พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ นิยาย บท 53

"อรุณสวัสดิ์ครับ!” นิรุตติ์โบกมือให้เธอพร้อมกับส่งยิ้ม "ผมมาหาคุณโดยเฉพาะ"

"มาหาฉันมีธุระอะไรรึเปล่าครับ?" วารุณีถอดเสื้อคลุมสีขาวตัวใหญ่ออกแล้วพาดไว้บนแขน ถามด้วยความสงสัย

นิรุตติ์ยืนตรงแล้วเดินไปหาเธอ "เรื่องเมื่อวานผมได้ฟังมาหมดแล้วนะครับ ขอโทษที่ทำให้คุณต้องเดือดร้อน"

ที่แท้ก้มาขอโทษนี่เอง

วารุณีคลายความระมัดระวังที่มีต่อเขาลง ผายมือ "เรื่องมันผ่านไปแล้ว ผู้อำนวยการนิรุตติ์ไม่ต้องเก็บมาใส่ใจหรอกค่ะ"

"ไม่ได้หรอกครับ อย่างน้อยเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นเพราะผม ผมเชิญคุณ......"

"ไม่เป็นไรค่ะ" วารุณีรู้ว่าเขาจะพูดอะไร เธอรีบพูดปฏิเสธทันที

นิรุตติ์มองเธอสองวินาที ยักไหล่ด้วยความเศร้า "ถ้าอย่างนั้นก็ได้ครับ ผมอุตส่าห์จะหาข้ออ้างชวนคุณออกไปเที่ยว แต่คุณกลับไม่ให้โอกาสผมในการพูดให้จบ"

วารุณียิ้ม ไม่ได้พูดอะไร

นัยน์ตาของนิรุตติ์ฉายแสงแวววับ "พูดไปแล้ว นัทธีเองก็ผิด ในฐานะประธาน แม้แต่ลูกน้องของตนเองก็ยังดูแลไม่ได้ ยิ่งมีชีวิตก็ยิ่งไปกันใหญ่ ถ้าผมเป็นประธาน ผมไม่มีวันปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่นอน"

ฟังเขาพูดดูถูกนัทธี วารุณีขมวดคิ้วเป็นปมอย่างอดไม่ได้ ภายในใจของเธอรู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างแปลกพิลึก น้ำเสียงของเธอนิ่งสงบลงไม่น้อย "ผู้อำนวยการนิรุตติ์ คุณพูดผิดแล้วค่ะ บริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ปใหญ่ขนาดนี้ มีพนักงานมากมาย ประธานนัทธีไม่ใช่เทพสักหน่อย ถึงจะมองพนักงานทุกคนออก"

"ทำไมคุณถึงพูดเข้าข้างเขา คงไม่ใช่เพราะชอบเขาใช่ไหม?" แว่นตาของนิรุตติ์สะท้อนแสง เขาพูดขึ้น

วารุณีตกตะลึง รีบส่ายหน้าปฏิเสธ "ผู้อำนวยการนิรุตติ์พูดตลกไปได้ เป็นไปได้ยังไงคะ!”

"เหรอครับ? แต่ผมรู้สึกว่าคุณปกป้องเขา" นิรุตติ์หรี่ตาลงแล้วมองไปที่เธอ คล้ายว่าจะเปิดโปงเธอ

วารุณีถูกเขามองจนรู้สึกร้อนตัวแปลกๆ รีบหันหน้าไปทางอื่น "เพราะประธานนัทธีเป็นหัวหน้าที่พูดง่ายค่ะ"

"อย่างนี้นี่เอง......" นิรุตติ์เชยคางขึ้นแล้วลากเสียงยาว ไม่รู้ว่าเขาเชื่อหรือไม่เชื่อ

ผ่านไปพักหนึ่ง จู่ๆ เขาก็หัวเราะ "ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นคุณอย่าหวั่นไหวกับเขาเด็ดขาด ขืนเป็นแบบนั้นคุณจะเจ็บปวดมาก ข้างกายเขานอกจากพิชญาแล้ว ยังมีผู้หญิงอีกคนที่เป็นตัวปัญหาใหญ่ยิ่งกว่า"

ผู้หญิงที่เป็นตัวปัญหาใหญ่ยิ่งกว่า?

วารุณีกะพริบตาปริบ ถามขึ้น “ใครคะ?”

นิรุตติ์คล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มแล้วผายมือ ไม่มีทีท่าจะตอบคำถาม

วารุณีเพิ่งรู้ตัว ตนแสดงออกว่าสนใจมากจนเกินไปแล้ว รีบก้มหน้าลง เปลี่ยนบทสนทนา "เอ่อ ผู้อำนวยการนิรุตติ์คะ ฉันยังมีธุระขอตัวก่อนนะคะ"

"อย่ารีบร้อนสิ คุยกับผมก่อน" นิรุตติ์ดึงตัวเธอกลับไปตรงหน้า

มุมหนึ่งของโถงทางเดินที่อยู่ไม่ไกล นัทธีมองภาพที่เกิดขึ้นด้วยความไม่พอใจ มือของเขากำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว

หลังจากนั้นไม่กี่วินาที จู่ๆ เขาก็หมุนตัวหันหลัง เดินไปที่ลิฟต์

มารุตเดินตามอยู่ด้านหลัง "ท่านประธานครับ พวกเราไม่ไปแล้วเหรอครับ?"

"อืม" นัทธีหลบตามลง ซ่อนความหม่นหมองที่อยู่ในแววตา ตอบเสียงเยือกเย็น "ไม่จำเป็นต้องรบกวนพวกเขา!”

ได้ยินคำพูดนี้ มารุตอดไม่ได้ที่จะหันไปมองวารุณีที่ถูกนิรุตติ์กดเข้าที่กำแพง ถามด้วยความลังเล“ท่านประธานครับ เราจะยกเลิกสิทธิ์ในการดูแลโปรเจค‘Bath fire rebirth’ ของคุณวารุณีไหมครับ?"

"หมายความว่ายังไง?" นัทธีหยุดเดิน

มารุตเองก็ย่อมหยุดเดินเช่นเดียวกัน "เพราะคุณวารุณีมีความสัมพันธ์แบบนั้นกับคุณนิรุตติ์ อีกทั้งคุณนิรุตติ์ก็ไม่ยอมถอดใจจากบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ป ผมกลัวว่าเขาจะให้คุณวารุณีทำอะไรกับโปรเจค‘Bath fire rebirth’ครับ ถึงตอนนั้นบริษัท......"

"วารุณีไม่มีวันทำแบบนั้น!” นัทธีพูดแย้งขึ้นมา

มารุตไม่เข้าใจเล็กน้อย "ทำไมคุณถึงมั่นใจขนาดนี้ครับ?"

นัทธีเม้มปากแล้วพูด “ทันทีที่วารุณีรู้ว่านิรุตติ์จะทำเรื่องแบบนั้น ก่อนอื่นเมอร์เซเดอต้องไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่ ไม่เพียงแต่ความสัมพันธ์ของอาจารย์และลูกศิษย์จะถูกยกเลิกต่อสาธารณชน นอกจากนี้เธอยังอยู่ในวงการแฟชั่นไม่ได้อีก ผลลัพธ์นี้ วารุณีแบกรับไม่ไหว!”

อีกทั้งเขาดุออกว่า เธอให้ความสำคัญกับงานอย่างมาก ไม่ใช่คนที่จะทำลายอนาคตตนเองเพื่อความรัก

"ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง" มารุตพยักหน้าด้วยความเข้าใจ

นัทธีเอารายงานในมือตีที่ตัวของเขา "เดี๋ยวนายสั่งให้คนเอานี่ให้เธอ บอกให้เธอเลือกนางแบบแล้วส่งมา"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ