พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ นิยาย บท 813

วารุณีรับคำ “จัดการได้เลยค่ะ”

“ได้ค่ะคุณวารุณี”หมอที่อยู่ปลายสายรับคำ

จากนั้น การโทรก็สิ้นสุดลง

วารุณีวางโทรศัพท์ลง แล้วขมวดคิ้ว

ลีน่ามองเธอ ถามด้วยความสงสัยว่า “เป็นอะไร ? ทำไมคิ้วชนกันอย่างนี้ ?”

“สายที่โทรมาเมื่อกี้ เธอได้ยินแล้วใช่ไหม ?”วารุณีพูด

ลีน่าพยักหน้า “ได้ยินนิดหน่อย โสรยาเสียสติไปแล้ว ”

เธอรู้จักโสรยา ตอนการแข่งขันระดับนานาชาติ นักออกแบบที่เข้าแข่งขันกับวารุณีแล้วหามือปืนคนนั้น

แม้เธอจะไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน แต่ก็ได้ยินเชอรีนพูดถึงบ่อยๆ

และยังรู้ด้วยว่า โสรยาคนนี้ เป็นลูกสาวของแม่เลี้ยงวารุณี และยังทำเรื่องเลวร้ายกับวารุณีเอาไว้มากมาย

“ใช่”วารุณีพยักหน้าให้เล็กน้อย “เธอเสียสติไปแล้ว”

“ก็เป็นสิ่งที่เธอสมควรได้รับ ”ลีน่ายักไหล่แล้วตอบกลับ

วารุณียิ้มให้“เธอพูดถูก เขาสมควรได้รับมัน แต่ในใจของฉัน ไม่ได้มีความสุขเอาซะเลย”

“เพราะเธอจิตใจดี ดังนั้นเรื่องการใช้ความรุนแรงสำหรับเธอมันจึงไม่ใช่เรื่องน่าดีใจอะไร” ลีน่ากล่าว

วารุณีเอามือเท้าคาง “ ก็คงใช่ พอเถอะ ไม่พูดเรื่องนี้กันแล้ว ตอนนี้พิชญาก็เสียสติไปแล้ว ความแค้นของฉันกับพิชญา ก็จะได้ปล่อยวางมันลงสักที ไม่ต้องเก็บเอาไว้ในใจอยู่ตลอด จนทำให้ตัวเองต้องเหนื่อย ”

หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ความแค้นระหว่างเธอกับขยานีแม่ลูก ตั้งแต่วินาทีที่พิชญาเสียสติไป ทุกอย่างก็ได้ถูกปล่อยวางมันลง

แต่นี้ต่อไป ศัตรูของเธอก็จะได้ลดลงไปอีกหนึ่งคน

“แล้วเรื่องนี้ เธอจะบอกประธานนัทธีหรือเปล่า?” ลีน่าถาม

วารุณียกยิ้ม “ไม่ต้องหรอก ทางโน้นเขาแจ้งฉันมา ก็ย่อมต้องแจ้งไปยังนัทธีแล้ว ดังนั้นหลังจากที่นัทธีลงเครื่อง ก็น่าจะรู้เรื่องนี้แล้ว”

“นั่นสินะ” ลีน่าพยักหน้า และไม่ได้พูดอะไรอีก

ไม่นาน ก็มาถึงที่คฤหาสน์

วารุณีกับลีน่าลงจากรถ และเดินเข้าคฤหาสน์

คนใช้ได้เตรียมอาหารเย็นไว้เรียบร้อยแล้ว

ทั้งสองพากันนั่งลงที่ห้องอาหาร และทานอาหารกัน

ระหว่างมื้ออาหาร นัทธีก็วิดีโอคอลมา

เมื่อลีน่าเห็น ก็รีบตักกับข้าวใส่จาน แล้วยกหนีไปที่อื่น

พูดตามความหมายของเธอ ก็คือไม่อยากจะนั่งกินข้าวกับวารุณี มิเช่นนั้นที่ได้กินคงไม่ใช่ข้าว แต่เป็นความหวานเลี่ยนแทน

วารุณีมองตามแผ่นหลังของเธอ ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ได้แต่ส่ายหัว แล้วกดรับสายวิดีโอคอล

ทันทีที่กดรับ ใบหน้าที่หล่อเหลาของชายหนุ่มก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ

วารุณีพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ที่รักกินข้าวหรือยัง ?”

“ยังเลย คงอีกสักพัก”นัทธีมองดูนาฬิกาแล้วตอบกลับ

เวลาทางโน้นกับที่นี่ไม่ต่างกันมาก แต่ก็ต่างกันหนึ่งชั่วโมง ที่ยังไม่กินข้าวก็จึงเป็นเรื่องปกติ

“เรื่องพิชญา ผมรู้แล้ว ”นัทธีพูดขึ้นก่อน

วารุณีรู้ว่าเขาจะพูดเรื่องนี้ ยกยิ้มเล็กน้อย“พูดตามตรง ตอนที่ฉันรู้เรื่อง ก็ประหลาดใจมาก เพราะพิชญาถูกขังไว้นาน เพิ่งจะมาเสียสติเอาตอนนี้ ก็บ่งบอกได้ว่าเธอมีจิตใจที่แข็งแกร่งเพียงใด”

“แต่สถานที่แบบนั้น ต่อให้จะแข็งแกร่งแค่ไหนสุดท้ายจุดจบก็เหมือนกัน”นัทธีพูดเสียงเบา

ทั้งสองคนชนแก้วกัน จากนั้นก็รับประทานอาหารต่อ

กินไปได้สักพัก ลีน่าก็นึกอะไรขึ้นมาได้ หันมองวารุณีแล้วถามว่า“เออนี่วารุณี เรื่องปาจรีย์ เธอได้บอกประธานนัทธีหรือเปล่า?”

“เรื่องอะไรของปาจรีย์?”วารุณีวางตะเกียบลง ถามด้วยความสงสัย

ลีน่ารีบพูดตอบว่า “ก็เรื่องที่เราสงสัยกันก่อนหน้านั้นไง สงสัยว่าปาจรีย์จะถูกPUA ดังนั้นก็จึงรักพงศกร รักจนถอนตัวไม่ขึ้น”

“เรื่องนี้เองเหรอ” วารุณีนึกขึ้นได้ และพยักหน้าให้ “บอกไปแล้ว นัทธีก็รู้สึกอาการปาจรีย์ผิดปรกติ ดังนั้นก็จึงกำลังตรวจสอบอยู่ แต่ผลยังไม่ออกมา แต่ก็น่าจะเร็วๆนี้แหละ ”

“ในเมื่อประธานนัทธีเองก็ยังสงสัย ดูท่าปาจรีย์คงมีปัญหาจริงๆ” ลีน่ากล่าวพร้อมขมวดคิ้ว

ริมฝีปากแดงของวารุณีเม้มเข้าหากัน “ใช่ ตอนนี้ฉันกังวลกลัวว่าปาจรีย์จะถูกPUAขึ้นมาจริงๆ คนที่ทำPUAเธอ ต้องเป็นพงศกรแน่ๆ แม้พงศกรจะเป็นหมอสมอง แต่เขาก็เรียนจิตวิทยามา สะกดจิตเป็น ดังนั้นมีแนวโน้มที่เขาจะเป็นคนทำPUAปาจรีย์มากที่สุด”

“หากเป็นเขาจริงๆ ทำไมเขาต้องทำแบบนี้ด้วย?” ลีน่าพูดด้วยใบหน้างุนงง “เขาเกลียดปาจรีย์ไม่ใช่เหรอ ? ทำไมต้องทำให้ปาจรีย์รักเขาด้วย รักเขาจนหัวปักหัวปำ ตามหลักแล้ว เขาเกลียดปาจรีย์ ก็น่าจะทำให้ปาจรีย์ลืมเขา แล้วอย่ามาตามตื๊อเขาถึงจะถูก ? ทำไมเขาถึงทำอะไรที่มันตรงข้ามกันแบบนี้?”

วารุณีส่ายหัว“ ไม่รู้เหมือนกัน บางทีคงอาจต้องรอให้นัทธีตรวจสอบเจอก่อน แล้วถึงจะรู้คำตอบ”วารุณียักไหล่

ลีน่าเบะปาก“ก็ถูก แต่ก็เหลือเชื่อจริงๆ ไม่เข้าใจความคิดเขาเลย เออแล้วนี่ เธอกับประธานนัทธีบอกว่า พงศกรอะไรนั่นไปประเทศอเมริกาไม่ใช่เหรอ ? แล้วยังไง เขาไปที่นั่นทำอะไร ? ไปหาปาจรีย์จริงๆเหรอ ?”

“ไปที่นั่นทำไมอันนี้ก็ยังไม่รู้แน่ชัด นัทธียังไม่ได้บอกฉัน สงสัยน่าจะยังตรวจสอบไม่เจอ ไม่อย่างนั้นเขาไม่มีทางไม่บอกฉันแน่”วารุณีตักน้ำซุปกินไปคำหนึ่งแล้วกล่าว “แต่ที่พงศกรไปที่นั่น คงต้องไปหาปาจรีย์อยู่แล้ว อย่างแรกเลยปาจรีย์ไม่ได้ติดต่อกับใครในประเทศอเมริกา คนที่โน่นก็ไม่มีใครรู้ว่าปาจรีย์ไปอยู่ที่ไหน ดังนั้นพงศกรไปที่นั่นก็ไม่มีความหมายอะไร ไปที่นั่น ก็น่าจะเพราะเรื่องอื่น ”

“งั้นก็ดี หากไปหาปาจรีย์ ปาจรีย์เห็นเขาเข้า ก็จะคิดถึงเขาอีก เรื่องคงวุ่นวายอีกแน่” ลีน่าถอนหายใจ

ความรักควรเป็นสิ่งที่สวยงาม

แต่พอได้เห็นปาจรีย์รักใครสักคนแล้วต้องเจ็บปวดแบบนี้ เธอรู้สึกว่า ความรักมันก็ไม่ได้สวยงามเสมอไป หนำซ้ำยังทุกข์ระทมอีกด้วย

ความรักของปาจรีย์ มันคือความระทมทุกข์

นี่คือความเศร้าเสียใจในการที่เลือกรักคนผิด

ดังนั้นในชีวิตของผู้หญิงเรา สู้ไม่รักใครเลย หรือหากจะรักก็ต้องรักคนที่ควรค่าแก่การรัก มันคือความเจ็บปวดตลอดชีวิต ไม่อาจที่จะหลุดพ้น สุดท้ายก็มีบาดแผลเต็มตัว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ