พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว นิยาย บท 184

อย่างไรเสียเหยียนหรูชิงก็ได้สัมผัสกับร่างศพของคนมาเป็นเวลานานหลายปี แม้จะรู้สึกว่าสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าทำให้คนรู้สึกขนหัวลุกเสียวสันหลัง แต่อย่างน้อยก็ทำใจได้บ้างแล้ว ได้ฟังคำพูดของเฟิ่งชิงหัวแล้วก็รู้สึกสงสัยขึ้นมา และเอ่ยขึ้น: “คืออย่างไรหรือ?”

“ใต้เท้าเหยียนโปรดดู” มือเปื้อนเลือดของเฟิ่งชิงหัวชี้ไปที่หัวใจดวงที่สอง: “ท่านคิดว่าดวงนี้เป็นเช่นไรบ้าง?”

เหยียนหรูชิงฝืนทนกับความรู้สึกขนหัวลุก: “อืม มีสีแดงสดกว่าคนอื่น และมีรูปร่างสมบูรณ์กว่าดวงอื่น ๆ”

“ใช่แล้ว แล้วดวงนั้นเล่า?” เฟิ่งชิงหัวชี้ไปยังดวงที่สาม

“เอ่อ ดวงที่สามหรือ มีสีที่ค่อนข้างเข้มกว่า รูปร่างบวมใหญ่” พูดมาถึงครึ่ง เหยียนหรูชิงก็ยื่นมือออกมากุมหน้าผาก และกล่าวด้วยริมฝีปากซีดเซียว: “เนื้อค่อนข้างจะหละหลวม แถมยังมีรูเล็ก ๆ อยู่บนนั้น”

กล่าวจบ ก็รีบขยับออกห่างเฟิ่งชิงหัวทันที และหอบหายใจสูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าไป

เฟิ่งชิงหัวกล่าวชื่นชม: “ใต้เท้าเหยียนสังเกตได้ละเอียดอ่อนจริง ๆ”

เหยียนหรูชิงโบกมือ ทว่ากลับได้แอบพึมพำอยู่ในใจ ว่ากันว่าพระชายาแปดขี้ขลาดราวกับหนู เป็นคนเงียบ ๆ มิใช่หรือ เหตุถึงได้จับหัวในดวงหนึ่งราวกับจับไข่อย่างไรอย่างนั้นเล่า

เฟิ่งชิงหัวมองไปทางหนานกงจี๋: “ท่านพ่อ ท่านเองก็มาดูหน่อยไหม?”

หนานกงจี๋ขมวดคิ้ว: “หนานกงเยว่ลั่ว เจ้าอย่ามาทำให้ผู้คนหวาดกลัวอยู่ตรงนี้เลย ทุกคนต่างก็มีสภาพร่างกายที่แตกต่างกัน อายุต่างกันมีสภาพที่แตกต่างกันไปก็เป็นเรื่องปกติ ก็เช่นเดียวกันกับว่าบนโลกใบนี้ไม่มีทางที่จะมีลายของใบไม้ที่เหมือนกัน บนโลกใบนี้ไม่มีหัวใจที่เหมือนกันเช่นเดียวกัน! เจ้าเอาหัวใจของคนตายหลายคนมาเปรียบเทียบเช่นนี้ มีข้ออ้างอิงอะไร?”

คำพูดนี้กล่าวอย่างไม่ไว้หน้าเลยสักนิด ขาดแต่จะบอกออกมาตรง ๆ ว่าเฟิ่งชิงหัวได้อาศัยหลักวิทยาว่าคนพวกนี้ไม่กล้าดูภาพนองเลือดถึงได้พูดจาเหลวไหล เบี่ยงเบนมุมมองอยู่ที่นี่ เพื่อบรรลุจุดประสงค์ที่ไม่อาจบอกผู้อื่นได้ของตนเอง

เฟิ่งชิงหัวได้ยินดังนั้นกลับยิ้มขึ้นมา ยิ้มอย่างไม่ใส่ใจแฝงไปด้วยความพอใจ จากนั้น ก็ได้กล่าวขึ้นมาอย่างเข้าอกเข้าใจ: “ท่านพ่อ ท่านไม่เข้าใจข้า ข้าไม่โทษท่าน”

หนานกงจี๋ได้ยินดังนั้น ก็แทบจะกระอักเลือดออกมา

น้ำเสียงที่ราวกับว่าไม่อยากจะไปใส่ใจกับเด็กคนหนึ่งนี้มันหมายความเช่นไรกัน

หนานกงจี๋รับราชการมาหลายปีเช่นนี้ คนที่ดูถูกเขาก็มี คนที่หวาดเกรงเขาก็มี แต่ก็ไม่มีใครเห็นเขาเป็นเหมือนกับเด็กคนหนึ่งมาก่อน มันไม่ต่างอะไรกับการเหยียบย่ำสติปัญญาของเขา หัวใจที่หยิ่งในศักดิ์ศรีของเขาจะทนรับได้อย่างไร

“ข้าเข้าใจเจ้ายังไม่พอหรืออย่างไร เจ้ายังต้องการให้คนอื่นเข้าใจเจ้าอีกหรือ?” ไม่ทันตั้งตัว น้ำเสียงลึกลับก็ได้ดังขึ้น ราวกับมีสายลมอันเย็นยะเยือกได้พัดขึ้นมาบริเวณรอบ ๆ อุณหภูมิของอากาศก็ได้ลดลงมา บวกกับกลิ่นคาวเลือดที่อยู่บนพื้น ขาดแค่วิญญาณลอยไปลอยมาก็จะมีบรรยากาศเช่นเดียวกันกับยมโลกแล้ว

เฟิ่งชิงหัวเหลือบตามองบนให้กับจ้านเป่ยเซียว และชี้ลงไปบนพื้นที่อยู่ด้านข้าง: “ในเมื่อท่านอ๋องเข้าใจ เช่นนั้นท่านอ๋องลองพูดดูหน่อยไหม?”

คำพูดนี้มันเป็นการทำให้ลำบากใจอยู่แล้ว เพราะไม่ว่าอย่างไรเสีย เฟิ่งชิงหัวไม่คิดหรอกว่าคนอย่างจ้านเป่ยเซียวจะลดตัวมามองของพวกนี้ สามารถฆ่าคน สังหารคนได้เป็นเรื่องหนึ่ง สำหรับเรื่องโครงสร้างของศพเกรงว่าจะไม่มีความสนใจ

กำลังเตรียมที่จะกล่าวอธิบายด้วยตนเอง ก็ได้ยินบุรุษหนุ่มกล่าวเสียงเข้ม: “รรูปลักษณะของศพสีแดงพวกนั้นไม่ต่างอะไรกับหัวในของวัยกลางคนนัก สีคล้ายกับของคนหนุ่ม สภาพเนื้อคล้ายกับก้อนเนื้อบดไม่ต่างอะไรกับของคนแก่ เส้นเลือดที่ด้านบนกลับถูกพิษจนแทบหมด สำหรับจุดที่แตกต่างกันก็คือทั้ง ๆ ที่เป็นหัวใจของคนอายุสี่สิบกว่า กลับมีสภาพเหมือนอายุมาก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว