“ประธานนัทธี”วารุณียืนขึ้นมา“คุณอยู่กับอารัณไอริณได้ไงคะ?”
“ตอนที่ผมกลับมา เห็นพวกเขาสองคนที่ชั้นล่างพอดี ก็เลยพาพวกเขามาที่บ้านพักของผม”นัทธีพิงไปที่กำแพงตรงทางเดิน ตอบกลับเสียงราบเรียบ
ไอริณยกมือเล็กๆขึ้นมา วาดวงกลมใหญ่ๆขึ้นมากลางอากาศ“หม่ามี๊ คุณอานัทธีนิสัยดีนะ พาหนูกับพี่ไปกินของอร่อยตั้งเยอะ แล้วยังพาไปเดินเล่นอีก”
“ไม่ผิด”อารัณก็พยักหน้า“พวกเราเพิ่งกลับมาจากเดินเล่น”
“แบบนี้นี่เอง”วารุณีได้ยินก็เข้าใจ ดึงลูกทั้งสองคนให้โค้งคำนับนัทธี“ประธานนัทธี ขอบคุณคุณที่ดูแลเด็กสองคนนี้นะคะ”
“ไม่ต้อง คุณต่างหาก ทำไมกลับมาดึกขนาดนี้?”นัทธีเงยตาขึ้น น้ำเสียงมีความไม่พอใจหน่อยๆ
เธอไม่กลัวว่าลูกสองคนอยู่บ้านลำพัง จะมีอันตรายหรือไม่!
วารุณีไม่รู้ว่าในใจนัทธีกำลังคิดอะไรอยู่ หัวเราะอธิบายว่า“ตอนบ่ายฉันไปโรงงานผ้าถึงสามที่ ก็เลยกลับมาช้า”
ได้ยิน นัทธีก็เม้มปากเล็กน้อย“เรื่องพวกนี้ให้แผนกจัดซื้อไปก็ได้ คุณไม่จำเป็นต้องไปเอง”
“ไม่เป็นไรค่ะ โครงการ Bath fire rebirth นี้สำคัญต่อฉันมาก ถ้าไม่ได้ดูแต่ละส่วนที่เกี่ยวข้องกันกับตา ฉันก็ไม่วางใจ”วารุณียกมือขึ้นเอาผมทัดไว้หลังหู
หางคิ้วนัทธีขยับเล็กน้อย สายตาหม่นลง
ตอนนี้ อารัณที่อยู่ข้างๆกำลังกระซิบกระซาบกับไอริณ จู่ๆสีหน้าก็เปลี่ยนไป กุมท้องคุกเข่าลงไปที่พื้น แล้ว“อ้วก”อาเจียนออกมา
“พี่!”ไอริณอยู่ห่างอารัณใกล้ที่สุด ก็มองเห็นอารัณอ้วก ตกใจจนร้องเสียงดัง
ที่ตกใจเหมือนกันก็ยังมีวารุณี เธอมาตรงหน้าอารัณด้วยสายตาร้อนรน ถามเสียงสั่น“ลูกรัก เป็นอะไรไปลูก?”
อารัณไม่ตอบ ยังไม่หยุดอ้วก
นัทธีก็เดินเข้ามา คุกเข่าตรงหน้าอารัณด้วยสีหน้าตึงเครียด ยื่นมือไปลูบหน้ากับหน้าผากของเขา น้ำเสียงทุ้มต่ำ“ตัวเขาเย็นมาก แล้วยังมีเหงื่อเย็นๆไหล ต้องไปโรงพยาบาล”
พูดไป นัทธีก็อุ้มอารัณขึ้นมาอย่างไม่ลังเล รีบเดินไปที่ลิฟต์
วารุณีเห็นสถานการณ์ ก็รีบดึงไอริณตามไปด้วย
“หม่ามี๊ พี่จะไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?”ไอริณถามพร้อมกับร้องไห้
“แน่นอน พี่ชายเป็นซูเปอร์แมนตัวน้อย จะเป็นอะไรไปได้ไง!”วารุณีฝืนยิ้มปลอบใจลูกสาว แต่ความกังวลในดวงตานั้น กลับชัดเจนอย่างมาก
ระหว่างทางที่ไปโรงพยาบาล อารัณก็ไม่อาเจียนแล้ว แต่กลับตัวสั่นไม่หยุด และยิ่งสั่นหนักขึ้นเรื่อยๆ
วารุณีกังวลว่าแบบนี้ต่อไป เขาจะกัดลิ้นของตัวเอง
ดังนั้นรีบเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋า ม้วนเป็นกลมๆใส่ปากอารัณ
“ประธานนัทธี!”วารุณีกอดอารัณไว้แน่น ตะโกนเสียงแหลมไปที่ชายหนุ่มที่ขับรถด้วยตาแดงก่ำ ในน้ำเสียงมีความอ้อนวอนอย่างชัดเจน
“ผมรู้”นัทธีมองไปที่กระจกมองหลัง รูม่านตาหดลง สองมือกำพวงมาลัยไว้แน่น แล้วเหยียบคันเร่งขั้นสุด
แป๊บเดียว ก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว
อารัณถูกส่งไปที่ฉุกเฉิน วารุณีดึงไอริณมายืนรออยู่นอกห้องฉุกเฉินอย่างกระสับกระส่าย
นัทธีลงทะเบียนเสร็จกลับมา ก็เดินไปยืนข้างๆเธอ มองหน้าประตูห้องฉุกเฉินไปกับเธอ“อย่ากังวล อารัณไม่เป็นอะไรแน่”
วารุณีส่ายหน้า เสียงสะอึกสะอื้นเล็กน้อย“ฉันจะไม่กังวลได้ไง อารัณไม่เคยป่วยมาก่อนเลย จู่ๆเขาก็เป็นแบบนี้ ฉัน ……”
คำที่ตามมา เธอพูดไม่ออกแล้ว คุกเข่าลงไปที่พื้นร้องไห้อย่างหนัก
ไอริณก็มีผลกระทบจากเธอเช่นกัน เงยหน้าเล็กๆขึ้น แล้วร้องไห้ไปกับเธอ
สองคนแม่ลูกร้องไห้ด้วยกัน นัทธีได้ยินแล้วหัวใจเต้นอย่างอธิบายไม่ถูก
ตอนที่เขาจะปลอบ ให้สองคนแม่ลูกไม่ร้องไห้ จู่ๆไฟที่ห้องฉุกเฉินก็ดับลง
นัทธีหรี่ตาลง รีบเดินเข้าไป ขวางหมอที่ออกมาจากด้านในไว้ ถามเสียงหม่นว่า“เด็กเป็นยังไงบ้างครับ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...