เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ คุณพ่อประสิทธิ์ก็ไม่สามารถยับยั้งความโกรธได้ เขาจึงยกเท้าขึ้นเตะพงศกรอย่างแรง และตะโกนด้วยเสียงแหบแห้ง “ทั้งหมดเป็นเพราะแก แกทำร้ายลูกสาวฉัน แกควรจะตายไปตั้งหลายปีแล้ว แกไม่ควรที่จะมีชีวิตรอด แกรอดมา ก็มาทำร้ายลูกสาวฉัน ฉันเสียใจจริง ๆ ทำไมตอนนั้นฉันถึงช่วยพวกแกไว้ ทำไมกัน!”
ความรู้สึกของคุณพ่อประสิทธิ์พังทลาย เขาเตะไปที่พงศกร เตะแล้วเตะอีก สิบกว่าปีที่กล้ำกลืนความไม่เป็นธรรม สิบกว่าปีที่ยากเย็นเข็ญใจ เขาต้องการระบายออกมาทั้งหมด
ทว่าพงศกรที่กองอยู่ที่พื้นไม่ได้ต่อต้านตั้งแต่ต้นจนจบ เพียงปกป้องแค่ศีรษะของตัวเองเท่านั้น
คำพูดของคุณพ่อประสิทธิ์เมื่อครู่ ที่ว่า "แกควรจะตายไปตั้งหลายปีแล้ว " ทำให้จิตใจเขากระสับกระส่าย
ที่แท้ ไม่เพียงแต่เขาที่เกลียดพวกเขา พวกเขาก็เกลียดชังตัวเขาเช่นเดียวกัน เกลียดจนอยากให้เขาตายในตอนนั้น จะได้ไม่ต้องมีชีวิตรอดมาทำร้ายลูกสาวเขาอีก
เขาผิดจริง ๆ หรือ?
พงศกรมองไปยังปาจรีย์ที่อยู่หลังประตูผ่านช่องว่างในอ้อมแขนของเขา มองเธอที่กำลังปิดใบหน้าและร้องไห้เพราะตำหนิตัวเอง จากนั้นเขาก็มองไปยังคุณพ่อประสิทธิ์ที่กำลังเสียใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ เป็นครั้งแรกที่ใจได้คิดทบทวน ทบทวนเขาว่าเกลียดคนผิดหรือไม่
ที่ผ่านมา เขาเชื่อมั่นมาโดยตลอดว่าเขาไม่ได้เกลียดคนผิด และไม่มีทางที่จะเกลียดคนผิด ถึงอย่างไร ที่พ่อแม่ของเขาต้องตายในตอนนั้น ก็เป็นเพราะพวกเขาเป็นคนเปิดเผยที่อยู่ของพ่อแม่เขา
แต่ในทางกลับกัน ก็เป็นดังที่นัทธีกับนิรุตติ์บอก หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลจิรดำรงค์ พ่อแม่ของเขาก็คงไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกระยะหนึ่ง ทว่าตระกูลอิสริยานนท์ของพวกเขาถูกฆ่าตายไปแล้ว เขาก็ไม่ควรที่จะมีชีวิตต่อ
นัทธีบอกว่า ตระกูลจิรดำรงค์เป็นแค่คนธรรมดา พวกเขาไม่รู้ว่าตนเองกำลังถูกสะกดรอยตาม จึงเปิดเผยที่อยู่ของครอบครัวเขา
ทว่าเขากลับไม่ได้มองในจุดนี้ คิดแค่ว่าที่อยู่ของครอบครัวตนเองถูกเปิดเผยโดยตระกูลจิรดำรงค์ ดังนั้นนัทธีถึงบอกว่าเขาจึงเกลียดมันโดยไม่มีเหตุผล
คุณพ่อประสิทธิ์บอกว่าเขาเป็นคนอกตัญญู บอกว่าเขาเนรคุณ เขาเป็นคนแบบนั้นจริง ๆ หรือ?
พงศกรหลับตาลง ฝืนทนความเจ็บปวดบนร่างกาย ไม่ส่งเสียงร้องใด ๆ
ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าใด เขารู้สึกว่าตัวเองเริ่มที่จะทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว สายตาของเขาค่อย ๆ เลือนราง
เขารู้ดีว่าเขาทนไม่ไหวจนจวนจะหมดสติแล้ว
ทว่าเขายังคงไม่ได้ร้องขอให้คุณพ่อประสิทธิ์หยุด ยังคงปล่อยให้ตนเองถูกตี
ในตอนนี้เขาคิดแค่ว่า ตีมาเถอะ บางทีการปล่อยให้คุณพ่อสิทธิ์ทุบตี เขาอาจจะได้คำตอบก็ได้ คำตอบที่ว่า สรุปแล้วตัวเขาเองผิดจริงหรือไม่
พงศกรหลับตาลงและปล่อยมือที่กุมศีรษะไว้
ปาจรีย์ที่อยู่ตรงประตูเห็นฉากนี้ ใบหน้าของเธอแปรเปลี่ยนไป พลันตะโกนบอกคุณพ่อประสิทธิ์ว่า "คุณพ่อ หยุดเถอะค่ะ!"
คุณพ่อประสิทธิ์ได้ยินเสียงของลูกสาว จากที่เดือดดาลก็ค่อย ๆ ได้สติกลับมา และหยุดการกระทำลง
เขาหันไปมองลูกสาวที่เดินเข้ามาอย่างลุกลี้ลุกลน แล้วเม้มปากอย่างไม่พอใจ “ปาจรีย์ ลูกคงไม่ได้สงสารมันหรอกใช่ไหม?”
เขาชี้ไปยังพงศกรที่กองอยู่กับพื้น
ปาจรีย์สั่นศีรษะ “ไม่ใช่นะคะคุณพ่อ ถ้าหนูสงสารเขา หนูคงห้ามไม่ให้คุณพ่อตีเขาตั้งแต่แรกแล้วละค่ะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของคุณพ่อประสิทธิ์ก็ดีขึ้นมาก
พงศกรที่บาดเจ็บไปทั้งตัวหลับตาอยู่ที่พื้น แต่จิตใจกลับจมดิ่ง
จริงสิ ตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาถูกคุณพ่อประสิทธิ์ทุบตี เธอควรจะห้ามสิ
เพราะเธอรักเขา บวกกับการสะกดจิตของเขา เธอไม่มีทางที่จะมองดูเขาโดนตี
อย่างไรก็ตาม เธอไม่เคยเอ่ยปากบอกให้คุณพ่อหยุดตั้งแต่ต้นจนจบ แต่พอรู้ว่าเขาเริ่มจะทนไม่ไหว เธอถึงจะบอกให้หยุด และในตอนที่เธอพูดถึงเขา น้ำเสียงของเธอไม่มีแม้แต่ความรักความห่วงใย สิ่งนี้ก็ทำให้เขาเข้าใจว่าเธอไม่ได้รักเขาและลืมเขาไปแล้วจริง ๆ แม้แต่การที่เขาสะกดจิตเธอก็ไม่มีผล
เมื่อตระหนักถึงจุดนี้ ในใจของพงศกรก็รับไม่ได้
เขารับไม่ได้ที่เธอไม่รักเขา รับไม่ได้ที่เธอลืมเขา
เธอมีสิทธิ์อะไรถึงลืมเขา เธอเคยบอกว่าเธอจะรักเขาตลอดไป แล้วเหตุใดเธอถึงไม่รัก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...