“บังเอิญ?”วารุณีนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นก็ถามว่า “ที่รัก อย่าบอกนะว่าคุณก็ได้รับงานแบบนี้มาเหมือนกัน ?”
บริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ปมุ่งเน้นกับแบรนด์หรู มีทั้งเสื้อผ้ารองเท้ากระเป๋าเครื่องสำอางเครื่องประดับมากมาย ร่วมงานกับบุคคลชนชั้นสูง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
“ไม่ใช่” นัทธีส่ายหัว “แต่เป็นเหมืองเพชรของประเทศนั้น ผมกะว่าจะไปดูมันสักหน่อย อยากจะซื้อที่ไว้ทำเหมืองเพชร ”
“งั้นเหรอคะ” วารุณีพยักหน้าให้ “แล้วคุณจะไปเมื่อไหร่คะ ? ”
“อาทิตย์หน้า แล้วคุณล่ะ?”นัทธีใช้โอกาสที่ติดสัญญาณไฟจราจร หันไปมองเธอ
วารุณียักไหล่“ ยังไม่รู้ ต้องแล้วแต่นักออกแบบลีน่าเธอ”
เพราะงานนี้ลีน่าเป็นคนคุยกับทางราชวงศ์เอง จะไปตอนไหนลีน่าก็เป็นคนจัดการ
นัทธีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง“ ไม่ว่าจะไปตอนไหน ผมจะจัดเครื่องบินไว้ให้พวกคุณเอง”
“ก็ดีค่ะ”วารุณีไม่ได้ปฏิเสธ ยิ้มรับมันไว้
หลังจากที่รับลูกทั้งสองคนมาแล้วทั้งสี่คนก็เดินทางกลับคฤหาสน์
ทันทีที่ลงจากรถ วารุณีก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งในชุดทำงาน เดินออกมาจากคฤหาสน์
ไอริณดึงไปที่แขนเสื้อของวารุณี“หม่ามี๊ พวกเขาเป็นใครคะ ? ”
วารุณีมองไปที่หนึ่งคนในนั้นบนเสื้อมีคำว่า‘ร้านเปียโนเวนัสซ่า’ตัวโตๆทันใดนั้นก็เดาตัวตนของพวกเขาได้ทันที
แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้บอกกับลูกสาว อารัณก็เอ่ยปากพูดขึ้นมาก่อนว่า “ร้านเปียโน”
“ใช่จ้ะ”วารุณีพยักหน้าให้
ดวงตาของไอริณเป็นประกาย“ เปียโน?”
วารุณีเห็นดวงตาที่เป็นประกายของลูกสาว ก็ลูบไปที่ศีรษะของเธอ “ชอบเปียโนเหรอ?”
“ใช่ค่ะ หนูชอบมันมากๆเลย ” ไอริณกระโดดโลดเต้น “หนูเคยเห็นพี่สาวคนหนึ่งเล่นเปียโนในทีวี เธอสวยมาก หม่ามี๊ หนูก็อยากเล่นเปียโนเหมือนกัน จะได้สวยเหมือนพี่สาวคนนั้น”
พูดจบ เธอก็จับแขนของวารุณีแล้วเขย่าไปด้วยท่าทีที่ออดอ้อน กลัวว่าวารุณีจะปฏิเสธเธอ
นี่เป็นครั้งแรกที่วารุณีเห็นลูกสาวของเธอมีท่าทีที่สนอกสนใจอะไรบางอย่างเป็นพิเศษแบบนี้
เพราะในเด็กสองคนนี้ มีเพียงไอริณที่เกียจคร้าน ราวกับไม่มีความชอบอะไร และเธอเองก็มักจะปวดหัวอยู่บ่อยๆ
ไม่คิดว่า ลูกสาวของฉันจะมาชอบเปียโนได้
ในเมื่อเป็นแบบนี้ เธอย่อมจะไม่ทำให้ลูกสาวต้องผิดหวังแน่นอน
ในตอนที่วารุณีกำลังจะพูดอะไรออกไป นัทธีที่จอดรถเสร็จก็เดินมาถึง เมื่อเห็นแม่ลูกสามคนไม่เดินเข้าไปด้านใน และยังยืนอยู่ที่หน้าประตู ก็อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วขึ้น “ทำอะไรกันอยู่?”
“คุณพ่อ”ไอริณปล่อยมือออกจากวารุณี แล้ววิ่งไปหานัทธี
นัทธีอุ้มเธอขึ้นมา “เป็นอะไรไป?”
“คุณพ่อขา ซื้อเปียโนมาใช่ไหมคะ ?” ดวงตาไอริณเป็นประกายจ้องมองมาที่เขา
นัทธีนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นก็พยักหน้าให้ “เรารู้ได้ยังไง?”
“ก็เห็น คนที่มาส่งเปียโนเพิ่งจะกลับไป” อารัณพูดแล้วมือเล็กๆก็ยืนกอดอกอยู่
วารุณีก็ถาม “ที่รัก ทำไมจู่ๆคุณถึงคิดที่อยากจะซื้อเปียโนล่ะ ?”
“ซื้อให้นวิยา”นัทธีตอบกลับ“จองไว้ตั้งแต่เมื่อสองเดือนก่อนแล้ว ”
เมื่อได้ยินคำนี้ ริมฝีปากแดงของวารุณีเม้มเข้าหากัน“เหรอคะ ไม่คิดว่าคุณนวิยาจะชอบเปียโนด้วย ?”
“เธอเรียนเปียโนมาตั้งแต่เด็ก หากไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ในปีนั้น ไม่แน่ว่าเธอก็คงได้ขึ้นแสดงที่ห้องโถงแสดงเวนัสซ่าโกลด์แล้ว”
นัทธีพูดขึ้นมาแล้วพลางมือลูบไปที่ศีรษะของไอริณ
วารุณีไม่คิดว่าเขาจะมองนวิยาไว้สูงส่งขนาดนี้
คิดว่าพรสวรรค์ในการเล่นเปียโนของนวิยา คงไม่มีใครมาเทียบเคียงได้
ในอ้อมแขนของนัทธี ไอริณที่ได้ยินว่าเปียโนนั้นซื้อมาให้กับคุณน้านวิยาที่เธอไม่ชอบขี้หน้า ก็เกิดไม่พอใจขึ้นมาทันที
จากนั้นก็คล้องไปที่คอของนัทธีแล้วพูดอย่างออดอ้อนว่า “คุณพ่อขา ไอริณก็อยากได้เปียโนนี้เหมือนกัน ยกเปียโนนี้ให้ไอริณได้ไหมคะ ไม่ต้องให้คุณน้านวิยาแล้วนะ ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...