วารุณีเหลือบมองไปแวบหนึ่ง “ฉันไม่ให้เขาเปิดเผยเอง”
“ทำไมล่ะ?”ปาจรีย์เก็บโทรศัพท์กลับ รู้สึกไม่เข้าใจเล็กน้อย
วารุณีกลอกตามองบน “จะอะไรได้อีกล่ะ? รอให้นักข่าวมาใต้ตึกเพื่อตามหาตัวฉันทุกวันหรือไง ? ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ปาจรีย์ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ พยักหน้าให้ “ก็จริง นักข่าวพวกนั้นน่ารำคาญมาก อีกอย่างเมื่อก่อนเธอก็เคยมีข่าวกับประธานนัทธีด้วย ตอนนี้รู้ว่าพวกเธอแต่งงานกันแล้ว นักข่าวพวกนั้นไม่ถามถึงที่มาที่ไปจนกระจ่าง เห็นทีก็คงจะไม่มีทางหยุดแน่”
“ใช่ เพราะฉะนั้นก็คงต้องหลบซ่อนตัวไปก่อนชั่วคราว ให้รอถึงวันแต่ง ค่อยประกาศตัว” วารุณีพูดไปด้วยแล้วบิดขี้เกียจไปด้วย
ปาจรีย์ชะโงกหน้าไป ราวกับจะพูดอะไร ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของวารุณีก็ดังขึ้นมา ขัดจังหวะของเธอพอดี
วารุณีพูดขอโทษ แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาดู เมื่อเห็นสายที่โทรเข้ามา ทันใดนั้นสายตาของเธอก็มีอารมณ์ซับซ้อนปรากฏ
“ใครเหรอ?เมื่อปาจรีย์สังเกตเห็นความผิดปรกติของเธอ ก็จึงชะโงกหน้าไปดูที่โทรศัพท์มือถือของเธอ
เห็นชื่อของพงศกรโผล่ขึ้นมาที่หน้าจอ ปาจรีย์ก็น่าเศร้า “พงศกรโทรมา รับสายสิ ”
เธอปั้นหน้า ด้วยสีหน้าที่ฝืนใจมาก
วารุณีกัดริมฝีปาก “หรือไม่......”
ราวกับรู้ว่าเธอจะพูดอะไร ปาจรีย์โบกมือแล้วหัวเราะ“หรือไม่ทำไม รีบรับสิ พงศกรคงรู้เรื่องที่เธอจะแต่งงาน เลยจะโทรมาถามล่ะมั้ง ”
พอปาจรีย์พูดมาแบบนี้ วารุณีก็ไม่มีทางเลือก จึงกดรับสาย
เพื่อให้ปาจรีย์ได้ยินด้วย เธอกดเปิดลำโพง แล้ววางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ
“พงศกร”วารุณีพูดเสียงดังกับคนในสาย
“วารุณี ฉันเห็นที่ประธานนัทธีโพสต์แล้ว ”เสียงที่อ่อนโยนของพงศกรดังขึ้น “ พวกเธอแต่งงานกันแล้วเหรอ ?”
วารุณีตอบกลับไปคำหนึ่งว่า “ใช่”
“เป็นเรื่องจริงเหรอเนี่ย ฉันคิดว่าตัวเองคงเดาผิดไป” พงศกรหัวเราะ แต่แว่นตากลับมีแสงสะท้อน ปกปิดอารมณ์ความรู้สึกของแววตา ทำให้คนมองดูไม่ออก
จากนั้น เขาก็ดันไปที่กรอบแว่น แล้วพูดว่า“ยินดีด้วยนะวารุณี”
วารุณีไม่รู้ตอนนี้พงศกรมีปฏิกิริยายังไง ยิ้มแล้วพยักหน้าให้ “ขอบใจนะ”
ปาจรีย์ที่ได้ยินบทสนทนาก็ส่งสัญญาณให้วารุณี “เห็นไหม ฉันบอกแล้วว่าเขาโทรมาถามเรื่องแต่งงานของเธอ”
วารุณีไม่ได้สนใจเธอ จึงได้ถามถึงอาการป่วยของพงศกร
พงศกรยังไม่ทันได้ตอบ ก็มีเสียงเขินอายของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น“คุณหมอพงศกร ฉันมาอีกแล้ว”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ ร่างทั้งร่างของปาจรีย์ก็สั่นเทา ลุกขึ้นจากเก้าอี้มาทันที
วารุณีเองก็จำเจ้าของเสียงนี้ได้ว่าเป็นใคร เป็นเสียงคุณแอนนี่ตระกูลฮิลล์
ไม่คิดว่า แอนนี่จะหาตัวพงศกรเจอจนได้ และยังตามไปด้วย
“ปาจรีย์......”วารุณีมองไปที่ปาจรีย์ด้วยความเป็นห่วง
ปาจรีย์ไม่ตอบ เธอก้มหน้าลง ไม่ให้ใครเห็นสีหน้าของเธอ
ไม่มีทางเลือก วารุณีทำได้เพียงมองไปยังโทรศัพท์มือถือที่อยู่บนโต๊ะ ถามพงศกรไปว่า“พงศกร คุณแอนนี่ไปอยู่กับนายที่นั่นได้ยังไง ?”
พงศกรมองไปยังแอนนี่ที่กำลังเทซุปออกมาจากกระติกน้ำร้อน ตอบกลับด้วยแววตาที่งุนงงว่า“เธอมาเยี่ยมฉัน แค่นี้ก่อนนะวารุณี ไว้เราค่อยคุยกัน จะโทรหาใหม่นะ ”
พูดจบเขาก็กดวางสายไป
เดิมทีวารุณีที่อยากจะถามคำถามอื่นต่อ แต่เมื่อเห็นหน้าจอกลับเข้าสู่เมนูหลัก ก็ทำได้เพียงกลืนคำถามนั้นลงคอไป
ปาจรีย์กำมือแน่น“วารุณี เมื่อกี้เธอบอกว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของแอนนี่เหรอ เธอรู้จักเขาเหรอ ?”
วารุณีขยับริมฝีปากไปมา ดูราวกับไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่สุดท้าย เธอก็พยักหน้ารับ “รู้จัก แต่ไม่ได้สนิทกัน พงศกรแนะนำให้รู้จักกันในตอนที่ไปร่วมงานแต่ง เธอเป็นคุณหนูรองของตระกูลฮิลล์”
“ที่แท้ก็เป็นเขานั่นเอง !”ปาจรีย์สูดหายใจเข้าลึก “ ฉันเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเขามาบ้าง แต่ไม่เคยเจอตัว เขาชอบพงศกร!”
น้ำเสียงของเธอหนักแน่นมาก
เพราะเธอฟังออก โทนเสียงของแอนนี่ที่คุยกับพงศกรเมื่อครู่ มันชัดมากว่าเต็มไปด้วยความรัก เพราะฉะนั้นปฏิกิริยาเมื่อครู่ของเธอก็จึงแสดงออกมาชัดเจนมาก ถึงขั้นลุกยืนขึ้นทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...