เฟิ่งชิงหัวเดินตรงมาตลอดทาง ตามทางด้านนั้นแล้วได้มีการพิจารณาแล้วว่านี่ก็คือด้านที่จะไปสู่ใจกลางทะเลสาบ สำหรับเสียงหายใจที่เพิ่งได้ยินเมื่อครู่นั้น คนผู้นั้นน่าจะอยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก
ในใจของเฟิ่งชิงหัวกำลังคิดเดาอยู่ว่าคนที่ถูกกักขังอยู่ที่นี่ที่แท้แล้วเป็นใครกันแน่ แต่ไม่ว่าจะคิดยังไงก็ไม่มีเบาะแสอะไรเลย
สำหรับหนานกงจี๋ผู้นี้ เฟิ่งชิงหัวนับไม่ได้ว่าสนิทคุ้นเคย แม้แต่ความสัมพันธ์ของเขากับท่านแม่ของนางก็ยังเป็นพวกผู้อาวุโสที่เป็นคนบอกให้ทราบเลย รู้แต่เพียงว่าเขาก็คือผู้มีพรสวรรค์ในชนบทคนหนึ่งที่ไล่ตามสอบเข้ามายังพระนคร หลังจากผ่านการสอบติดแล้วก็ได้รับการรับเลือกจากราชสำนักให้เป็นจองหยวน ตั้งแต่นั้นมาชีวิตก็เหมือนกับว่าได้เริ่มพลิกพลันก็ว่าได้ แรกเริ่มจากผู้เรียบเรียงและรวบรวมสำนักบัณฑิตฮั่นหลินจนเติบโตกลายมาเป็นเฉิงเซี่ยงของราชสำนัก
หากไม่ใช่ครั้งนี้เขาเสนอให้เฟิ่งชิงหัวจับแพะชนแกะ งั้นนางจะต้องยังคิดว่าเขาก็เป็นเพียงแค่ขุนนางที่หาเงินเก่งคนหนึ่งเท่านั้น แต่เพราะเช่นนี้ยิ่งกลับทำให้เฟิ่งชิงหัวเริ่มที่จะสงสัยในตัวคนคนนี้ขึ้นมา
หรืออาจเป็นไปได้ว่าการช่ำชองในการหาเงินเป็นเพียงฉากหน้าของเขาเท่านั้น สำหรับในใจลึกๆ แล้วนั้นกลับมาเพียงเขาที่จะรับรู้ได้เท่านั้น
ผ่านไปไม่นานเฟิ่งชิงหัวก็เดินมาเข้าใกล้ถ้ำธรรมชาติแห่งหนึ่งแล้ว อุณหภูมิพวกถ้ำพวกนี้จะต่ำกว่าบริเวณภายนอก ตอนนี้ในนั้นจัดวางเครื่องเรือนไว้หลายชิ้นอย่างเรียบง่าย เตียงใหญ่ 1 ตัว และในตอนนี้บนเตียงก็กำลังมีคนหนึ่งคนนอนอยู่ ไอออกมาเป็นครั้งคราวอยู่บ้าง
เฟิ่งชิงหัวเดินเข้าไปด้านใน คนผู้นั้นดูเหมือนว่าก็รับรู้ได้ว่ามีคนมา จึงลืมตาขึ้นมามองมาที่นาง
และในช่วงนี้เอง เฟิ่งชิงหัวแน่นิ่งไปในตำแหน่งเดิมนั้นทันที ร่างทั้งร่างราวกับว่าถูกตะปูตรอกไว้ตรงนั้นแน่นก็ไม่ปาน
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า ดูไปแล้วอายุเพียงแค่ไม่น่าเกินยี่สิบกว่าปี เส้นผมกระจัดกระจายอยู่บนข้างบ่าตามอำเภอใจ ดวงตาคู่หนึ่งเป็นประกายมาราวกับน้ำ สันจมูกงุ้มลงราวเสี้ยวพระจันทร์ ริมฝีปากสีชมพูเล็ก เนื่องจากสถานที่นี้หนาวเย็นจึงเห็นได้ชัดว่าผิวขาวซีดอยู่บ้าง พอเห็นก็รู้ว่าเป็นคนที่อยู่ติดเตียงมาหลายปีแล้ว
และที่สำคัญที่สุดก็คือผู้หญิงคนนี้รูปร่างหน้าตาเหมือนกันกับเฟิ่งชิงหัวอย่างกับแกะเลย
เพียงแค่ครั้งแรกที่เห็น เฟิ่งชิงหัวก็สามารถมั่นใจได้มากพอว่านี่คือแม่ผู้ให้กำเนิดนาง คนแซ่หยู
“ท่านแม่!” เฟิ่งชิงหัวรีบเดินขึ้นมาสองก้าว ใครจะไปรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นกลับสั่นไปหมดอย่างขี้ขลาดแล้วก็ถอยหลังไปสองก้าว ร่างทั้งร่างขดอยู่มุมหนึ่งของเตียง มองมาที่นางด้วยความตื่นกลัวอย่างสุดขีด ราวกับว่านางเป็นสัตว์ดุร้ายอะไรที่นำหายนะมาก็ว่าได้
“เจ้า อย่า อย่าเข้ามา เจ็บ เจ็บๆ” ผู้หญิงพลางหดตัวไปแล้วก็กล่าวออกมาด้วยความหวาดกลัวไปพลาง เสียงในลำคอนั้นเพราะว่าอยู่ในที่หนาวเย็นมานาน ทำให้เสียงเล็กแหบแห้ง เหมือนดั่งถูกคนบีบกล่องเสียงเอาไว้แน่นก็ไม่ปาน
เฟิ่งชิงหัวสังเกตเห็นว่าผู้หญิงที่อยู่เบื้องหน้าดวงตาทั้งคู่ดูหม่นหมอง รูม่านตาขยาย คิ้วขมวดเข้าหากันแน่นตามสัญชาตญาณ ไม่สนใจแล้วว่านางจะกลัวหรือไม่ก็เข้าไปกุมมือของนางเอาไว้แน่นเพื่ออยากที่จะช่วยตรวจชีพจรให้นาง ใครจะไปคิดว่าผู้หญิงที่หดตัวเป็นก้อนๆ หนึ่งเดิมนั้นจู่ๆ กลับยกมือสะบัดมาทางเฟิ่งชิงหัว
เฟิ่งชิงหัวหลบออกด้วยความรวดเร็ว ยังไงก็เป็นกังวลฝ่ายหญิง ดังนั้นมือก็เลยยื่นออกไปประคองนางเอาไว้อยู่แล้ว บนข้อมือที่ขาวนวลจู่ๆ ก็ถูกเข็มที่คมกริบแทงเข้าไป เส้นเลือดเส้นหนึ่งจู่ๆ ก็ปูดขึ้นมา
คราวนี้เฟิ่งชิงหัวจึงสังเกตได้ว่าบนมือของผู้หญิงได้กุมเข็มเอาไว้หนึ่งเข็ม เนื่องจากกุมไว้เป็นเวลานาน ดังนั้นในฝ่ามือของนางก็ได้ถูดปลายเข็มนั้นแทงจนบาดเจ็บ บนปลายนิ้วมีเลือดไหลออกมา
ก็เลยดึงเข็มที่ทิ่มอยู่ในปลายนิ้วของผู้หญิงคนนั้นออก เฟิ่งชิงหัวไม่ได้สนใจอาการบาดเจ็บของตนเอง ฉีกดึงผ้าออกมาพันแผลหยุดเลือดให้ผู้หญิงคนนั้นตามความตั้งใจ
“ข้าไม่ได้จะทำร้านท่าน ข้าอยากจะรักษาให้ท่าน อย่ากลัว” ครั้งนี้เฟิ่งชิงหัวจึงรับรู้ว่าสติสัมปชัญญะของท่านแม่น่าเกรงว่าน่าจะมีปัญหาเล็กน้อยแม้ว่าจะรู้ช้าไปก็ตาม ได้เพียงกล่าวปลอบประโลมนางด้วยเสียงที่อ่อนโยนเบาๆ หวังว่านางจะสามารถคลายการต่อต้านลงมาบ้าง
อาจเป็นเพราะดวงตาทั้งคู่ของเฟิ่งชิงหัวดูจริงใจมากเกินไป ผู้หญิงที่เดิมนั้นก็ไม่ได้สงบเท่าไรนักก็ค่อยๆ สงบลงมาจนได้ เดิมทีหมัดที่กำไว้แน่นก็ค่อยๆ คลายออกทีละนิดๆ เฟิ่งชิงหัวรีบจับชีพจรให้นางทันที
เพิ่งจะจับลงไปบนชีพจร รูม่านตาของเฟิ่งชิงหัวก็หดลงเข้าหากันรุนแรง สีหน้าภายนอกควบคุมไว้ไม่ได้จนแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่จริงจัง
ฝ่ายหญิงเห็นดังนั้นก็รีบดึงมือกลับ และมองมาที่เฟิ่งชิงหัวด้วยความหวาดระแวงอย่างไม่สงบ จากนั้นกล่าวพึมพำออกมาว่า: “อย่า อย่าสูบเลือดของข้า เจ็บๆๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว
จะอัพเรื่องนี้ต่อไปมั้ยค่ะ😭...
เรื่องนี้หายไปนาน...