พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ นิยาย บท 276

วารุณีตอบอือ“ใช่ค่ะ หนึ่งร้อยล้านมากเกินไป ห้าสิบล้านเหมาะสมที่สุดแล้วค่ะ”

“อันนี้ผมก็ทำอะไรไม่ได้ ประธานจรณ์อนุมัติหนึ่งร้อยล้าน ก็ต้องหนึ่งร้อยล้าน”เลขาฯ เสกข์ผายมือสองข้างออก สื่อว่าตัวเองลดเหลือห้าสิบล้านไม่ได้

ดวงตาปาจรีย์เบิกโต“วารุณี งั้นก็ร้อยล้านละกัน พวกเราก่อตั้งบริษัทเสร็จ ไม่ใช่แค่ต้องซื้อเครื่องจักรมากขึ้น ยังต้องซื้อผ้าอีกเยอะด้วย และยังต้องเช่าออฟฟิศขนาดใหญ่มากขึ้น สมัครคนมากขึ้นอีก”

ได้ยินอย่างนั้น วารุณีก็คิดว่ามีเหตุผล สูดหายใจลึกๆ ตอบไปว่า“โอเค งั้นก็ตามนี้ละกันค่ะ เรื่องหุ้นก็จะแบ่งให้ประธานจรณ์ส่วนหนึ่ง”

“ได้ครับ”ปาจรีย์ตบมือ

เลขาฯ เสกข์ยืนขึ้นมา“ในเมื่อเอาตามนี้ งั้นผมจะกลับไปรายงานประธานจรณ์ จากนั้นร่างสัญญาเรียบร้อย ค่อยจัดสรรงบให้พวกคุณ”

“ค่ะ เลขาฯ เสกข์เดินทางดีๆค่ะ”วารุณีพยักหน้าเล็กน้อย

เลขาฯ เสกข์หันกลับออกไป

พอเขาไป ปาจรีย์ก็กอดวารุณีอย่างทนไม่ไหว มีความสุขอย่างมาก“วารุณี ครั้งนี้พวกเรา เจอเทพผู้คุ้มครองแล้วจริงๆ”

“ใช่”วารุณีตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

ประธานจรณ์ที่แสนลึกลับ ไม่ใช่เทพผู้คุ้มครองของพวกเธอหรือไงกันล่ะ

จากตอนนั้นที่ปรากฏตัวที่จังหวัดจันทร์ ก็ช่วยพวกเธอมาตลอด

“วารุณี ฉันดีใจจริงๆ เดี๋ยวพวกเราปกินข้าวกัน ฉลองหน่อยดีไหม?”ปาจรีย์ปล่อยวารุณี พูดเสนอไป

วารุณีไม่อยากทำลายความดีใจของเธอ จึงทำมือOKไปให้ เห็นด้วยกับเธอ

“งั้นพวกเรารีบไปเถอะ ไปกินไหตี่เลากัน ไม่ได้กินนานแล้ว”

พูดไป มือข้างหนึ่งของปาจรีย์ถือกระเป๋า มืออีกข้างจูงวารุณี วิ่งไปที่ประตูห้องส่วนตัว

จนร่างของทั้งสองคนหายไปลิฟต์ ห้องส่วนตัวที่ก่อนหน้านี้พวกเขาอยู่ จู่ๆประตูก็เปิดออก

นัทธีออกมาจากด้านใน ด้านหลังตามมาด้วยมารุตกับเลขาฯ เสกข์

“ผมจะไปขับรถมานะครับ”มารุตกำชับเลขาฯ เสกข์

เลขาฯ เสกข์ตอบรับ แล้วไปทำตาม

มารุตก็ตามนัทธีเดินไปที่ลิฟต์ เดินไปถามไปด้วยความไม่เข้าใจว่า“ประธาน ทำไมคุณต้องใช้ตัวตนประธานจรณ์ลงทุนให้คุณวารุณีล่ะ?คุณคือแฟนของเธอ ก็ใช้ตัวตนเดิมลงทุนเลยไม่ดีหรือครับ?”

นัทธียืนอยู่หน้าประตูลิฟต์ที่ปิดสนิท พูดด้วยสายตาเย็นชา:“เธอไม่รับแน่!”

“ทำไมล่ะครับ?”มารุตไม่เข้าใจเล็กน้อย

ในเมื่อขาดเงินลงทุน ทำไมต้องปฏิเสธเงินลงทุนของประธานนัทธีด้วย?

“เพราะว่าเธอไม่อยากใช้ความสัมพันธ์เส้นสาย และก็ไม่อยากมีความสัมพันธ์ที่มีผลประโยชน์กับคนสนิทกัน”ริมฝีปากบางๆของนัทธีพูดออกไปเบาๆ

ถึงแม้วารุณีไม่ใช่ผู้หญิงแข็งแกร่งตามแบบฉบับ แต่ก็ให้ความสำคัญหน้าที่การงาน คิดแต่ต่อสู้ด้วยตัวเอง ไม่อยากไปพึ่งคนรอบข้าง

ไม่อย่างนั้นจากความหยิ่งในศักดิ์ศรีของเธอแล้ว เธอมักจะคิดว่าตัวเองต่ำต้อยกว่าคนรอบข้าง ความสัมพันธ์ก็จะไม่เท่ากันอีก

“คุณจะบอกว่า เห็นคนที่ใกล้ชิดสนิทกันหลายคนที่ร่วมงานกันแล้ว ต่อมาความสัมพันธ์พังลง ต้องแบ่งทรัพย์สิน ทะเลาะกันจนดูแย่สินะครับ”มารุตลูบคาง

นัทธีเหลือบมองเขาอย่างเยือกเย็น“ความสัมพันธ์ของพวกเราไม่พังลง!”

มารุตตกใจ จึงได้สติคืนมา ว่าตัวเองพูดผิดไป ก็ไอออกมาอย่างเขินอาย“ขอโทษครับประธานนัทธี ผมไม่ได้ตั้งใจ”

นัทธีทำเสียงเย็นชาออกไป ละสายตากลับ ก้าวเท้าเข้าไปในลิฟต์

มารุตเห็นเขาไม่ติดใจเอาความ ก็ถอนหายใจยาวๆ รีบตามไป

สองสามวันถัดมา วารุณียุ่งจนไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้

เนื่องจากสตูดิโอเปลี่ยนเป็นบริษัทอย่างเป็นทางการ ต้องทำหลายอย่างมาก เธอกับปาจรีย์แทบจะไปข้างนอกทุกวัน บางครั้งก็กลับมาเที่ยงคืน จนลูกทั้งสองคนก็บ่นว่าไม่เห็นหม่ามี๊เลย

หลังจากผ่านไปอาทิตย์หนึ่ง ในที่สุดบริษัทก็เปลี่ยนได้ วารุณีจึงเริ่มว่าง และผอมลงไปเยอะ

นัทธีมองเบ้าตาของเธอที่โบ๋ลงไปกับขอบตาคล้ำที่ชัดเจน ในใจก็เสียใจหน่อยๆที่ตอนนั้นลงทุนให้เธอ

แต่ว่าเสียใจได้ไม่กี่วินาที ก็จางหายไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ