ถึงจะบอกว่าคำว่าหาเงินนี้ดูหยาบคายไปหน่อย แต่ตอนนี้พวกเธอยังไม่ได้เดินไปถึงเส้นทางระดับสูง และก็ยังไม่เริ่มไปถึงระดับไฮโซพอตัวเลย ถ้าไม่หาเงินแล้วจะทำไงล่ะ?
ถ้าไม่หาเงินให้เยอะขึ้น จะมีทุนไปซื้อผ้าที่ดีขึ้น การตัดเย็บเสื้อผ้าที่ดีขึ้นได้อย่างไรกัน
วารุณีก็ไม่คิดว่าปาจรีย์พูดผิดตรงไหน จึงพยักหน้าออกไป“งั้นก็ส่งต่อให้เธอจัดการละกัน มะรืนฉันต้องไปต่างประเทศ ถึงวันเกิดของอาจารย์แล้ว”
“ใช่ ลองนับเวลาดูแล้ว วันเกิดของอาจารย์เมอร์เซเดอก็สองวันนี้แล้วนี่”ปาจรีย์ปล่อยมือลง“โอเค งั้นเธอไปเถอะ ช่วยเอาของขวัญฉันไปฝากด้วย”
“ได้”วารุณีพยักหน้า
จากนั้น ปาจรีย์ก็พูดแผนการเปิดร้านค้าออนไลน์กับเธอเล็กน้อย แล้วลุกขึ้นออกไป
พอเธอไป วารุณีก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ ก้มหน้าลงแล้วเริ่มทำงาน
ตอนบ่าย วารุณีเดินทางไปที่สถานีโทรทัศน์ อยากจะปรึกษาเรื่องการถ่ายรายการวาไรตี้สัปดาห์หน้ากับทางกองรายการ พวกเสื้อผ้าที่เหล้าไอดอลพวกนั้นต้องใส่
สัปดาห์หน้าไอดอลพวกนั้นต้องไปทะเล ดังนั้นกองรายการจึงให้ธีมหลักมาก็คือมหาสมุทร
ธีมนี้สำหรับดีไซเนอร์เสื้อผ้าแล้ว ถือว่าเป็นหัวข้อที่ธรรมดามาก ดังนั้นเมื่อไม่ยาก วารุณีก็คิดว่าแค่ตัวเองหลับตาคิด ก็สามารถคิดออกแบบออกมาได้เยอะแล้ว
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะวาดภาพออกแบบออกมาในช่วงเวลาสั้นๆนี้”วารุณียืนขึ้นมา แล้วยื่นมือออกไปให้โปรดิวเซอร์ของกองรายการ
ฝ่ายตรงข้ามก็ยื่นมือออกไป จับมือกับเธอ“งั้นก็รบกวนคุณวารุณีแล้ว”
“ไม่ต้องเกรงใจค่ะ”วารุณียิ้ม จากนั้นจึงบอกลา
โปรดิวเซอร์ก็ยังส่งเธอไปยังด้านนอกออฟฟิศด้วย แล้วหันกลับไป
วารุณีออกไปจากลิฟต์ มาที่อาคารชั้นหนึ่งของสถานีโทรทัศน์ แล้วจู่ๆก็คิดอะไรได้ จากนั้นสายตาก็เป็นประกาย เดินไปที่เคาน์เตอร์ต้อนรับ
“สวัสดีค่ะ ขอโทษนะคะ ปวิชยังทำงานที่สถานีโทรทัศน์ไหมคะ?”วารุณีถามพนักงานสาวที่เคาน์เตอร์ด้วยรอยยิ้ม
ตรงเคาน์เตอร์ต้อนรับก็มองสำรวจเธอ“คุณถามทำไมเหรอคะ?”
วารุณีเสยผมขึ้น โกหกอย่างไม่เปลี่ยนสีหน้าใดๆ“เขาเป็นอาฉันค่ะ ไม่ได้กลับบ้านเกิดมานานแล้ว พ่อฉันเป็นห่วงฉันมาก ก็เลยให้ฉันมาถามดู”
“ที่แท้ก็แบบนี้เอง เดี๋ยวฉันช่วยหาให้คุณนะคะ”พนักงานต้อนรับพยักหน้า แล้วเริ่มหาในคอม
วารุณีพูดขอบคุณเสร็จ ก็ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ต้อนรับ รออย่างอดทน
รอได้ประมาณสองสามนาที พนักงานสาวที่เคาน์เตอร์ต้อนรับก็หาเสร็จ มองเธอแล้วตอบไปว่า:“ขอโทษจริงๆค่ะ ปวิชถูกไล่ออกไปก่อนหน้านี้แล้ว!”
“ไล่ออก?”วารุณีตกใจ
พนักงานสาวที่เคาน์เตอร์ต้อนรับตอบอือ“ใช่ค่ะ เพราะว่าเขาเรียกพวกยามที่สถานีโทรทัศน์โดยไม่มีเหตุผล ทำให้สถานีโทรทัศน์วุ่นวาย ดังนั้นผู้อำนวยการสถานีจึงออกคำสั่ง ไล่เขาออก ขอโทษด้วยนะคะ”
“ไม่ๆๆ นี่ไม่เกี่ยวกับพวกคุณค่ะ”วารุณีโบกมือ สื่อว่าไม่ต้องขอโทษ จากนั้นดวงตาก็กลอกไปมา แล้วถามอีกว่า“งั้นคุณรู้ไหมคะ พอเขาถูกไล่ออกแล้ว เขาไปไหน?”
“พวกเราไม่ทราบหรอกค่ะ แต่ตอนที่เขาไป ผู้หญิงคนหนึ่งมารับเขา”
“ผู้หญิง?”
“ใช่ค่ะ ผู้หญิงคนนั้นสนิทกับเขามาก มาหาเขาบ่อยๆ”พนักงานสาวเคาน์เตอร์ต้อนรับพูด
วารุณีละสายตาลงไป
เธอพอจะรู้แล้วว่าผู้หญิงคนนั้นคือใคร น่าจะเป็นขยานีอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
แค่ไม่รู้ว่า ขยานีจัดการให้ปวิชไปอยู่ไหน
“โอเคค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณนะคะ”วารุณียิ้มขอบคุณพนักงานสาวเคาน์เตอร์ต้อนรับ หันกลับออกไปจากประตูของอาคาร
เพิ่งออกมาจากประตู เธอก็ถูกคนเรียกไว้
“วารุณี?ใช่วารุณีไหม?”
ได้ยินความแปลกใจในน้ำเสียง พร้อมกับเสียงผู้หญิงที่ดูไม่แน่ใจ วารุณีจึงหันหน้าไปด้วยความสงสัย
ก็เห็นรถบัสคันหนึ่งจอดอยู่ไม่ไกล ด้านหน้ารถมีผู้หญิงที่ร่างสูงขายาว สวมชุดที่ทันสมัยอย่างมากคนหนึ่งยืนอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...