อย่างไรก็ตามที่ปากเธอมีเทปกาวติดอยู่ คำสามคำนี้ฟังดูแล้ว จึงมีแต่เสียงอู้อี้
แต่นิรุตติ์เดาออกว่าเธอกำลังพูดอะไร จากท่าทาง และความตกใจในสายตาเธอ
“ผมเอง แปลกใจมากใช่ไหม”ในมือของนิรุตติ์ถือเก้าอี้ตัวหนึ่ง เดินมาที่หน้าวารุณี
รูม่านตาของวารุณีสั่นคลอน แล้วก็ทำเสียงอู้อี้อีกครั้ง
ครั้งนี้นิรุตติ์เดาไม่ออก จึงแกะเทปกาวที่ปากเธอ“จริงๆเลย ไม่ได้ให้ผู้ช่วยอภิสิทธิ์ติดแบบสบายๆหน่อยเหรอ?ทำไมไม่ฟังผมเลย”
วารุณีไม่สนใจว่าเขาบ่นอะไร ถามเสียงดังว่า“คุณเองสินะที่จับฉันมา”
“ก็เห็นชัดเจนดีไม่ใช่เหรอ?”นิรุตติ์ถอยกลับไป นั่งอยู่บนเก้าอี้
วารุณีตัวสั่น“นี่มันเพราะอะไรกันแน่!”
“เพราะอะไร?”นิรุตติ์เหมือนได้ยินก็เรื่องตลก หลังจากหัวเราะเสียงเบาไปแล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนไป ดูเหยเกขึ้นมา “คุณกล้าเอาเบาะแสปลอมของพินัยกรรมมารับมือกับผม คุณว่าผมจะจับคุณมาทำไมกันล่ะ!”
สีหน้าวารุณีซีดขาวไป“คุณ......”
“คุณจะบอกว่า ผมรู้ได้อย่างไรใช่ไหม?”นิรุตติ์เก็บใบหน้าโหดร้ายคืนไป แล้วมีรอยยิ้มเอ้อระเหยลอยชายอย่างเหมือนเคย“เพราะว่าผมไปประเทศอเมริกา แล้วหาพินัยกรรมไม่เจอ พอตอนที่ผมจะกลับประเทศ ก็พบว่ามีคนจงใจสกัดกั้นผมกลับมา ดังนั้นผมจึงตระหนักได้ว่า ผมถูกคุณ ไม่สิ ถูกพวกคุณหลอก!”
พูดถึงตรงนี้ นิรุตติ์เคาะไปที่ขานั่งไขว่ห้าง“คุณน่าจะบอกนัทธีตั้งนานแล้วใช่ไหม เรื่องที่ผมต้องการพินัยกรรม ไม่งั้นนัทธีจะให้คนสกัดผมไว้ที่ต่างประเทศได้ทันเวลาได้อย่างไร แต่สุดท้ายพวกคุณก็ล้มเหลว ผมกลับมาแล้ว!”
ก็แค่วิธีกลับมา กลับทำให้เขารู้สึกละอายใจ
เขาผู้เป็นคุณชายตระกูลไชยรัตน์ที่สง่างาม ต้องมาใช้วิธีลักลอบเข้าประเทศถึงกลับประเทศได้
แค้นนี้ เขาไม่ปล่อยไปง่ายๆแน่
วารุณีละสายตาลง“ขอโทษนะ ฉันก็ไม่อยากใช้ข่าวปลอมมาหลอกคุณ”
“แต่คุณก็ทำไม่ใช่เหรอ?”สีหน้านิรุตติ์หม่นลงไป ยืนขึ้นมาอีกครั้ง ยื่นมือไปบีบคอของเธอ กดเธอลงไปที่โซฟา“คุณรู้ไหม เพราะว่าคุณ ผมเกือบตายที่ทะเล!”
เขาออกแรงกำมือไว้แน่น
วารุณีรู้สึกเจ็บคอจนแทบหัก เกือบจะหายใจไม่ได้ หน้าเล็กๆนั้นแดงขึ้นมา ท่าทางก็เริ่มดูน่าเกลียด เสียงที่พูดก็แหบไป
“ฉันไม่รู้ แต่ฉันหมดหนทาง นัทธีไม่รู้ที่อยู่ของพินัยกรรมเลย คุณให้เวลาฉันสองเดือนเอามาให้คุณ ถ้าทำไม่ได้ คุณจะลงมือกับคนรอบตัวฉัน ฉันได้แต่ทำแบบนี้แหละ”
นิรุตติ์หัวเราะออกมา เหมือนคนสติไม่ดี สายตาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง“จริงๆด้วย ตั้งแต่ต้นแล้วผมไม่ควรคาดหวังกับคุณเลย ผมคิดเสียอีกว่าคุณจะมีความสามารถ ที่แท้ก็แค่นี้”
“งั้นคุณจะทำยังไง?”วารุณีมองเขา สายตาเต็มไปด้วยความแค้น
นิรุตติ์ออกแรงที่มืออีกครั้ง วารุณีเจ็บจนร้องออกมา สูดลมหายใจก็ลำบาก ได้แต่อ้าปากกว้าง ใช้ปากหายใจ
“เป็นไงบ้าง?”มุมปากของนิรุตติ์ยกขึ้นเป็นมุมบางๆ“ผมยังคิดไม่ได้ เพราะว่าคุณไม่ได้ให้เบาะแสของพินัยกรรมกับผม แล้วยังให้นัทธีรู้เรื่องพินัยกรรมอีก ถ้าเขาหาพินัยกรรมเจอ งั้นตระกูลผมก็จบเห่ ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงผลลัพธ์นี้ ผมได้แต่จับคุณมา ให้ใครให้คุณเป็นคนที่เขาแคร์ที่สุดล่ะ”
“คุณจะฆ่าฉันเหรอ?”แววตาวารุณีมีประกายความหวาดกลัว
นิรุตติ์ส่ายหน้า“ไม่ ผมไม่ฆ่าคุณ อย่างน้อยตอนนี้ก็ไม่ ผมแค่เอาคุณมาขู่ ขู่นัทธีให้เอาพินัยกรรมมาให้ผม”
“ดังนั้นคุณจึงจับฉันมานี่?”
“ถูกต้อง”มืออีกข้างของนิรุตติ์ทัดผมของวารุณี“ผมจะขังคุณที่นี่ ให้นัทธีไปหาพินัยกรรม รอเขาหาเจอเมื่อไหร่ ผมค่อยคืนคุณให้เขาไป”
“งั้นคุณคิดบ้างไหม ถ้าเอาฉันคืนเขาไป เขาจะแก้แค้นคุณแน่นอน?”วารุณีจ้องเขา
นิรุตติ์หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง แต่ในแววตานั้นไม่มีรอยยิ้มสักนิด“คุณคิดว่าผมคิดเรื่องพวกนี้ไม่ได้เหรอ?แต่ไม่มีทางนี่ ก่อนที่ผมจะปล่อยคุณไปให้เขา ก็จะทิ้งจุดอ่อนของคุณไว้ เอาไปเป็นการข่มขู่ในวันข้างหน้า แบบนี้ เขาก็จะกังวล และก็ไม่กล้าลงมือผมแล้ว”
“คุณ......”วารุณีกัดริมฝีปากแน่น เสียงสั่น“คุณจะทำอะไรฉัน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...