พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ นิยาย บท 379

วารุณียกยิ้ม “นัทธี คุณมาได้จังหวะพอดี เรามาคุยกันหน่อยดีไหมคะ ?”

เท้าที่ก้าวเดินของนัทธีก็หยุดลง เสียงเย็นชา “คุยอะไร?”

“คุยเรื่องที่คุยกันเมื่อครู่ในห้องหนังสือ ฉันอยากรู้ ว่าฉันทำอะไรผิดไป ทำไมคุณถึงได้เย็นชากับฉันแบบนี้ ขอแค่คุณพูดออกมา หากว่าฉันผิดจริง ฉันยินดีที่จะแก้ไข คุณอย่าเอาแต่เก็บงำมันไว้คนเดียวเลยดีไหมคะ?”วารุณีมือกุมไปที่อก มองมาที่เขาด้วยสายตาที่เว้าวอน

อันที่จริงเธอไม่ชอบเลยคนที่ไม่ยอมเปิดปากพูดอะไร เพราะการไม่พูดอะไร จึงก่อให้เกิดเรื่องเข้าใจผิดมากมายโดยไม่จำเป็น

เธอหวังว่าระหว่างพวกเธอสามีภรรยา จะสามารถเปิดอกพูดคุยกันตรงๆได้

แต่นัทธีกลับเหล่ตามองมาที่เธอ “คุณจะแก้ไข ? จะแก้ไขมันยังไง ?”

พ่อแม่ของเขาก็ตายไปแล้ว เธอจะทำอะไรได้อีก ?

เมื่อได้ยินคำนี้ วารุณีก็ยิ่งมั่นใจ ว่าตัวเองไปทำอะไร ให้เขาไม่พอใจเข้าจริงๆ

เธอขมวดคิ้วและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็นึกไม่ออกว่าตัวเองไปทำอะไรไว้ คลึงไปที่หว่างคิ้ว “คุณก็พูดมาสิ คุณพูดออกมาแล้วฉันถึงรู้ว่าจะแก้ไขมันได้ไหม หากแก้ไขไม่ได้ ฉันก็จะชดเชยให้ !”

“คุณชดเชยไม่ได้หรอก!”นัทธีพูดจบ ก็ผลักเธอออกแล้วเปิดประตูห้องเข้าไป

วารุณีถูกผลักจนเกือบจะล้มลงไปกับพื้น เท้าขยับถอยไปอยู่สองก้าว ถึงจะยืนให้มั่นได้ จากนั้นก็มองไปที่เขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ

นี่เขาถึงขั้นผลักเธอเลยเหรอ !

แล้วยังออกแรงผลักเธออีกด้วย

นัทธีมองดูแววตาที่ตกใจของเธอ ดวงตาของเขาก็วูบไหว แล้วหลุบตาลงต่ำโดนพลัน ปิดบังความเสียใจและการรับไม่ได้ในแววตา

เขารู้สึกเสียใจมาก ที่กระทำการผลักเธอไปแบบนั้น

แต่มาเสียใจตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว จึงทำได้เพียงไม่รู้ไม่เห็น

วารุณีไม่ได้มีอาการตกใจนานมากนัก และไม่ได้ถือสาอะไรกับที่นัทธีผลักเธอ พ่นหายใจออกมาแล้วพูดว่า“ ฉันจะชดเชยไม่ได้ได้ยังไง ในเมื่อคุณไม่พูด......”

“พอแล้ว!”นัทธีตวาดเสียงเข้ม “หากคุณจะพูดแค่เรื่องนี้ ก็ไม่ต้องพูดแล้ว ”

เขาไม่อยากจะพูดถึงเรื่องอุบัติเหตุของพ่อแม่

ไม่พูด พวกเขาก็ยังเป็นสามีภรรยากันอยู่ แต่หากพูดไปแล้ว พวกเขาก็คงไม่อยู่ในสถานะนั้นอีกต่อไป

เขารู้จักเธอดี เธอจะต้องรู้สึกผิด แล้วขอหย่ากับเขาแน่นอน

เสียงตวาดของนัทธีทำเอาวารุณีร่างกายไหวสั่น“ได้ เราไม่คุยเรื่องนี้ก็ได้ งั้นเรามาคุยเรื่องพฤติกรรมของคุณ ฉันทำผิด คุณไม่พอใจฉันก็ได้ ทำไมต้องทำเย็นชากับเด็กๆด้วย คุณรู้ไหม ว่าพวกแกเสียใจมาก”

“แล้วยังไง ?”นัทธีจ้องมองเธอด้วยสายตาที่เย็นชา“พวกเขาไม่ใช่ลูกของผมสักหน่อย ทำไมผมต้องสนใจพวกเขาด้วย ”

เมื่อได้ยินดังนั้น ม่านตาของวารุณีหดเกร็ง หัวสมองเหมือนจะระเบิดออก “คุณ......คุณพูดคำนี้ออกมาได้ยังไง ? ”

“ผมพูดอะไรผิดไปงั้นเหรอ?”นัทธีเอ่ยถามออกไปด้วยสีหน้าที่เฉยเมย“พวกเขาไม่ใช่ลูกของผม ผมไม่รังเกียจพวกเขาก็ดีเท่าไรแล้ว คุณยังจะหวังให้ผมปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนเป็นลูกแท้ๆของตัวเองอย่างนั้นเหรอ ?”

หลังจากที่พูดประโยคนี้จบ ร่างของชายหนุ่มก็หายเข้าไปในห้องน้ำ มีเพียงวารุณีที่ยังคงยืนอยู่กับที่ไม่ได้ขยับไปไหน เหมือนคนสติหลุดลอย

เขาพูดแบบนี้ออกมาได้ยังไง!

ใช่ เธอไม่ได้บอกเขาว่าเด็กทั้งสองคนเป็นลูกของเขา แต่ก่อนที่จะแต่งงานกัน เขาก็เป็นคนพูดเอง ว่าจะรักเด็กทั้งสองคนให้เหมือนลูกตัวเอง และที่ผ่านมา เขาก็ทำมันได้ดีมาโดยตลอด

แต่เป็นเพราะเธออาจจะทำอะไรผิดไป เขาถึงขั้นไม่ยอมรับเด็กทั้งสองคนนี้เลยเหรอ !

เธอทำอะไรผิดไปจริงๆเหรอ ?

วารุณีหันมองไปยังห้องน้ำ รู้สึกเสียใจเป็นครั้งแรก ว่าทำไมต้องรอให้ถึงวันเกิดของเขา ถึงจะบอกเขาได้ว่าเด็กทั้งสองคนเป็นลูกของเขา

หากเธอบอกเขาไปเร็วกว่านี้ ตอนนี้เขาคงไม่พาลมาโกรธเด็กทั้งสองคนแบบนี้ใช่ไหม ?

เขาจะโกรธเธอยังไงก็ได้ แต่เธอไม่ต้องการให้เขาโกรธเด็กน้อยทั้งสองคนแบบนี้

เมื่อคิดได้ดังนี้ วารุณีก็กำมือแน่น ตัดสินใจไม่คิดจะปิดบังมันอีกต่อไป จะพูดกับเขาออกไปตรงๆ

“นัทธี”วารุณีเดินมาที่หน้าประตูห้องน้ำ ยกมือขึ้นแล้วเคาะไปที่ประตู “นัทธี ฉันรู้ว่าคุณได้ยิน ฉันอยากจะบอกความลับอะไรกับคุณบางอย่าง เกี่ยวกับสถานะที่แท้จริงของเด็กทั้งสองคน อันที่จริงแล้วพวกเขาเป็น......”

ยังไม่ทันจะได้พูดจบ นัทธีก็เปิดประตูออกมา

เขาสวมใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย ไม่แม้แต่จะมองเธอเลยสักนิด เดินผ่านหน้าเธอไป

ในใจของวารุณีร้อนรน หันหลังกลับแล้วเดิมตามเขา“นัทธี ที่จริงแล้วอารัณกับไอริณ......”

“คืนนี้ผมจะไปนอนที่ห้องรับรอง”จู่ๆนัทธีก็พูดขัดเธอขึ้นมา

วารุณีถึงกับหน้าซีด“ คุณจะแยกห้องนอนกับฉันเหรอ ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ