นวิยาฟังความไม่พอใจในน้ำเสียงของเขาออก ในใจก็เสียใจและโมโห
ที่เสียใจก็คือ จู่ๆเขามาใช้น้ำเสียงแบบนี้พูดกับเธอ ซึ่งเมื่อก่อนไม่เคยมี
ทั้งหมดนี้ ต้องโทษวารุณี!
ในใจของนวิยานั้นแค้นสุดๆ ใบหน้ากลับทำท่าเหมือนสำนึกผิดไป“ขอโทษนะนัทธี ฉันพูดผิดไป คุณอย่าโกรธฉันเลยนะ?”
เธอกอดแขนของเขาไว้ เขย่าอย่างออดอ้อน
นัทธีก็ไม่ได้จะโกรธเธอจริงๆ ตอนนี้ได้ยินเธอสำนึกแล้ว เขาไม่ใช่คนที่แค้นฝังลึก ริมฝีปากบางๆนั้นค่อยๆพูดออกมา“ครั้งต่อไปอย่าทำอีก!”
“อือๆ”นวิยาพยักหน้าอย่างดีใจ
ตอนนี้เอง ประตูของแผนกสูตินรีเวชก็เปิดออก วารุณีกุมท้องออกมาจากด้านใน เห็นนัทธีกับนวิยานั่งอยู่ด้วยกัน นวิยายังคล้องแขนของนัทธีไว้ด้วย สีหน้าจึงอดไม่ได้ที่จะหม่นลงไป
“เป็นไงบ้าง?”นัทธียังไม่สังเกตเห็นว่าอารมณ์ของเธอนั้นไม่ดีเท่าไหร่ จึงยืนขึ้นมาแล้วถาม
วารุณีส่ายหน้า“ฉันก็ไม่รู้ เดี๋ยวสักพักผลถึงจะออกมา”
นัทธีพยักหน้าเล็กน้อย สื่อว่าเข้าใจ“งั้นก็รอก่อนละกัน”
วารุณีตอบอือ จากนั้นมองนวิยาที่อยู่ข้างๆเขา“คุณนวิยาทำไมมาอยู่ตรงนี้คะ?”
“ฉันได้ยินว่านัทธีมา ก็เลยมาดูหน่อย คุณวารุณีไม่ถือสาใช่ไหมคะ?”นวิยายิ้มไปตอบไป
ถึงปากเธอจะพูดแบบนี้ แต่กลับไม่ยอมปล่อยแขนของนัทธี กลับยังรัดแขนของนัทธีอย่างไม่สังเกตเห็นง่ายๆด้วย
วารุณีมองออกว่า นวิยากำลังยั่วใส่ตัวเอง ก็โมโหสุดๆ
จริงด้วยครั้งที่แล้วที่ผู้หญิงคนนี้พูดอวยพรในสาย ก็ปลอมทั้งหมด ถ้าปล่อยแล้วจริงๆ ตอนนี้ก็ไม่คล้องแขนของนัทธีหรอก มาแสดงต่อหน้าเธอ จงใจทำให้เธอหึง
แต่ในเมื่อผู้หญิงคนนี้ทำแบบนี้กับเธอ งั้นก็อย่าหาว่าเธอไม่ไว้หน้าละกัน
คิดแบบนี้ วารุณีก็ยกมุมปากขึ้นมา ดูจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม ตอบกลับไปด้วยแววตาที่มีความเย็นชาแฝงไว้อยู่:“ฉันถือสาสิคะ”
“ฉันรู้อยู่แล้วว่าคุณวารุณี......อะไรนะ?คุณพูดอะไรน่ะ?”หน้าของนวิยาแข็งทื่อทันที หลังจากนั้นได้สติคืนมาว่า คำตอบของวารุณีไม่ใช่อย่างที่เธอคิดไว้
วารุณีมองนวิยาที่สีหน้าดูแย่อย่างไม่ชอบใจนัก ก็อารมณ์ดีขึ้นมาทันที เสยผมพูดไปว่า:“ฉันบอกว่า ฉันถือสา!”
พูดจบ สายตาของเธอชำเลืองมองไปที่แขนของพวกเขาที่กอดกันอยู่
นัทธีเข้าใจทันที หลังจากขมวดคิ้วแล้ว ก็ดึงมือออก
ในอ้อมแขนว่างทันที นวิยาจึงร้องออกมาอย่างไม่รู้ตัวว่า“นัทธี......”
จากนั้นนัทธีไม่สนเธอเลยสักนิด มองไปที่วารุณีแล้วพูดว่า:“ขอโทษนะ”
เมื่อก่อนนวิยาชอบกอดแขนของเขา ทำอยู่นานจนเขาเองก็ชิน
ดังนั้นเขา จึงไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองผลักเธอออกไปในทันที
“ไม่เป็นไรค่ะ”วารุณีส่ายหน้า เลือกที่จะให้อภัย
เพราะเธอเข้าใจเขา รู้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ
จากนั้น วารุณีก็เอาสายตามองกลับไปที่นวิยา“คุณนวิยา กรุณาจำไว้นะคะ ตอนนี้นัทธีมีแฟนแล้ว ก็คือฉัน คุณรู้ว่าเขามา อยากมาดูเขาไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันไม่ห้าม เพราะนี่คืออิสระของคุณ แต่ว่า!”
เธอใส่น้ำเสียงลงไป นัยน์ตาดอกท้ออันสวยงามก็หรี่ลง“ฉันหวังว่าคุณจะรักษาระยะห่างกับเขาหน่อยนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางที่ดีอย่ามีการสัมผัสทางกายภาพโดยไม่จำเป็นเลยค่ะ แบบนี้ไม่เพียงแต่ทำให้คนเข้าใจผิด แต่ทำให้ฉันไม่พอใจด้วย ฉันหวังว่าคุณจะเข้าใจ คุณนวิยา”
ได้ยินคำประกาศแสดงอำนาจแล้ว ริมฝีปากบางๆของนัทธีก็ยกขึ้นมา ดีใจมากกับการแสดงความเป็นเจ้าของของเธออย่างชัดเจน
ส่วนนวิยาก็ไม่พอใจ เธอมองเขา เห็นเขาไม่ใช่แค่ไม่ช่วย แต่ยังชอบที่วารุณีพูดด้วยอีก ในใจก็ทั้งเจ็บทั้งแค้น แต่ใบหน้ากลับฝืนฉีกยิ้มออกไป“ฉันเข้าใจแล้ว ครั้งหน้าฉันจะระวังค่ะ”
“งั้นก็ดี”วารุณีพูดตอบพร้อมรอยยิ้ม
นวิยาก้มหน้าลง ทำให้มองไม่เห็นอาการที่ใบหน้าชัดๆ“นัทธี ฉันไม่รบกวนคุณกับคุณวารุณีแล้ว ฉันกลับก่อนนะ”
“โอเค”นัทธีพยักหน้าเห็นด้วย
นวิยาหันกลับ เดินไปที่ทางที่มาทีละก้าว
แป๊บเดียว ร่างของเธอก็หายไป
วารุณีเดินมานั่งตรงที่นวิยานั่งเมื่อกี๊“นัทธี คุณคงไม่คิดหรอกนะ ว่าคำพูดฉันเมื่อกี๊ มากเกินไปหน่อยกับคุณนวิยา?”
“เปล่าเลย”นัทธีหันไปมองเธอเล็กน้อย“คุณกลับเตือนพวกเราต่างหากว่า ไม่ควรมีการสัมผัสที่ไม่จำเป็นพวกนั้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...