พงศกรเห็นใบหน้าบูดบึ้งของเธอ ดันแว่นตาที่อยู่บนสันจมูก “คุณเป็นอะไร? ใครทำให้คุณไม่พอใจเหรอ?”
เขามองออกอย่างรวดเร็วว่าเธอไม่พอใจ
วารุณียักไหล่ “จะเป็นใครไปได้อีก ก็นัทธีกับลีน่านั่นแหละ ”
พงศกรเลิกคิ้ว “พวกเขาทำอะไรให้คุณไม่พอใจกัน?”
“ นาน่าให้ของขวัญฉันมาชิ้นหนึ่ง ลับลมคมในมาก แต่กลับไม่ยอมบอกฉันว่าคือของขวัญอะไร ฉันอยากจะแกะดู เธอก็ไม่อนุญาต ให้ฉันกลับห้องก่อนค่อยดู ปรากฏว่าหลังจากถึงห้องแล้ว ของขวัญก็ถูกนัทธีแกะออก หลังจากนัทธีดูแล้ว ก็ไม่ยอมบอกฉันเหมือนกับนาน่าว่าข้างในคืออะไร และไม่ให้ฉันดูด้วย คุณว่าสองคนนี้แปลกไหม ”วารุณีนวดระหว่างคิ้วแล้วตอบ
พงศกรพยักหน้า “ก็แปลกอยู่บ้าง ว่าแต่สีหน้าตอนที่พวกเขา ขัดขวางคุณเป็นยังไงเหรอ? ถ้าไม่ใช่สีหน้าที่จริงจังหรือเคร่งขรึมมาก งั้น ก็อธิบายได้ว่าของขวัญไม่มีปัญหาอะไร การที่ไม่อยากให้คุณดู ก็คงจะมีเหตุผลอะไรบางอย่าง”
“สีหน้างั้นเหรอ” วารุณีวางนิ้วชี้บนแก้มแล้วครุ่นคิด “สีหน้าไม่ได้เคร่งขรึม เพียงแค่มีลับลมคมในมาก ส่วนนัทธีนั้น เขาเป็นคนที่เดาใจยาก ดังนั้นฉันเองก็ดูไม่ออก ว่าภายใต้ความลับลมคมในของเขานี้ คิดอะไรอยู่กันแน่ แต่สำหรับนาน่านั้นฉันพอดูออกนิดหน่อย เธอเจ้าเล่ห์มาก”
“เจ้าเล่ห์?” พงศกรเริ่มเกิดความสนใจขึ้นมา
วารุณีพยักหน้า “ใช่แล้ว เจ้าเล่ห์มาก ตอนที่มอบของขวัญให้ฉัน บอกว่าเป็นสิ่งที่ช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ของฉันกับนัทธี ตอนที่พูดและแสดงออกทางสีหน้าที่แสนเจ้าเล่ห์นั้น แค่เห็นฉันอยากจะตีเธอแล้ว ขนลุกไปทั้งตัวเลย”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเธอ พงศกรก็ยิ้มอย่างทันที “งั้นผมรู้แล้วว่าของขวัญคืออะไร”
สิ่งที่พัฒนาความสัมพันธ์ แถมยังเจ้าเล่ห์ขนาดนั้น แล้วยังไม่ให้เธอดูในที่สาธารณะ ต้องกลับไปดูที่ห้องอีก
งั้นสิ่งของที่ว่าก็มีเพียงแค่ของพวกนั้นแหละ
วารุณีไม่รู้ว่าพงศกรกำลังคิดอะไรอยู่ ดวงตาของเธอเปล่งประกายขึ้น มองไปทางเขาและถามขึ้นอย่างรีบร้อนว่า “หืม? คุณรู้แล้วงั้นเหรอ? งั้นคุณรีบบอกฉันมา ตกลงว่าคืออะไรกันแน่?”
แว่นตาของพงศกรสะท้อนแสง "ขอโทษนะวารุณี ผมไม่สามารถบอกคุณได้ ในเมื่อพวกเขาต่างก็เก็บเป็นความลับ ผมไม่สามารถทำลายแผนการของพวกเขาได้ โดยเฉพาะประธานนัทธี ถ้าประธานนัทธีรู้ว่าผมบอกคุณไป เขาไม่ปล่อยผมไปแน่ๆ ดังนั้นคุณคิดหาวิธีเอาเองนะ”
พูดจบ เขาดันแว่นตาขึ้นอีกครั้ง
หลังจากวารุณีฟังเขาพูดจบ ความคาดหวังบนใบหน้าก็แข็งทื่อลงทันที และในที่สุดสีหน้าก็ไร้ความรู้สึก “ทำไมคุณถึงเป็นแบบนี้ไปด้วย? ตกลงว่าพวกคุณปิดบังอะไรฉันกันแน่? มันมีอะไรน่าปิดบังฉันกัน! "
เธอไม่เข้าใจเลยสักนิด
พงศกรตอบกลับแค่ประโยคเดียว “คุณยังไร้เดียงสาและอ่อนหัดในด้านความรักเกินไป”
“หมายความว่ายังไง” วารุณีตะลึงงันไปครู่หนึ่ง เห็นได้ชัดว่าไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูด
พงศกรแบมือ “ คุณจะเข้าใจความหมายนั้นเอง หลังจากคุณรู้ว่าของขวัญคืออะไร เอาล่ะ ผมจะไปแล้ว”
เขาถือกระเป๋าที่อยู่ในมือขึ้น
ในขณะนั้นสายตาของวารุณีก็ถูกดึงดูดด้วยการกระทำของเขา
สายตาของเธอหยุดอยู่บนกระเป๋าในมือของเขา และถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ “คุณจะออกไปข้างนอกเหรอ?”
พงศกรตอบรับไปคำหนึ่ง “ออกไปทำธุระนิดหน่อย คืนนี้ก็กลับมาแล้ว คุณยังแจ้งฝ่ายครัวให้ต้อนรับผมด้วยไม่ใช่เหรอ?”
วารุณีตอบยิ้มๆ “ใช่แล้ว”
“ดังนั้นแล้วผมจะพลาดได้ไง!”
“ที่พูดมาก็ถูก” วารุณีทัดผมที่อยู่ข้างหู “โอเค งั้นคุณไปเถอะ ฉันจะให้คนขับรถไปรับส่งคุณ คืนนี้ก็กลับมาเร็วหน่อยนะ”
“โอเค” พงศกรไม่ได้ปฏิเสธน้ำใจของเธอ พยักหน้าตอบตกลง
วารุณีหยิบโทรศัพท์ออกมา และส่งข้อความหาบิ๊ก
บิ๊กตอบกลับอย่างรวดเร็ว
หลังจากเห็นข้อความที่ตอบกลับ วารุณีเก็บโทรศัพท์และบอกกับพงศกรว่า “บิ๊กอยู่ข้างนอกแล้ว คุณไปเถอะ”
“งั้นผมไปแล้วนะ เจอกันคืนนี้” พงศกรโบกมือ
วารุณียิ้มและตอบรับ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...