พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว นิยาย บท 242

สรุปบท บทที่ 242 รู้สึกอับอายขายหน้าหรือเป็นทุกข์: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว

อ่านสรุป บทที่ 242 รู้สึกอับอายขายหน้าหรือเป็นทุกข์ จาก พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว โดย เสี่ยวโหม

บทที่ บทที่ 242 รู้สึกอับอายขายหน้าหรือเป็นทุกข์ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายประวัติศาสตร์ พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เสี่ยวโหม อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ไทเฮาถูก แม่นมประคองเดินเข้ามา ข้างหลังตามด้วยหญิงชราผมหงอก ที่ค้ำไม้เท้า

หญิงชราดูจิตใจไม่เลว ดวงตาทั้งสองข้างเฉียบแหลมเป็นพิเศษ เพียงเข้าประตู หลังจากเมื่อเห็นเจียงหยูหวันคุกเข่าอยู่บนพื้นก็ตะโกนตกใจ : “ หวันหวัน เจ้าร้องไห้ทำไม ? ยังคุกเข่าที่พื้นอีก ? ใครรังแกเจ้า ?”

เฟิ่งชิงหัวได้ยินเช่นนี้ก็เลิกคิ้ว เหลือบมองหญิงชรา นี่คือมารดาของเจียงหยูหวัน คุณนายของผู้อาวุโส ?

ดูไปแล้วหญิงชราผู้นี้ยากต่อการรับมือ ทั้งยังความสัมพันธ์ของไทเฮาก็ไม่เลว เข้าประตูมาก็ไม่ได้ทำความเคารพ ถามประโยคเช่นนี้ออกมาโดยตรง

คนที่มีตาก็ตามมองออก เฟิ่งชิงหัวใกล้กับเจียงหยูหวันมากที่สุด ฮองเฮาเหนียงเหนียงยังคงนั่งอยู่ที่เดิม คนที่สามารถรังแกเจียงหยูหวันได้ นอกจากนางแล้วยังจะเป็นใคร

เฟิ่งชิงหัวไม่ได้พูดอะไร กำลังจะออกไปข้างนอก

“หยุด !” ไทเฮากล่าวเสียงโกรธ

เฟิ่งชิงหัวรากกับว่าไม่ได้ยิน เพียงแต่ประตูใหญ่ถูกคนในวังล้อมไว้อย่างรวดเร็ว ไม่มีช่องว่างแม้แต่น้อย

สีหน้าของไทเฮาเปลี่ยนไปไม่น่าดูเป็นพิเศษ นางเป็นไทเฮาที่สง่าผ่าเผย ในพระราชวังแห่งนี้ แม้กระทั่งฮ่องเต้ก็ยังไม่กล้าอกตัญญูต่อนาง แต่ทว่าองค์หญิงของต่างแคว้นนี้ คาดไม่ถึงว่าเห็นนางไม่ทำความเคารพ และยังจะเดินไปอีก บังอาจยิ่งนัก !

แม้กระทั่งฮองเฮาเหนียงเหนียงมองดูสายตาขององค์หญิงซีหลันก็ยังประหลาดใจ

องค์หญิงซีหลันผู้นี้ วันนี้หรือว่าจะกินไส้ในของเสือดาว(กล้าหาญ กล้าได้กล้าเสีย )ไปหรือ ?

ไม่ไว้หน้าฮองเฮาอย่างนางก็ช่างเถอะ ในตอนนี้ นึกไม่ถึงว่าจะเดินจากไปโดยตรง

อีกด้านหนึ่ง ภรรยาของผู้อาวุโสเจียงก็เดินไปข้างกายเจียงหยูหวันและพยุงนางขึ้นนานแล้ว

“หยูหวัน เจ้าบอกย่ามา ใครรังแกเจ้า ถึงแม้ว่าย่าจะทิ้งศักดิ์ศรี ก็จะต้องช่วยเจ้าแก้แค้นอย่างแน่นอน หลีกเลี่ยงคนที่ไม่เกี่ยวข้องคิดว่ารังแกตระกูลเจียงของเราได้ !”

ถึงแม้จะไม่ได้ชี้ชื่อกล่าวแซ่ ทว่าในตอนที่กล่าวคำนี้ สายตาก็จดจ้องอยู่ที่เฟิ่งชิงหัวไม่วางตา

เจียงหยูหวันพลางเช็ดน้ำตาที่ยังไงก็ไหลออกมาไม่หมด พลางส่ายหน้า : “ท่านย่าช่างเถอะ องค์หญิงซีหลันมิได้รังแกหลาน”

พูดจบ ก็เงยหน้าเหลือบมองที่ของเฟิ่งชิงหัว และเก็บสายตากลับมาอย่างรวดเร็ว ลักษณะเช่นนั้น ราวกับว่าได้รับการคุกคาม

ใบหน้านั้น ดอกสาลี่ต้องหยาดฝน ทำให้เจ็บปวดใจเสียจริง

เฟิ่งชิงหัวหันไปทางไทเฮา กล่าวเสียงดัง : “ไทเฮาเหนียงเหนียงได้ยินแล้ว คุณหนูเจียงก็บอกว่าข้ามิได้รังแกนาง เช่นนั้นนางร้องไห้เพราะเหตุใดก็ไม่เกี่ยวอันใดกับข้า ข้าสามารถไปได้แล้วใช่หรือไม่ ?”

ไทเฮายืนอยู่ที่เดิมมองเฟิ่งชิงหัวด้วยสายตาเยียบเย็น คนในวังที่อยู่ข้างหลัง มิได้ให้จากไป

เฟิ่งชิงหัวยิ้มพลางมองไปยังฮองเฮาเหนียงเหนียง : “ฮองเฮาเหนียงเหนียง ท่านยังจะชะงักงันอยู่ไย ไทเฮามาถึงตำหนักพักของท่านแล้ว ท่านยังไม่ดูแล ? เหตุใด หรือต้องการให้คนนอกอย่างข้าอยู่ช่วยท่านดูแล?”

ฮองเฮาเพิ่งจะมีปฏิกิริยาตอบโต้ ลูกจากที่นั่งโดยมิรอช้า ประคองไทเฮาให้นั่งบนที่นั่งคนสำคัญ ตนเองก็ไม่กล้านั่ง ยืนปรนนิบัติอยู่ข้าง ๆ

ขณะนี้ยังไม่กลายเป็นนางพระชายาขององค์รัชทายาทก็ยังกล้าไม่เอานางที่เป็นไทเฮาผู้สง่าผ่าเผยอยู่ในสายตา หากวันข้างหน้ากลายเป็นพระชายาขององค์รัชทายาทได้เลือกเป็นฮองเฮา เช่นนั้นยังจะมีตำแหน่งแม่สวามีแก่ ๆ อีกรึ ?

ดังนั้น ไทเฮาตัดสินใจจะต้องสอนบทเรียนที่รุนแรงแก่องค์หญิงซีหลันต่อหน้าฮองเฮา และถือโอกาสปราบปรามความหยิ่งยโสของฮองเฮา

ไทเฮากล่าวอย่างเย็นชากับเฟิ่งชิงหัวที่อยู่หน้าประตู : “เห็นข้าแล้วแต่กลับไม่คุกเข่ากราบ นี่เป็นมารยาทที่แคว้นของเจ้าให้เจ้ามารึ ?”

เฟิ่งชิงหัวเลิกคิ้ว : “ไทเฮาเหนียงเหนียง ท่านคือไทเฮาของเทียนหลิง ข้าคือองค์หญิงของเป่ยเว่ย พบกันการกระทำมากที่สุดก็มารยาทของทูต เหตุใดจะต้องคุกเข่าลงกราบท่าน ?”

“ดี เป็นเด็กที่ปากคอเราะรายดี เช่นนั้นข้าถามเจ้า นังหนูของตระกูลเจียงกวนโมโหเจ้ารึ เหตุใดเจ้าจะต้องปฏิบัติต่อนางเช่นนี้ ?”

เฟิ่งชิงหัวกล่าวอย่างไม่มีความผิด : “คำพูดนี้ของไทเฮาเหนียงเหนียงข้าฟังไม่เข้าใจ ? ข้าปฏิบัติต่อนางอย่างไร ? ข้าตีนางหรือ ? หรือว่าด่านางแล้ว ?”

“เช่นนี้เหตุใดนางร้องไห้เช่นนี้ ?”

เฟิ่งชิงหัวไตร่ตรองครู่หนึ่ง : “อาจจะ หลั่งน้ำตาเพราะอับอายขายหน้า ? หรือ เป็นเพราะไม่สามารถเป็นพระชายาขององค์รัชทายาทจึงเป็นทุกข์ ? ก็มิรู้ได้แล้ว อย่างไรก็ตามข้าก็มิใช่พยาธิไส้เดือนในท้องของนาง ไทเฮาท่านถามนางโดยตรงไม่ดีกว่าหรือ ?”

ผลลัพธ์เช่นนี้ตามที่ไทเฮาคาดไว้ ใช้โอกาสนี้ชำเลืองมองฮองเฮาเหนียงเหนียง ในใจฝ่ายหลังเองก็เต็มไปด้วยความอัดอั้นตันใจกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรมแต่กลับไม่สามารถพูดออกมาได้อย่างชัดเจน

ฮูหยินเฒ่าเจียงอีกด้านกลับพูดอย่างกะทันหัน : “เจ้ายัยผู้หญิงต่างแคว้นไม่รู้จักอายเลยจริง ๆ !”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว