงตาก็มีความแปลกใจแวบเข้ามา แต่แป๊บเดียวก็ละคืนกลับไป ตะโกนไปทางคนที่เข้ามาว่า“ผู้อำนวยการนิรุตติ์!”
นิรุตติ์พิงขอบประตู ยิ้มอย่างร่าเริงให้เธอ“ไง ไม่เจอกันนานเลย!”
“คุณมาได้ไงคะ?”วารุณีวางกรรไกรในมือลง
นิรุตติ์ก้าวเท้าเข้ามา เดินมาหยุดตรงข้ามโต๊ะทำงานของเธอ มองสูทผู้ชายที่ตัดไปได้ครึ่งหนึ่ง ก็เลิกคิ้วขึ้นมา“คุณเชี่ยวชาญด้านการออกแบบเสื้อผ้าผู้หญิงไม่ใช่เหรอ?”
สายตาวารุณีเป็นประกายเล็กน้อย“ถึงแม้จะเชี่ยวชาญเสื้อผ้าผู้หญิง แต่เสื้อผ้าของผู้ชายพวกเราก็ต้องเรียนค่ะ ไม่แปลกอะไร”
“แต่ว่าคุณตัดเองกับมือก็แปลกแล้ว”แว่นตาของนิรุตติ์สะท้อนแสง“ดูจากไซซ์ของเสื้อผ้าแล้ว ให้นัทธีสินะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...