นัทธีวางมือบนศีรษะของลูกคนละข้าง มองดูไปทางวารุณี กระตุกมุมปากขึ้นแล้วพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “หม่ามี๊ของพวกลูกฉลาดมากขนาดนั้น แค่ให้คำใบ้เธอนิดหน่อย เธอก็จะเดาได้ทันทีว่าสุขใจอยู่ตรงนี้”
ถึงเมื่อเขาไม่ให้คำใบ้เธอ สุดท้ายเธอก็จะรู้ได้เองว่าสุขใจอยู่ที่นี่
เพียงแค่ เวลาอาจช้าหน่อยเท่านั้น
อารัณรีบพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “คุณพ่อพูดถูกครับ หากหม่ามี๊ไม่ฉลาด ก็คงกำเนิดลูกที่ฉลาดแบบผมไม่ได้”
“พี่ชายนี่หลงตัวเองจริงๆนะคะ ” ไอริณมองตาขวางใส่เขา
อารัณเบิกตากว้าง “น้องกล้าบอกว่าพี่หลังตัวเองเหรอ อีกอย่าง น้องรู้คำว่าหลงตัวเองมาจากไหน” ไอคิวของไอริณจะเหมือนเด็กทั่วไป เพียงแต่แขนขาของเธอมีการเจริญเติบโตได้ดีเท่านั้น
ดังนั้นการที่ไอริณสามารถพูดคำว่าหลงตัวเองออกมาได้ เขาประหลาดใจเป็นอย่างมาก
ไอริณกะพริบตาแล้วพูด “โค้ชพูดค่ะ โค้ชบอกว่าคนที่ชอบชมตัวเอง นั้นเป็นการหลงตัวเอง แม้การฝึกซ่านโฉ่วของวังเตจะทำได้ไม่ดีเท่าหนูแต่เขาก็ชอบบอกว่าเขาฝึกได้ดีที่สุด ดังนั้นโค้ชจึงบอกเขาหลงตัวเอง”
อารัณกระตุกมุมปาก“ไอริณ คำนี้เธอต้องรีบลืมมันไปซะ”
“ทำไมคะ” ไอริณถามอย่างสงสัย
อารัณยืดอกขึ้นแล้วพูด “เพราะวัยของเธอไม่เหมาะกับการใช้คำพวกนี้”
“แต่พี่คะ พี่ก็อายุเท่ากับหนูไม่ใช่เหรอคะ”
“พี่ไม่เหมือน” อารัณหึอย่างภาคภูมิใจ “น้องยังเป็นนักเรียนอนุบาล พี่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแล้ว อายุจิตใจของพวกเรามันต่างกัน”
เขาทำท่าสูงมาก “อายุจิตใจพี่ สูงกว่าน้องเยอะแบบนี้เลย”
ไอริณเบะปาก “ปกติพี่ก็เหมือนหนูไม่ใช่เหรอคะ ไม่เห็นอายุจิตใจพี่จะสูงไปถึงไหนเลย”
“ฮ่าๆๆ” เมื่อได้ลูกทั้งสองโต้เถียงกัน นัทธีก็อดที่จะขำไม่ได้ หลังจากก็ส่ายหัวอย่างทำอะไรไม่ได้
ก็จับมือลูกทั้งสองคนไว้ “พอได้แล้ว หยุดพูดเรื่องพวกนี้ พวกเราไปดู หม่ามี๊กับสุขใจดีกว่านะ”
“ได้ค่ะ ไปดูน้องกัน” ไอริณเมื่อได้ยินว่าจะไปดูสุขใจ ก็ดีอกดีใจขั้นมาทันที
เธอชอบน้องชายมากจริงๆ
อารัณก็เป็นเช่นนั้น รีบพยักหน้า แล้วดึงมือนัทธีไปทางนั้น “คุณพ่อ พวกเรารีบไปกันเถอะครับ
นัทธีอือตอบ พาลูกสองคนไปทางที่วารุณีอยู่
ในขณะนี้ วารุณเดินมาอยู่หน้าประตูที่ปิดสนิทแล้ว เธอยื่นมือไปจับลูกบิดประตู แล้วหายใจเข้าลึกๆ พยายามที่กลั่นไม่ให้หัวใจเต้นเร็ว หลังจากก็บิดแรงๆ เปิดประตูออก ภายในห้องมืดเล็กน้อย เป็นเพราะไม่ได้เปิดไฟ
แต่วารุณีไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เธอได้กลิ่นน้ำนมจากภายในอากาศ ที่มันชัดเจนยิ่งขึ้น
กลิ่นนี้ ยิ่งทำให้เธอมั่นใจมากขึ้น ว่าสุขใจอยู่ที่นี่
เมื่อคิดแล้ว ลมหายใจวารุณีร้อนรนขึ้นอีกครั้ง เธอยกมือขึ้น เปิดไฟที่อยู่ข้างประตู
ไม่นาน ไฟส่องสว่างทั่วห้อง
วารุณีเห็นข้างเตียงใหญ่ในห้อง มีเปลเด็กสีน้ำเงินหรูอยู่เตียงหนึ่ง
เมื่อมองผ่านราวเปล เธอสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าในเปลมีบางอย่างนูนขึ้น
เธอรู้ว่านั้นคือสุขใจ
มือทั้งสองของวารุณีกำไว้แน่ เพราะความร้อนรนภายในใจ ทำให้ร่างกายไม่สามารถหยุดสั่นได้
ในเวลาเดียวกัน ขาทั้งสองข้างที่สั่นของเธอ ก็ก้าวเดินไปทางเปลเด็กด้วยความสั่น
เมื่อเดินไปถึงข้างเปลเด็ก วารุณีก้มหน้ามอง เป็นไปอย่างที่คาดไว้ ข้างในมีเด็กคนหนึ่ง กำลังหลับตาพริ้ม นอนอย่างสบาย
แม้หน้าตาเด็กน้อย จะแตกต่างจากสุขใจเมื่อเดือนกว่าที่เธอเคยเห็น แต่เธอรู้ ว่านี่คือสุขใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...