เฟิ่งชิงหัวมองไปยังเลือดชามนั้นครู่หนึ่ง เลือดนั้นค่อนข้างแดงอย่างประหลาดอยู่เล็กน้อย แถมยังแฝงกลิ่นที่น่าหลงใหลไว้ด้วย ไม่มีกลิ่นคาวเลือดเลย แฝงไว้ด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้จางๆ ไว้ด้วย
เฟิ่งชิงหัวดึงเอาเข็มเงินออกมาหนึ่งอัน ทิ่มเข้าไปยังปลายนิ้วของตนเองครู่หนึ่ง จากนั้นบีบเอาเลือดออกมาหนึ่งหยด แล้วหยดลงไปในน้ำเลือดชามนั้น
ก็เห็นว่าเมื่อหยดเลือดลงไปในชามนั้น ก็เกิดเป็นเสียงดัง “เพ้ง” เบาๆ
แล้วเรื่องที่น่าประหลาดใจก็เกิดขึ้นอีก เมื่อเห็นเลือดของเฟิ่งชิงหัวหยดเขาไป รอบๆ ชามสั่นเป็นระลอกคลื่นเล็กๆ เบาๆ ขึ้นมา จากความเป็นระลอกคลื่นแล้วก็สงบลง เลือดนั้นก็แปรเปลี่ยนสีสันสดใสฉูดฉาดขึ้นมา กลิ่นหอมก็ค่อยๆ กระจายออกไป
เฟิ่งชิงหัวดึงเอาท่อเส้นเล็กออกมาหนึ่งเส้น พลางทิ่มเข้าไปในเส้นเลือดของหนานกงลู่ซิ่ว และอีกด้านหนึ่งก็พลางใส่เข้าไปในชามไม้
คราวนี้ท่านน้าสุ่ยมองมายังลูกสาวของตนอย่างเป็นกังวลใจ ดูลุกลี้ลุกลน และก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับการกระทำของเฟิ่งชิงหัวอยู่แล้ว พอรู้สึกตัวว่าชามได้ถูกเอาออกจากมือไป จึงดึงสติกลับมาได้
เลือดชามนั้นถูกนางวางไปยังที่สูง ท่อเล็กอันนั้นกำลังสูบเลือดเข้ามาในร่างของหนานกงลู่ซิ่วไม่หยุด
เฟิ่งชิงหัวดึงเข็มเงินออกจากหน้าอกของหนานกงลู่ซิ่ว เส้นหลอดเลือดที่หยุดขยับไปนานมากแล้วก็ฟื้นกลับมาขยับใหม่อีก เริ่มกระตุกขึ้นมา
“ครอก ครอกๆ” หนานกงลู่ซิ่วไอสำลักออกมาครู่หนึ่ง ราวกับว่าในลำคอมีของอะไรบางอย่างติดอยู่ก็ว่าได้
“ลูก เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? ยังจำแม่ได้ไหม?” ท่านน้าสุ่ยขยี้ตา และจะร้องไห้ออกมาอีกแล้ว
หนานกงลู่ซิ่วไม่ได้ตอบนาง แต่กลับมองนางอยู่ แล้วก็กล่าวออกมาอย่างฉุกละหุกว่า: “พระชายา ข้าพบว่า......”
เฟิ่งชิงหัวรีบพูดขัดนางขึ้นมาทันที: “อะไรก็ไม่ต้องพูด ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะพูดได้ เจ้าพักผ่อนให้สบายใจ เดี๋ยวข้าจะมาหาเจ้าเอง”
หนานกงลู่ซิ่วพยักหน้าอย่างอ่อนแรง จากนั้นก็หลับตาลง แล้วก็หลับอย่างไม่รู้ตัวไปอีก
ท่านป้าสุ่ยกำลังจะพูด แต่กลับถูกเฟิ่งชิงหัวขัดจังหวะขึ้น: “ท่านน้าสุ่ย อยากให้ลูกสาวของท่านมีชีวิตอยู่ต่อไปไหม?”
ท่านน้าสุ่ยรีบพยักหน้าทันที: “ลูกสาวของข้าเป็นยังไงบ้างแล้ว?”
“อยากให้บุตรสาวของท่านกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เช่นนั้นแล้ววันนี้ที่ท่านเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง รวมทั้งเรื่องที่บุตรสาวท่านรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาด้วย ท่านห้ามบอกเรื่องเหล่านี้กับผู้ใดเป็นอันขาด รวมทั้งหนานกงจี๋ด้วย” เฟิ่งชิงหัวกล่าวออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง
“ทำ ทำไม ข้า”
“ท่านคิดว่าทำไมบุตรสาวของท่านจึงกลายเป็นเช่นนี้ อีกทั้งทำไมถึงถูกหนานกงจี๋นำตัวมาได้? บุตรสาวของท่านนั้นก่อนที่นางจะจากไปได้มอบจดหมายไว้ให้ข้าฉบับหนึ่ง บอกว่าตนเองนั้นถูกหนานกงจี๋พาตัวไป ท่านจะมั่นใจได้ยังไงว่าหากลูกสาวของท่านรู้สึกตัวขึ้นมาแล้วจะไม่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นอีกครั้ง?”
“จะเป็นไปได้อย่างไร นั่นคือท่านพ่อแท้ๆ ของนาง นางจะไร้หัวใจตัดความรู้สึกทางสายเลือดไปได้ยังไง?” ท่านน้าสุ่ยส่ายหน้าไม่หยุด
“ไร้หัวใจงั้นหรือ? ท่านคิดว่าหนานกงจี๋มีคุณสมบัติเป็นพ่ออย่างนั้นหรือ? ท่านคิดว่าว่าจวนเฉิงเซี่ยงแห่งนี้ คุณหนูใหญ่ ข้าและบุตรสาวของท่าน จนแล้วจนรอด เขาเคยใส่ใจใครจริงๆ บ้างไหม?”
ท่านน้าสุ่ยเม้มปาก และไม่ได้กล่าวอะไรออกมานานมาก หลังจากผ่านเวลาไปชั่วขณะหนึ่งนางก็กล่าวว่า: “พวกเจ้าไม่ว่าใครจะพูดอะไรก็ตามข้าล้วนไม่เชื่อทั้งนั้น ข้าเชื่อเพียงลูกสาวของข้าเท่านั้น เว้นเสียแต่ลูกสาวของข้าจะฟื้นขึ้นมา”
เฟิ่งชิงหัวพยักหน้า: “ได้ งั้นก็ก่อนหน้าที่บุตรสาวของท่านจะฟื้นขึ้นมา ท่านก็อย่าได้พูดอะไรเลย ห้ามทำอะไรเลย คนอื่นถามอะไรท่านก็พูด”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว
จะอัพเรื่องนี้ต่อไปมั้ยค่ะ😭...
เรื่องนี้หายไปนาน...