พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว นิยาย บท 23

สรุปบท บทที่ 23 เสี่ยวหง เสี่ยวจื่อ เสี่ยวหลาน: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว

ตอน บทที่ 23 เสี่ยวหง เสี่ยวจื่อ เสี่ยวหลาน จาก พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 23 เสี่ยวหง เสี่ยวจื่อ เสี่ยวหลาน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว ที่เขียนโดย เสี่ยวโหม เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

“พวกท่านสองคน ไม่ได้กินข้าวมาหลายวันแล้วหรือ? ดูเหมือนว่า ข้าต่างหากที่เป็นคนถูกลงโทษคนนั้นไม่ใช่หรือ?” เฟิ่งชิงหัวเตือนสติอย่างเลียบๆเคียงๆ นางที่เป็นแม่ครัวหลักคนนี้ยังไม่ได้กินเลยนะ

ก็ได้ยินจ้านเป่ยเซียวกล่าวขึ้นมาว่า: “การลงโทษของวันนี้ละเว้นไปชั่วคราวก่อน”

เฟิ่งชิงหัวกำลังคิดจะเอ่ยปาก ก็ได้ยินจิ่งยี่ชิงกล่าวออกมาก่อนว่า: “ให้คนเตรียมน้ำชาดับร้อนแล้วก็ข้าวสวยมาหน่อย เผ็ดมาก อาหารพวกนี้เผ็ดมาก แต่ว่าเพื่ออาหารเลิศรสแล้วท้องเสียก็ไม่เสียดายเลย”

เฟิ่งชิงหัวหัวเราะเยาะออกมาแล้วกล่าวว่า: “งั้นหรือ เช่นนั้นยังเป็นการลำบากท่านจริงๆ”

เฟิ่งชิงหัวออกไปยกน้ำชากับข้าวสวยกลับมารอบหนึ่ง อาหารบนโต๊ะก็เหลือเพียงแค่หนึ่งในสามส่วนเท่านั้นแล้ว ไม่มีเวลามาสนใจคุยเหตุผลกับแขกไม่ได้รับเชิญสองคนนี้แล้ว ตักข้าวสวยให้ตัวเองหนึ่งถ้วยแล้วก็นั่งลงไปเริ่มกวาดอาหารที่เหลือจนเกลี้ยง

ตอนนี้จิ่งยี่กินอิ่มไปกว่าครึ่งแล้ว ความเร็วก็ชะลอลงมา เห็นความเคลื่อนไหวของเฟิ่งชิงหัวในตอนนี้ อดที่จะจิ๊ปากชมเปาะไม่ได้: “ท่าทางเจ้าเช่นนี้ เหมือนกุลสตรีที่มาจากตระกูลมีชื่อเสียงตรงไหน ท่าทางการกินหยาบคายมากกว่าผู้ชายเสียอีก เมื่อครู่ตอนอยู่นอกลานเกือบจะถูกท่าทางแสร้งทำเป็นเรียบร้อยของเจ้าหลอกซะแล้ว”

เฟิ่งชิงหัวไม่สนใจเขา ไม่แม้แต่จะมองไปเลยด้วยซ้ำ มุ่งสมาธิมองไปที่อาหารตรงหน้าเพียงจุดเดียวเท่านั้น

และอีกด้านหนึ่ง จ้านเป่ยเซียวก็พบปัญหาเช่นกัน ไก่ผัดเผ็ดที่อยู่ในจาน ตอนที่เขาคีบยังมีเจ็ดแปดชิ้นชัดๆ แต่เมื่อครู่นี้หลังจากที่เขาเพิ่งจะกินเสร็จแล้วจะไปคีบอีกก็พบว่าเห็นก้นจานแล้ว

ความเร็วในการกินอาหารของผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าทำให้คนทึ่งอย่างมาก เจ้าสิ่งนั้นสนใจแต่ยัดเข้าไปในปากราวกับไม่จำเป็นต้องเคี้ยวและย่อยเลย

เมื่อคิดเช่นนี้ จ้านเป่ยเซียวก็ก้มหน้าลงไป คีบสองสามชิ้นมาใส่ในถ้วยของตัวเองเงียบๆแล้วค่อยๆลิ้มรสชาติอย่างช้าๆ

อาหารที่เต็มโต๊ะถูกพวกเขาสามคนกวาดจนเกลี้ยงไปเช่นนี้ จิ่งยี่แทบอยากจะเลียแม้แต่จานแล้วด้วยซ้ำ

“ไม่เลวไม่เลว ฝีมือทำอาหารของเจ้าดีมาก อาหารพวกนี้ก็สดใหม่ดี รสชาติของเนื้อก็ไม่เลวเช่นกัน” จิ่งยี่กล่าวขณะที่ใช้ไม้จิ้มฟันแคะฟันและเขย่าขาไปด้วย ท่าทางกวนประสาทอย่างมาก

เฟิ่งชิงหัวไม่ลืมกล่าวขึ้นมาอย่างถ่อมตน: “ที่ไหนกัน เป็นเพราะดินและน้ำในจวนอ๋องอุดมสมบูรณ์ สามารถเลี้ยงสัตว์ปีกที่ดีเช่นนี้ออกมาต่างหาก”

“เสี่ยวหลาน เสี่ยวจื่อ พวกเจ้าตายอย่างอนาถยิ่งนัก ข้าเลี้ยงดูพวกเจ้าจนเติบใหญ่มาอย่างยากลำบาก คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้พวกเจ้าจะถูกฆ่าตายอย่างโหดร้ายเช่นนี้!”

ทันทีที่สิ้นเสียงลง สายตาที่โหดเหี้ยมของจิ่งยี่ก็จ้องมองดูเฟิ่งชิงหัวอย่างไม่ละสายตา ราวกับว่าคนที่อยู่ตรงหน้า ก็คือศัตรูที่ฆ่าล้างตระกูลของเขา

ใบหน้าของเฟิ่งชิงหัวเต็มไปด้วยความงงงวย: “จู่ๆท่านเป็นบ้าอะไร? เสี่ยวหงเสี่ยวหลานอะไรเนี่ย ก็แค่สัตว์ปีกไม่กี่ตัวไม่ใช่หรือ?”

“พวกเขาไม่ใช่สัตว์ปีก!” ดวงตาทั้งคู่ของจิ่งยี่แดงก่ำ

“อ้อ ตอนนี้บนเตายังมัดเอาไว้สองตัว ท่าน......” เฟิ่งชิงหัวยังไม่ทันจะพูดจบ ก็เห็นจิ่งยี่วิ่งออกไปทางห้องครัวของนาง ด้วยความเร็วที่เร็วอย่างกับลม

ในเรือนที่เดิมทีมีเสียงดังเอะอะก็เหลือเพียงแค่สองคนเท่านั้น เฟิ่งชิงหัวหันหน้ามองไปทางจ้านเป่ยเซียวทำราวกับกำลังดูละครตลก เอียงหน้าแล้วกล่าวถามว่า: “ศิษย์น้องท่านเป็นอะไรไป? กินสัตว์ปีกไปไม่กี่ตัว จำเป็นต้องมีปฏิกิริยามากมายขนาดนี้เลย ตัวเขาเองก็กินอย่างมีความสุขที่สุดไม่ใช่หรือ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว