“คุณอย่าไปขอร้องเขา !”คุณพ่อประสิทธิ์ดึงคุณแม่ปารวีไปไว้ด้านหลัง ชี้ไปยังพงศกรแล้วยิ้มเยาะ“ คนแบบนี้เลือดเย็นและไร้หัวใจ ใช่ว่าคุณไปขอร้องเขา แล้วเขาจะปล่อยเราไป หากเขาคิดจะปล่อยเราไปจริงๆ เขาปล่อยไปนานแล้ว ไม่กัดไม่ปล่อยอยู่แบบนี้หรอก”
ริมฝีปากคุณแม่ปารวีขยับไปมา ก้มศีรษะลงอย่างเศร้าโศก
ใช่ สามีพูดถูก
หากพงศกรหวั่นไหวง่ายขนาดนั้น จะตามพวกเขาอยู่แบบนี้ทำไม?
พงศกรมองไปยังคุณพ่อประสิทธิ์กับคุณแม่ปารวีที่มองเขาด้วยสายตาที่เกลียดชัง ในใจรู้สึกหวาดกลัวลุกลี้ลุกลนอย่างอธิบายไม่ถูก และยังรุนแรงมากขึ้นอีก
อีกทั้งยังทำให้เขารู้สึกทำอะไรไม่ถูกไปด้วย
เมื่อก่อน เขาไม่เคยเห็นสายตาแบบนี้ของพวกเขาเลย แต่เขารู้ ว่าพวกเขาก็ไม่ค่อยจะพอใจเขา เพราะเขาเกลียดชังพวกเขา และไม่เคยทำดีกับปาจรีย์ แต่พวกเขาก็ไม่เคยมองเขาด้วยสายตาที่เกลียดชังแบบนี้
ตอนนี้เมื่อเห็นสายตาของพวกเขาแบบนี้ ตามหลักแล้ว เขาควรจะมีความสุข เพราะตัวเองได้ทำให้ศัตรูต้องตกที่นั่งลำบากแบบนี้ได้
มีเพียงได้เห็นศัตรูต้องจนตรอก ถึงจะเผยให้เห็นสายตาที่เกลียดชังจนอยากให้ตายแบบนี้
แต่ตอนนี้ แทนที่จะรู้สึกมีความสุข เขากลับรู้สึกอึดอัด อีกทั้งไม่อยากเห็นภาพของพวกเขาที่มองเขาแบบนี้
พงศกรกำหมัดแน่น ริมฝีปากบางเหยียดเป็นเส้นตรง“ พวกคุณฆ่าพ่อแม่ของผม ผมยังไม่ได้ล้างแค้นเอาคืนเลย ดังนั้นทำไมผมจะตามจองล้างจองผลาญพวกคุณไม่ได้”
คุณแม่ปารวีเบี่ยงหน้าหนีอย่างเจ็บปวดใจ
คุณพ่อประสิทธิ์ฟังที่เขาพูด รู้สึกราวกับได้ยินเพียงเรื่องที่น่าขำที่สุด เสียงหัวเราะเต็มไปด้วยความเสียใจและเศร้าโศก“พงศกร เมื่อก่อนเห็นแกยังเด็ก เห็นแก่ที่ปาจรีย์รักแก แกคิดว่าพวกเราเป็นคนฆ่าพ่อแม่ของแก แม้เราจะรู้สึกเสียใจ แต่ก็ไม่อยากจะถือสาอะไรแก เพราะยังไงพวกเราก็เห็นแกเหมือนลูกคนหนึ่ง แต่ตอนนี้ฉันไม่ถือสาไม่ได้แล้ว ตั้งแต่ที่แกย่ำยีความรักที่ปาจรีย์มีให้ ตั้งแต่ที่แกพาปาจรีย์ไปทำแท้ง สำหรับพวกเราแล้ว แกก็ไม่ใช่เด็กน้อยที่ร่าเริงคนนั้นอีกต่อไป แต่แกมันเป็นปีศาจ!”
ปีศาจ?
รูม่านตาพงศกรหดเกร็ง
ไม่น่าเชื่อ คุณพ่อประสิทธิ์จะเปรียบเขาแบบนี้ เห็นเขาเป็นปีศาจ !
คุณพ่อประสิทธิ์ไม่รู้ว่าคำว่าปีศาจของตัวเอง จะทำให้พงศกรรู้สึกไม่สงบ เขายื่นมือที่สั่นเทาออกมา ชี้ไปยังพงศกร“ชีวิตนี้ของฉัน ไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ได้ทำลงไป แต่ตอนนี้ ฉันรู้สึกเสียใจมาก หากรู้ว่าตระกูลจิรดำรงค์ต้องทนทุกข์ขนาดนี้ ตอนนั้นฉันไม่น่าไปช่วยตระกูลฉัตรวิไลของแกเลย ไม่ควรใจอ่อนในตอนที่พ่อแม่แกติดต่อมา หากฉันไม่ช่วยพวกแก การตายของพวกแก ตระกูลจิรดำรงค์ของเราก็ไม่ต้องมามีส่วนเกี่ยวข้อง ปาจรีย์ก็จะไม่ตกหลุมรักแก เธอจะหาความสุขของตัวเองเจอ ได้แต่งงานกับผู้ชายที่รักเธอ แต่เป็นเพราะแก มีชีวิตที่ทุกข์ทรมาน และหากไม่ใช่เพราะแก พวกเราก็คงไม่ต้องมีชีวิตอยู่อย่างวิตกกังวลมากว่าสิบปีแบบนี้ ”
เมื่อได้ยินคำพูดของคุณพ่อประสิทธิ์ สีหน้าของพงศกรก็แน่นิ่งไป รอบๆบริเวณทำเอาหายใจติดขัดไปหมด
ไม่ช่วยเหลือพวกเขา ปาจรีย์ไม่ตกหลุมรักเขา ? แต่งงานกับคนที่รักเธอ ?
หมายถึงรพีเหรอ ?
กำลังครุ่นคิดอยู่ ก็มีเสียงใสๆ ดังลอดผ่านทางด้านหลังของคุณพ่อประสิทธิ์กับคุณแม่ปารวี “พ่อค่ะ แม่ค่ะ กำลังคุยอะไรกันอยู่คะ?”
ปาจรีย์!
พงศกรฟังออกในทันทีว่าเจ้าของเสียงนี้เป็นใคร ดวงตาหรี่ลง จ้องมองไปยังด้านหลังของคุณพ่อประสิทธิ์กับคุณแม่ปารวี
คุณพ่อประสิทธิ์กับคุณแม่ปารวีสังเกตเห็นสายตาของเขา สีหน้าก็เปลี่ยนในทันที
พวกเขาในตอนนี้ไม่เพียงกังวลกลัวว่าพงศกรจะทำร้ายปาจรีย์ แต่ยังกังวลกลัวว่าปาจรีย์จะเห็นพงศกร แล้วฟื้นความจำทั้งหมดที่มีต่อพงศกรขึ้นมาอีก
ดังนั้นไม่ว่ายังไง พวกเขาจะให้ปาจรีย์เห็นพงศกรไม่ได้เด็ดขาด
หลังจากที่คุณพ่อประสิทธิ์กับคุณแม่ปารวีมีความเห็นตรงกัน คุณพ่อประสิทธิ์ก็ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง กั้นประตูเอาไว้
และคุณแม่ปารวีก็หันหลังกลับ เตรียมที่จะพาปาจรีย์ที่กำลังจะเดินออกมากลับเข้าไป ไม่ให้เธอออกมา
พงศกรเห็นจุดประสงค์ของคนทั้งคู่ ดวงตาก็ฉายแววเยาะเย้ย
ไม่อยากให้ปาจรีย์เห็นเขา ?
เหอะ เขาจะให้พวกเขาสมหวังได้ยังไง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...