พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ นิยาย บท 500

สรุปบท บทที่ 500 คำขอโทษของพงศกร: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

ตอน บทที่ 500 คำขอโทษของพงศกร จาก พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 500 คำขอโทษของพงศกร คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย จีน พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ ที่เขียนโดย candy cat เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

คุณหญิงทารีนาพยักหน้า “คุณหญิงนวิยาเธอเคยเป็นเพื่อนสนิทของฉัน ก่อนหน้านั้นเราทะเลาะกัน ก็เลยไม่ได้ติดต่อกันอีก แต่ฉันรู้ เธอกับคุณปวิชเป็นคนดีทั้งคู่ แต่ลูกสาวที่เกิดมา เหมือนปีศาจไม่มีผิด ฉันได้ยินมาว่า......”

“ได้ยินอะไรคะ?”วารุณีมองมาที่เธอ

คุณหญิงทารีนาขมวดคิ้ว“ ฉันเองก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แต่ฉันเคยได้ยินพวกคุณหญิงคุณนายเขาเล่ากัน ว่าตอนที่คุณหญิงนวิยาท้องได้สี่หรือห้าเดือน เธอไปตรวจที่โรงพยาบาล แล้วหมอก็พบว่าลูกในท้องของเธอเป็นโรคบุคลิกภาพผิดปกติแบบต่อต้านสังคม แนะนำให้เอาเด็กออก แต่คุณหญิงนวิยาเธอไม่ยินยอม ยังบอกอีกว่าหมอพูดจาเหลวไหล”

“จะพูดจาเหลวไหลได้ยังไง ทารกที่อยู่ในครรภ์ สามารถตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมได้จริงๆ ”วารุณีพูดเป็นจริงเป็นจัง

เรื่องแบบนี้ที่ต่างประเทศเป็นเรื่องปรกติมาก แต่บ้านเรายังพบเห็นกันได้น้อย โดยทั่วไปแล้วก็ไม่นิยมตรวจอะไรแบบนี้กัน

กลัวเกิดข้อผิดพลาด แล้วต้องทำแท้งแบบไม่ทันได้ยั้งคิด

“ใช่ แต่คุณหญิงนวิยาเธอไม่เชื่อ ยังบอกอีกว่าต่อให้มีโรคบุคลิกภาพผิดปกติแบบต่อต้านสังคม เธอก็สามารถเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนได้ แต่พอนวิยาโตขึ้นมาได้ไม่กี่ขวบ ก็อบรมสั่งสอนอย่างที่เคยพูดเอาไว้ไม่ได้ และทำให้มีคนเสียชีวิตด้วย ” คุณหญิงทารีนากระซิบกระซากให้ฟัง

วารุณีสูดหายใจลึกๆ “คุณหมายความว่า ตอนที่นวิยายังเด็ก ก็เคยฆ่าคนมาแล้ว ?”

“ไม่ใช่ฆ่าคน แต่เป็นการฆ่าแบบทางอ้อม แต่จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ฉันเองก็ไม่รู้ ได้ยินเพียงพวกคุณหญิงคุณนายเขาพูดกันเท่านั้น” คุณหญิงทารีนาส่ายหัว

วารุณีลอบกลืนน้ำลาย “ได้ยินมาเมื่อไหร่คะ ? ”

“น่าจะเมื่อสิบแปดปีก่อน” คุณหญิงทารีนาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงตอบกลับไป

วารุณีรู้สึกชาวาบไปทั่วทั้งร่าง

เมื่อสิบแปดปีที่แล้ว นวิยาน่าจะมีอายุแค่สิบขวบเท่านั้น

เด็กอายุสิบขวบ ก็สามารถทำร้ายคนให้ตายได้แล้ว ช่างน่ากลัวจริงๆ

นวิยาเป็นปีศาจแบบไหนกัน ?

“คุณหญิงทารีนา คนที่เธอทำร้ายจนตายคือใครคะ?” วารุณีถามต่อ

คุณหญิงทารีนาส่ายหัวให้อีกครั้ง“อันนี้ฉันไม่รู้จริงๆ พวกคุณหญิงคุณนายก็ไม่รู้ คุณหญิงที่พูดเรื่องนี้ ก็บอกเพียงว่าเขาบังเอิญไปได้ยินตอนที่คุณหญิงนวิยากำลังตำหนินวิยาอยู่ บอกว่าพวกเขาดีกับเธอขนาดนี้ ทำไมเธอถึงใจดำอำมหิตทำร้ายพวกเขาได้ แต่คนที่ถูกทำร้ายเป็นใคร คุณหญิงนวิยาก็ไม่ได้พูดออกมา”

“เหรอคะ ฉันทราบแล้ว ขอบคุณคุณหญิงทารีนาที่เล่าเรื่องพวกนี้ให้ฟังนะคะ ”วารุณีกล่าวขอบคุณ

คุณหญิงทารีนาโบกมือให้ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันก็ได้ยินมาอีกที จะใช่เรื่องจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้”

“ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ อย่างน้อยเราก็รู้ ว่าคนอย่างนวิยา น่ากลัวเกินไปก็พอแล้วค่ะ”วารุณีพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม แต่ในใจกลับไม่ได้ยิ้มตาม

ต้องจับตัวนวิยามาลงโทษให้ได้

คนแบบนี้หากปล่อยให้อยู่ข้างนอก มันอันตรายเกินไป

วารุณีกลับไปที่โรงพยาบาลด้วยสภาพจิตใจที่ว้าวุ่น อดไม่ได้ที่อยากจะพาลูกๆหนีไปจากตรงนี้ ไปต่างประเทศยังจะรู้สึกสบายใจมากกว่า

เรื่องที่คุณหญิงทารีนาเล่าให้เธอฟัง มันทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัว และทำให้เธออดไม่ได้ที่จะต้องเฝ้าระวังภัยอันตรายมากขึ้น

และมันทำให้จิตใจของเธอไม่อยู่กับร่องกับรอย

“วารุณี เธอเป็นอะไรไป?”ในตอนบ่าย ปาจรีย์แวะเอาผลไม้และของเล่นมาเยี่ยมเด็กๆ เมื่อเห็นวารุณีเหม่อลอย อดไม่ได้ที่จะถามไปด้วยความเป็นห่วง

วารุณีฝืนยิ้มออกมา “ฉันไม่เป็นอะไร”

“ไม่เป็นอะไรแน่นะ ฉันเห็นเธอคิ้วผูกเป็นปมเชียว หรือไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?” ปาจรีย์มองไปที่หน้าท้องของเธอ“ลูกน้อยในท้องแผลงฤทธิ์อีกรึไง?”

“ไม่ใช่”วารุณีส่ายหัว

“แล้วเธอ......”

“พอแล้วปาจรีย์ ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆ เธออยู่เป็นเพื่อนเล่นกับพวกอารัณไปก่อนนะ ฉันจะไปทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลของไอริณ” วารุณีลุกขึ้นยืนแล้วพูด

เพราะพรุ่งนี้ลูกทั้งสองคนจะเดินทางไปต่างประเทศกับเธอ ไปรักษาตัวต่อที่ต่างประเทศ ทางฝั่งนี้ก็จำต้องทำเรื่องประวัติการรักษาผู้ป่วย

วารุณีกับพงศกรต่างหันไปมอง

นัทธียืนมือล้วงกระเป๋า ขาที่เรียวยาวเดินก้าวเข้ามา จากนั้นก็คว้าไปที่แขนของวารุณี สายตาคมเข้มจ้องมองไปยังพงศกร“ ฉันเห็นแก่ที่นายคอยดูแลวารุณีและลูกๆตอนอยู่ที่ต่างประเทศ ดังนั้นเรื่องนี้ฉันจะไม่ถือสาเอาความอะไรอีก นายก็ทำตัวดีๆแล้วกัน”

พูดจบ เขาก็ละสายตาออก มองไปยังวารุณี “เราไปกันเถอะ”

วารุณีพยักหน้าให้

ทั้งสองก็เดินจากไป

พงศกรมองแผ่นหลังของพวกเขา ถอดแว่นตาออก มุมปากก็ค่อยๆยกหยักขึ้น ใบหน้าไม่หลงเหลือความรู้สึกผิด มีเพียงเงาของความน่ากลัว

ในตอนนี้เอง โทรศัพท์มือถือของพงศกรก็ดังขึ้น เขาหยิบออกมาแล้วมองดู เป็นเบอร์แปลกๆที่ไม่ได้ทำการบันทึกเอาไว้

เห็นชัดว่าเขารู้ว่าคนที่โทรเข้ามานั้นเป็นใคร กดรับด้วยใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์ “มีอะไร?”

น้ำเสียงที่แหบแห้งของนวิยาก็ดังลอดเข้ามา“พงศกร นายช่วยคิดหาวิธีส่งฉันไปต่างประเทศหน่อย ตอนนี้ทั้งจังหวัดจันทร์ถูกนัทธีปิดล้อมเอาไว้หมดแล้ว ฉันไม่มีทางหนีออกไปได้เลย ทางฝั่งตระกูลผดุงธรรมก็ส่งคนมาช่วยฉันไม่ได้ ตอนนี้ฉันหลบอยู่ใต้สะพานมาสองสามวันแล้ว จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว นายต้องหาทางส่งฉันไปต่างประเทศให้ได้”

ที่นี่เธอไม่สามารถที่จะอยู่ต่อไปได้อีกแล้ว หาถูกนัทธีจับตัวได้ เธอจบเห่แน่

มีเพียงไปต่างประเทศเท่านั้น เธอถึงจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้

“ทำไมฉันต้องส่งเธอไปต่างประเทศด้วย ? หลังจากที่เธอออกมา ฉันช่วยเหลือเธอหลบหนีการจับกุมของนัทธีก็ถือว่ามีน้ำใจมากแล้ว เธอยังจะมาขอให้ฉันช่วยเธอหลบหนีออกไปจากต่างประเทศอีกงั้นเหรอ ?”

ใบหน้าของพงศกรเต็มไปด้วยรอยยิ้มของความเย้ยหยัน

“นี่นายหมายความว่า นายจะไม่ช่วยฉันใช่ไหม ?” นวิยาแผดน้ำเสียงแหลมคมออกมา

“ไม่ช่วย ถ้าเธอจะหาคนช่วย ก็ไปหานิรุตติ์ เธอกับเขาต่างหากที่เป็นพันธมิตรกัน หรือไม่ใช่?” พงศกรสวมแว่นกลับไปอีกครั้ง แล้วพูดเสียงเรียบ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ